"เอสเธอร์" โร่แจ้งความ คาดถูกหลอกจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ให้แอปฯ โกงประชาชน

"เอสเธอร์" โร่แจ้งความ คาดถูกหลอกจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ให้แอปฯ โกงประชาชน

"เอสเธอร์" โร่แจ้งความ คาดถูกหลอกจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ให้แอปฯ โกงประชาชน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เอสเธอร์" นักแสดงสาวชื่อดัง เข้าแจ้งความกับตำรวจ หวั่นถูกหลอกจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ที่มีการฉ้อโกงประชาชน

เมื่อวานนี้ (7 มกราคม 2565) ที่ศูนย์ PCT อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา หรือ เอสเธอร์ นักแสดงสาว เดินทางมาพบตำรวจ PCT เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ช่วยติดตามกลุ่มคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าได้หลอกลวงว่าจ้างให้ เอสเธอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแพลทฟอร์มการซื้อสินค้าออนไลน์แห่งหนึ่ง ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นกลุ่มที่เข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ PCT ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.) หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 เป็นผู้แทนในการรับเรื่องร้องเรียนครั้งนี้

น.ส.เอสเธอร์ กล่าวว่า เนื่องจากตนได้รับว่าจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชันดังกล่าว และมีหลายๆ ท่านได้รับความเสียหายจากแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยได้รับการร้องเรียนผ่านมาทางคุณแม่ ทำให้ตนรู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งน่าจะมีอะไรผิดปกติ จึงดำเนินการติดต่อไปทางผู้ที่ประสานงานมา แต่สุดท้ายบุคคลที่ติดต่อประสานงานได้หายตัวไป ที่สำคัญทางเราไม่มีช่องทางการติดต่อกับบุคคลท่านนั้นได้เลย จึงได้ร่างสัญญาบอกเลิกการเป็นพรีเซนเตอร์ผ่านทางที่อยู่ของบริษัท และเป็นเหตุให้ต้องเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เท่าที่ได้รับการร้องเรียนทราบว่า ผู้ที่ลงทุนกับแอปพลิเคชันดังกล่าวโดนปิดบัญชีไม่สามารถถอนเงินออกได้ สำหรับงานนี้ตนเข้ามารับเป็นพรีเซนเตอร์ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ก่อนรับงานทางตนได้รับแจ้งแค่ว่าเป็นแอปพลิเคชันขายของทางออนไลน์ ซึ่งตนได้มีการตรวจสอบในระดับหนึ่ง ดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ ตนจึงเซ็นสัญญาไป 1 ปี และได้ยกเลิกสัญญาไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ถ่ายทำงานทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง แต่เริ่มรู้สึกผิดปกติเมื่อมีหลายๆ คนเข้ามาคอมเพลน

น.ส.เอสเธอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวตนไม่สบายใจอย่างมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะเราตรวจสอบได้ไม่ถี่ถ้วนมากพอ ทั้งที่ตนเข้มงวดเรื่องการรับงานแล้ว จึงอยากจะเตือนพี่น้องในวงการ ถ้ามีงานอะไรที่ติดต่อมาแล้วไม่แน่ใจจริงๆ สามารถเข้ามาติดต่อตรวจสอบข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ หรือโทรมาที่เบอร์ 1599 สำหรับตนถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ใหญ่มากๆ

ขณะที่ พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวมูลค่าความเสียหายยังพิจารณาเป็นตัวเงินไม่ได้ เพราะเพิ่งจะมีการเข้ามาแจ้งความ ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการรับคำร้องทุกข์ของคดีนี้ไว้ก่อน จากนั้นจะตรวจสอบการเปิดบริษัท การเข้าไปสู่แอปพลิเคชัน และตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องกรณีนี้บ้าง มีการโอนเงินเข้าออกอย่างไร ขอเรียนว่าถ้าอยากให้การดำเนินการทางคดีเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวขอให้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขอประชาสัมพันธ์มายังประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจต่างๆ ควรมีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การลงทุน หวังผลกำไรระยะสั้น หากท่านใดมีข้อร้องเรียนหรือต้องการแจ้งความร้องทุกข์ สามารถติดต่อศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศูนย์ PCT) สายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สายตรง 081 866 3000 เฉพาะเวลาราชการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook