ตำรวจตามรวบ โจรฟันน้ำนม ขับเก๋งตระเวนตัดสายเคเบิลขาย อายุแค่ 13-14 ปี

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.อ.ศิวัช  ศรีวิชัย ผกก.สน.ลำผักชี สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี  นำโดย พ.ต.ต.อภิภู อินทร์ถา  สว.สส.สน.ลำผักชี ร.ต.อ.สมพงษ์ ศิริมงคล ร.ต.อ.สุขเกษม วรรณสิทธิ์ รอง สว.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ลำผักชี จับกุม ด.ช.เอ (นามสมมติ)อายุ 14 ขวบ ด.ช.บี(นามสมมติ) อายุ 14 ขวบ ด.ช.ซี (นามสมมติ) อายุ 13 ขวบนายดี(นามสมมติ) อายุ 17 ปี และด.ช.อี(นามสมมติ) อายุ 14 ขวบ แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมของกลาง รถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีบรอนซ์ คันก่อเหตุ และของกลางเป็นสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ทองแดง ความยาวประมาณ 120 เมตร และสายเคเบิ้ลที่ถูกปอกแล้ว 1 ม้วน

จับกุมได้กลางซอยสุวินทวงศ์ 17 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก  กทม. ต่อเนื่องเพิงพักไม่มีเลขที่ อยู่ภายในหมู่บ้านเคซี ซอยมิตรไมตรี 10/1 แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กทม. เมื่อช่วงเช้า วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเวลา 04.40 น. วันเดียวกัน ฝ่ายสืบสวนรับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ขับรถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีบรอนซ์ กำลังตัดสายเคเบิ้ลที่ปากซอยสุวินทวงศ์ 17 และลากเข้าไปในซอยสุวินทวงศ์ 17 แล้วต่อมาฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณกลางซอยสุวินทวงศ์ 17  มีชายวัยรุ่น 5 คน กำลังปอกสายเคเบิ้ล อยู่ ฝ่ายสืบสวนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นวิ่งขึ้นรถเก๋งและขับรถหลบหนีไปได้ 4 คน  จับกุมได้ 1 คน  คือ ด.ช.เอ พร้อมของกลางสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ทองแดง ความยาวประมาณ 120 เมตร ด.ช.เอ รับสารภาพว่า นายดีเป็นเจ้าของรถเก๋ง ขับรถพาพวกหลบหนี รวม 4 คน น่าจะไปรวมตัวกันที่เพิงพักไม่มีเลขที่ภายในหมู่บ้าน ในซอยมิตรไมตรี 10/1 ตามไปจับกุม ด.ช.บี และด.ช.ซี ที่เพิงพักดังกล่าว ส่วนนายดี วิ่งออกหลังเพิงพักหลบหนีไปได้ ตรวจค้น

รถเก๋งนิสสัน มาร์ช ที่เปิดท้ายรถทิ้งไว้พบสายเคเบิ้ลที่ถูกปอกแล้ว ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง รวมทั้งเชิญผู้ปกครองผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาที่สน.ลำผักชี หลังจากนั้นได้มีผู้ปกครองนำนายดี และด.ช.อี เข้ามามอบตัวที่โรงพัก

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดเบื้องต้นรับสารภาพรวมกันก่อเหตุลักตัดสายเคเบิ้ลจริง ก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง ในหลายพื้นที่ ได้แก่ สน. ลำผักชี สน.มีนบุรี สน.นิมิตรใหม่ สน.หนองจอก และสน.ลำหิน  รวมมูลค่าเสียหายหลายแสนบาท แต่ตัดไปขายร้านขายของเก่าได้เงินแค่ไม่กี่หมื่นบาท

จากนั้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี ที้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเยาวชน เจ้าหน้าที่จะต้องประสานทีมสหวิชาชีพ ร่วมสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป