โอมิครอนระบาดถึง "คิริบาส" หนึ่งในประเทศปลอดโควิด-19 สุดท้ายของโลก

โอมิครอนระบาดถึง "คิริบาส" หนึ่งในประเทศปลอดโควิด-19 สุดท้ายของโลก

โอมิครอนระบาดถึง "คิริบาส" หนึ่งในประเทศปลอดโควิด-19 สุดท้ายของโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลกนั้น สาธารณรัฐคิริบาส หมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก กึ่งกลางระหว่างมลรัฐฮาวายและประเทศออสเตรเลีย ได้ปิดประเทศเป็นเวลาเกือบสองปีเต็ม เพื่อป้องกันไม่ให้โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เข้ามาในประเทศ

ในที่สุดคิริบาสได้เริ่มเปิดประเทศในเดือนมกราคมนี้ โดยอนุญาตให้ Church of Jesus Christ of Latter-day Saints หรือ ศาสนาคริสต์นิกายมอร์มอน เช่าเหมาเครื่องบินลำหนึ่ง เพื่อนำเอาชาวคิริบาส 54 คนกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเครื่องเป็นมิสชันนารี หรือผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายมอร์มอนที่เดินทางออกจากคิริบาสไปปฏิบัติภารกิจทั่วโลก ก่อนที่จะมีการปิดประเทศ

เจ้าหน้าที่คิริบาสได้ทำการตรวจสอบผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าว 3 ครั้งด้วยกัน ตั้งแต่อยู่ที่หมู่เกาะฟิจิ และยังกำหนดให้ทั้งหมดต้องได้รับการฉีดวัคซีน และถูกกักตัวในระหว่างที่รอผลตรวจโควิดเมื่อถึงคิริบาสแล้ว

แต่มาตรการที่ดูหนาแน่นรัดกุมดังกล่าวก็ยังไม่เพียงพอ หลังจากที่ปรากฎว่าผู้โดยสารมากกว่าครึ่งหนึ่งของเที่ยวบินพิเศษดังกล่าวติดโควิด-19 และการระบาดของโควิด-19 ยังได้กระจายเข้าไปสู่ชุมชนอีกด้วย จนทำให้ยอดผู้ติดโควิด-19 เพิ่มจาก 36 คนเป็น 181 คนภายในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะภัยพิบัติ

คิริบาสและประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกอื่นๆ เป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายของโลกที่หลุดรอดจากการระบาดของโควิด-19 ด้วยเหตุที่อยู่ห่างไกลจากประเทศอื่นๆ และจากการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม การป้องกันและเฝ้าระวังของประเทศเหล่านี้ ก็ยังไม่สามารถต้านทานการระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์โอมิครอนไปได้

เฮเลน เพทูซิส-แฮร์ริส (Helen Petousis-Harris) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนแห่งมหาวิทยาลัยอ๊อคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Associated Press ว่า ในที่สุดแล้วโควิด-19 จะระบาดไปทุกหนทุกแห่งทั่วโลก ไม่มีที่ใดรอดพ้นไปได้ เพียงแต่ว่า ประเทศที่ยังรอดมาได้เป็นเวลานานนั้น จะสามารถซื้อเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ทันหรือไม่เท่านั้น

ปัจจุบันร้อยละ 33 ของประชากร 113,000 คนของคิริบาสได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ในขณะที่ร้อยละ 59 ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงแค่เข็มเดียว ส่วนการให้บริการด้านสาธารณสุขของหมู่เกาะคิริบาสนั้นเป็นเพียงการให้บริการขั้นต้นเท่านั้น โดยทั้งประเทศมีเตียงแผนกผู้ป่วยหนัก หรือผู้ป่วย ICU เพียงแค่ไม่กี่เตียง ในอดีต ต้องส่งผู้ป่วยอาการหนักไปรักษาต่อที่หมู่เกาะฟิจิหรือประเทศนิวซีแลนด์

ปัจจุบัน คิริบาสได้เปิดศูนย์กักตัวหลายแห่ง ประกาศใช้เคอร์ฟิวและมาตรการล็อคดาวน์ ประธานาธิบดี ทาเนติ มาเมา (Taneti Maamau) ได้กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่ารัฐบาลกำลังใช้ทรัพยากรที่มีทุกอย่างเพื่อควบคุมสถานการณ์ และขอร้องให้ผู้คนเข้ารับการฉีดวัคซีน

ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนนี้ คิริบาสเคยรายงานว่ามีคนติดโควิด-19 เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่เป็นพนักงานบนเรือขนส่งสินค้าที่เข้ามาที่เกาะ แต่ในท้ายที่สุดเรือขนส่งสินค้าลำดังกล่าวถูกห้ามไม่ให้เข้ามาจอดที่ท่าเรือในประเทศ

ส่วนที่ ซามัว ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งมีประชากร 205,000 คน ก็กำลังพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโควิด-19 เช่นกัน โดยการใช้มาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันศุกร์เย็นตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่พบว่ามีผู้โดยสาร 15 คน ที่บินเข้าประเทศมาจากออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาติดโควิด-19

จำนวนผู้ติดโควิด-19 ในซามัวนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 27 คน รวมไปถึงพยาบาลด่านหน้า 5 คนที่ทำหน้าที่รักษาผู้โดยสารติดเชื้อดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook