แม่เด็กหญิงวัย 15 ท้าสัตวแพทย์ฉาว ถ้าไม่ได้ทำอนาจารก็ออกมาคุยกัน ลั่นไม่สนเรื่องเงิน

แม่เด็กหญิงวัย 15 ท้าสัตวแพทย์ฉาว ถ้าไม่ได้ทำอนาจารก็ออกมาคุยกัน ลั่นไม่สนเรื่องเงิน

แม่เด็กหญิงวัย 15 ท้าสัตวแพทย์ฉาว ถ้าไม่ได้ทำอนาจารก็ออกมาคุยกัน ลั่นไม่สนเรื่องเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่นายกฤช อายุ 42 ปี นำตัวด.ญ.เอ(นามสมมุติ)อายุ 15ปี ที่อยู่ในอาการตื่นตกใจหวาดผวา เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อุทัย  ทองสาหร่าย สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อให้ดำเนินคดีกับสัตวแพทย์คนหนึ่งที่มีคลินิกรักษาสัตว์ที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังหลานสาวนำแมวไปรักษาแล้วถูกนายสัตวแพทย์กระทำอนาจารโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 19.00 น.

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19 มกราคม 2565 นางปรารถนา อายุ 34 ปี พร้อมด้วยลูกสาวได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ซึ่งในวันนี้บุตรสาวยังอยู่ในอาการตกใจ ตัวสั่นและร่ำไห้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางปรารถนา(มารดา) เปิดเผยว่า  ตนเองเคยเห็นแต่ในข่าวโทรทัศน์ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดกับบุตรสาวของตนเอง ตนเองอยากจะสอบถามนายสัตวแพทย์ว่ามีความรู้สูงถึงขนาดนี้ทำให้ทำเรื่องแบบนี้  ตนเองพร้อมลูกสาวมาแจ้งความกล่าวหา นายสัตวแพทย์แล้วทำไมไม่ออกมาคุยกัน ถ้าไม่ได้ทำออกมาคุยกัน ไม่ใช่หนีหายแบบนี้ ตนรับไม่ได้และเครียดมาก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในส่วนของเรื่องคดี ตนไม่กลัวว่าจะมีคนช่วยเหลือนายสัตวแพทย์ อย่างไรก็ตามตนเองก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนอยากให้นายสัตวแพทย์ออกมาขอโทษและคุยกัน ไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง เพราะเงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตนหาเงินเลี้ยงลูกได้ ตนเองมีบ้านมีรถไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ตอนนี้ขอให้นายสัตวแพทย์ออกมา

ขณะที่คลินิกสัตวแพทย์ที่เป็นร้านเกิดเหตุในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่าปิดหน้าร้าน โดยดึงประตูเหล็กม้วนลงอย่างแน่นหนา

ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท  ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายสัตวแพทย์มาเพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่เจ้าตัวไม่ประสงค์ที่จะเดินทางมา โดยมีการนัดผู้เสียหายไปสอบสหวิชาชีพ หากมีการปรากฏพยานหลักฐาน จะได้ขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดการกระทำอนาจาร  ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทางคลินิกส่งพยานหลักฐานเป็นหล้องวงจรปิดมาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเพื่อประกอบคดี หากคู่กรณีมีความบริสุทธิ์ใจสามารถมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพื่อนำมาประกอบคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook