พระพยอม เตือนแล้วนะ ดราม่าพระช่วยสีกาตั้งร้านก๋วยเตี๋ยว เหมือนน้ำตาลใกล้มด

พระพยอม เตือนแล้วนะ ดราม่าพระช่วยสีกาตั้งร้านก๋วยเตี๋ยว เหมือนน้ำตาลใกล้มด

พระพยอม เตือนแล้วนะ ดราม่าพระช่วยสีกาตั้งร้านก๋วยเตี๋ยว เหมือนน้ำตาลใกล้มด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระพยอม ตอบดราม่าพระช่วยสีกาตั้งร้านก๋วยเตี๋ยว เหมือนน้ำตาลใกล้มด ลั่น พระต้องโปร่งใส ไม่สมควรทำให้คนอื่นมาติเตียน

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 2 โพสต์คลิประบุข้อความว่า "#ร้องเรียนตรวจสอบ ชาวบ้านร้องเรียนเพื่อขอให้ตรวจสอบ ณ.วัดแห่งหนึ่งแถวบางใหญ่ นนทบุรี เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระสงฆ์ และสีกา คู่หนึ่งที่ทำตัวไม่เหมาะสมเท่าไรเย็นค่ำไปมาหาสู่กันที่บ้านบ่อยครั้ง ศุกร์-อาทิตย์ จะออกมาตั้งแต่ตี 2 กว่าๆ มาเตรียมร้านค้าให้สีกา พอเห็นกล้องวงจรปิดก็พยายาม ถอดปลั๊กบ้างผ้าปิดบ้าง คนในครอบครัวพอรู้ว่ามีกล้องวงจรปิด ก็มีโวยวายจะเอาปืนมายิงพระสงฆ์อีกรูปที่เป็นคนติดกล้องวงจนปิด นั่งกินเหล้าข้างกุฏิพระ เปิดเพลงเสียงดัง 

เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นที่ ข้างกุฏิพระวัด ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ พระจะออกมาช่วงเวลาประมาณ ตี2 กว่าๆของทั้ง 3วันแล้วหลังจากมีกล้องวงจรปิดของที่พระรูปหนึ่งติดเพื่อดักโจร พระในคลิปได้ทำการถอดปลั๊กบ้างผ้าปิดบ้างเพื่อไม่ให้กล้องเห็นภาพของตนว่ากำลังทำอะไรอยู่ช่วงเย็นๆของบางวันที่ขายของจะมีการกินเหล้าข้างกุฏิพระหรือที่ตนขายของอยู่ และมีพระนั่งอยู่ด้วย บางครั้งถ้ามีคนอยู่เยอะก็มีการเชิญชวนไปที่บ้านกัน ชาวบ้านในที่นี้เห็นหลายคน "

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊ติ๋มตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์หลวงพ่อหิน ภายในวัดศรีราษฎร์ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวพบนางละออ ทรัพย์ใหญ่ หรือเจ๊ติ๋มที่มีคลิปลงในโซเชี่ยลกับพระโหน่ง อายุ60ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว และพระชูบุญ อภิบุญโญ หรือพระโหน่ง อายุ 59 ปี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว

นางละออ หรือ เจ๊ติ๋ม เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพระโหน่ง มาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว และนับถือเขาเหมือนญาติ และพระโหน่งก็จะมาช่วยตนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำทุกเสาร์-อาทิตย์ ตนจะขายของแค่ 2 วัน ถ้าวันไหนตนขายพระโหน่งก็จะเข้ามาช่วย และตนสนิทกับแม่พระโหน่ง และพระโหน่งก็สนิทกับแฟนตนมาก่อน ซึ่งแฟนตนเคยไปยืมเงินพระโหน่งบ่อยครั้ง หลังจากแฟนตนเสียตนจึงสนิทกับพระโหน่ง และพระโหน่งก็มีลูกสาวแล้วแต่ก็เลิกกับแฟนไปแล้ว ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใดๆ ทั้งสิ้น ตนนับถือเหมือนญาติ  ส่วนเรื่องกินเหล้าที่มีคนเอาไปลง ส่วนตัวตนดื่มเหล้ามานานแล้วแต่เจ้าอาวาสไม่ให้กินแล้ว ให้ตนกลับไปกินที่บ้านและไม่ให้เอาขวดวางเพราะเดี๋ยวจะโดนตรวจ แต่พระก็ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับตนและไม่เคยมานั่งกินเหล้าด้วยกัน

ส่วนคนที่ถ่ายคลิปน่าจะเป็นพระอาร์ม ซึ่งเขาจะมีเรื่องขัดแย้งกันกับพระโหน่ง เพราะเคยโดนพระโหน่งติเตียนเรื่องการไม่ท่องหนังสือ บวชมา 2 พรรษาแล้วแต่ยังสวดอะไรไม่ค่อยได้ แล้วพระอาร์มก็ทำเหมือนแทนที่รองเจ้าอาวาส เพราะแต่ก่อนพระโหน่งเป็นผู้ดูแลเรื่องต่างๆ แล้วก็เอากุญแจโบสถ์เก็บไว้ไม่ให้คนอื่น ส่วนเรื่องอื่นตนก็ไม่ทราบแล้ว เพราะปกติเขาจะไม่คุยกันซึ่งพระอาร์มเพิ่งเข้ามาบวชใหม่อาจจะไม่รู้เรื่องราว เพราะตนก็ขายของที่นี่มาประมาณ 10-15 ปี แล้ว และอาศัยอยู่หลังวัดเช่าที่วัดอยู่ ซึ่งก็ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องชู้สาวกับพระโหน่งแน่นอน

พระชูบุญ หรือ พระโหน่ง กล่าวว่าตนช่วยติ๋มจัดร้านเสาร์-อาทิตย์ และรู้จักกันมานานมากตั้งแต่สามีติ๋มยังไม่เสียชีวิต ซึ่งตนบวชมานานมากตั้งแต่ปี 2543 ส่วนเรื่องที่มีคลิปออกไปเป็นคลิปที่มีนานมาแล้ว ซึ่งตนเอาผ้าปิดไว้เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าตนไปช่วยติ๋มจัดร้าน ซึ่งตนมองว่าไม่ควรไปช่วยแต่ก็เพราะช่วยมานานแล้ว ร้านติ๋มจะเปิดประมาณ 04.00 น. ส่วนในด้านความสัมพันธ์ยืนยันว่าไม่มีอะไรเกินเลย เพราะรู้จักกันมามากกว่า 20 ปี และติ๋มมาถวายอาหารบ่อยครั้งตนจึงไปช่วยเขาจัดของบ้างบางครั้ง ส่วนเรื่องที่มีการตั้งวงกินเหล้าส่วนตัวตนไม่ได้ดื่มกับเขา จะเป็นติ๋มที่กินเอง และยืนยันว่าคลิปที่ลงไปเป็นคลิปนานแล้ว ส่วนเรื่องพระอาร์มก็ไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน เพราะพระอาร์มเพิ่งมาบวช 2 พรรษา เนื่องจากวันนี้ที่มีการลงในโซเชี่ยลไป ตนก็จะไม่ไปช่วยติ๋มแล้ว เพราะทุกคนอาจมองว่าดูไม่ดี และยอมรับว่าไม่เหมาะสม แต่ที่ทำไปเพราะติ๋มซื้อของมาถวายและบางครั้งจะฉันอะไรก็ไม่คิดเงินตนจึงช่วยจัดโต๊ะเป็นการตอบแทน

พระพรพรหม ถาวโร อายุ 33 ปี หรือพระอาร์มพระลูกวัด เอาคลิปลงโซเชียล กล่าวว่า ที่ตนนำคลิปไปโพสต์ เพราะแรกเริ่มทางเจ้าอาวาส กรรมการวัด ไวยาวัจกรวัด มีการตักเตือนไปแล้ว แล้วก็ห่างกันช่วงนึงแต่ก็กลับมาทำแบบเดิม พอเรียกมาคุยก็ทำท่าทีไม่พอใจ มีการแขวะ ซึ่งจะมีน้องส่วนที่เป็นแอดมินเพจวัดจะดูแลเรื่องกล้องวงจรปิดจึงเป็นเรื่องขึ้นมาและมีการโพสต์ แต่ในเมื่อเขาไม่รับความจริงในสิ่งที่เกิดจึงอยากให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ว่าทำแบบนี้ถูกไหม และควรยอมรับความจริงได้แล้ว ซึ่งมีการตักเตือนหลายครั้งมาก ส่วนเรื่องคลิปเป็นคลิปล่าสุด เพราะกล้องตัวนี้พึ่งติดมาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ส่วนเรื่องอาวุธปืนตนแค่ได้ยินแค่คำขู่จากปาก ว่า พระแบบนี้เดี๋ยวกูจะให้พวกมายิง ส่วนตัวแล้วกับพระโหน่งไม่ได้มีเรื่องอะไรเบาะแว้งกัน และพระโหน่งก็ให้ตนช่วยเรื่องโซเชียลบ่อยอะไรไม่รู้ก็จะถามตนตลอด ซึ่งตนอายุไม่เยอะจึงช่วยกันไป แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมีปัญหาอะไร ว่าเวลาประมาณ 03.00-04.00น. เอากระทะและตะหลิวมาเคาะดังมาก ทำให้สะดุ้งตื่นและนอนไม่หลับ และตอนกลางวันก็ไม่ได้นอนเพราะต้องช่วยงานที่วัดเพราะกำลังมีการสร้างโบสถ์ และตนได้รับการมอบหมายมาจากท่านเจ้าอาวาส ซึ่งที่โพสต์คลิปลงไปตนก็ต้องรับสภาพเพราะจะต้องมีเรื่องตามเข้ามาอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ทำก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยๆ จะให้ผิดไปตลอดเรื่อยๆไม่ได้ จะทำให้เป็นสิ่งที่เคยชินไม่ได้

นางสมนึก อายุ 64 ปี ชาวบ้านอาศัยอยู่ในวัด เล่าว่า ตนรู้จักติ๋มเป็นแม่ค้าภายในวัดที่ปากไม่ดี อยากจะพูดอะไรก็พูดจะด่าใครก็ด่าไม่เว้นแม้แต่พระ ญาติโยมบางคนก็โดนหมด ซึ่งเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งทางวัดจึงจะจัดระเบียบภายในวัดแต่ก็มีพระที่เข้าไปยุ่งที่ร้านติ๋ม ไปติดเตาไปช่วย และมีการตั้งวงนั่งดื่มสุรา ซึ่งมองว่าทำให้วัดเราเสื่อมเสีย พระอาร์มจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิด หลานติ๋มก็มาด่าเขาเสียๆ หายๆ ซึ่งก็ไม่สมควรพูดเพราะจะได้ดูแลกัน ซึ่งมีหลายเรื่องหลายอย่างที่พูดไม่หมด ที่แย่เลยคือกินเหล้าภายในวัด พอเมาก็ด่ากราดคนอื่น ทำตัวเองเป็นใหญ่และไม่กลัวใคร จึงไม่มีใครอยากจะยุ่ง ซึ่งพระอามก็เป็นพระลูกหลานแต่ก็ไม่สมควรที่จะไปก้าวก่ายท่าน ท่านจึงมาปรึกษาว่าโดนแบบนี้อีกแล้ว ซึ่งคนเราอยู่ก็ต้องคุยกัน ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ตนอยากให้เรื่องนี้จบและไม่ต้องมาขายก๋วยเตี๋ยวเลยก็ดี จะได้ตัดปัญหาไป ซึ่งตนก็เคยสนิทกับติ๋มมาก่อน เพราะเคยนั่งกินด้วยกันมาก่อนแต่เขาก็ด่าทอตน และด่าคนอื่นด้วย หลังๆ มานี้ด่าพระตนรู้สึกว่าจิตใจไม่ดี ส่วนพระโหน่งไปช่วยสีกาติดเตาเพื่อขายของแทนที่จะมาช่วยในวัดแต่ไปช่วยสีกาตนจึงมองว่าไม่ถูก ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มาเป็นปีแล้ว เช่น ล้างจาน เก็บโต๊ะ เช็ดโต๊ะ พอค่ำๆ ก็เข้าไปบ้านสีกากลับประมาณ 4-5 ทุ่ม ซึ่งตนเคยเห็นกับตาตัวเองแล้วก็เด็กคนอื่นเห็นก็มาบอก เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ดี พระต้องจำศีลที่วัด ซึ่งทุกคนเคยไปคุยเรื่องนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ฟัง ทุกคนรู้กันหมดแต่พูดไปก็เท่านั้น

(9 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับทาง พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พระพยอม เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวถึงยังไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศอย่างชัดเจน แต่การที่ไปอยู่กันในที่มืดๆและเวลา 04.00น. เปรียบเทียบโบราณว่าน้ำตาลใกล้มด จะอดใจไหวหรือ ถ้ามีสำนึกจริงๆควรจะรู้ตัวเองว่าเราทำอะไรได้มากแค่ไหน การช่วยเป็นเรื่องที่ดีแต่การช่วยที่ดีต้องช่วยกลางแจ้งโจ่งแจ้งไม่ใช่ไปหามันนะ ยิ่งเขาเป็นสาวแก่ สาวเถอะ สาวแม่ม่าย อันตรายมันก็มีข้อห้ามว่าพระก็ห้ามยุ่งกับสีกา พระจะทำอะไรต้องแลให้ดูดีอย่าให้ชาวบ้านได้ตำหนิติเตียน ซึ่งเดี๋ยวนี้สื่อโซเชี่ยลแรงจะทำอะไรก็ต้องดูไม่ใช่มาทำอะไรแสลงตาชาวบ้าน ชาวบ้านก็ต้องช่วยจับตาดู

ตอนนี้มีคนเตือนแล้ว เจ้าอาวาสเตือนแล้ว ต่อไปคงต้องเป็นเจ้าคณะตำบลเตือน และเจ้าคณะอำเภอเตือน ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังก็คงต้องให้ชาวบ้านรวมตัวกันขับไล่ และให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันไม่ต้องมาเป็นพระอยู่แบบนี้ ถ้าจะรักษาธรรมวินัยก็อย่าไปช่วยที่ลับตาคนหรือดึกๆ และเป็นสถานที่ที่ไม่ปิดบัง ตอนนี้ต้องถอยออกมาเพื่อให้ชาวบ้านสบายใจถ้าไม่ถอยชาวบ้านก็จะออกตัวมาเอง อยากให้ชาวบ้านทุกคนทำตัวเหมือนคลื่นถ้ามีขยะก็ค่อยๆ ซัดออกมา ซึ่งเหตุกรณีนี้ถ้าเป็นญาติกันก็ช่วยได้แค่บางครั้ง ไม่ควรที่จะมาช่วยประจำแบบนี้ ไม่งั้นก็เปรียบเหมือนลูกจ้าง ทำตัวเป็นทาส ถ้าจะช่วยก็มีอีกคนอยู่ก็คงดี ซึ่งตนก็ช่วยคนมาเยอะ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะไม่ได้ทำอะไรลับตาคน เวลาประมาณ 03.00-04.00น. พระสามารถออกได้แต่ต้องอยู่ภายในวัด เช่นสวดมนต์ แต่ถ้าออกไปขนของ ล้างจาน และช่วยเขาเป็นทาสรับใช้ ก็ไม่สามารถทำได้ เข้าหลักอโคจรบุคคล ยิ่งปกปิดเอาผ้าไปปิดบังกล้องวงจร ยิ่งปกปิดความชั่วยิ่งไหลนอง พระต้องโปร่งใส จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีของชาวบ้าน ไม่สมควรทำให้คนอื่นมาติเตียน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook