ส่อคดีพลิก? เมีย "หมอศรุต" เผยอีกมุม เชื่อเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ถูกจับโยนลงตึก
ภรรยา "หมอศรุต" ขอพูดอีกมุม เชื่อการตายของสามีเป็นอุบัติเหตุ คาดพยายามเข้าห้องน้ำ แต่ห้องแคบและเมาหนัก กลายเป็นพุ่งตกตึก
จากกรณีเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ศาลอาญามีการตัดสินคดีที่อัยการยื่นฟ้อง นพ.ปราโมทย์ จำเลยที่ 1 และนางสาวจิตวิมล จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากที่ นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ เสียชีวิตปริศนาด้วยการตกตึกในปี 2553 ซึ่งศาลตัดสินให้ทั้งคู่จำคุกคนละ 10 ปี ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับมารดาผู้ตาย ถือเป็นการปิดฉากคดีดังเมื่อ 11 ปีที่แล้ว
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ern Ern ซึ่งเปิดเผยว่าตนเองคือภรรยาของหมอศรุต ได้ออกมาพูดในมุมมองของตนเอง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าการตายของสามีเป็นอุบัติเหตุ
โดยระบุว่า ในวันเกิดเหตุหมอศรุตดื่มเหล้าคนเดียวตั้งแต่ช่วงบ่าย 4-5 และโทรไปชวนหมอเอ (นามสมมุติ) และเพื่อนไปเที่ยวต่อ เมื่อออกไปเที่ยวก็โทรมาเป็นระยะ จนกระทั่งร้านปิดหมอเอโทรมาบอกตนว่า หมอศรุตเมามากน่าจะกลับไม่ไหว เลยพาไปพักที่หอพัก รู้อีกครั้งคือหมอศรุตเสียชีวิต และทางเพื่อนก็ปั๊มหัวใจจนสุดความสามารถ
"สิ่งที่หมอเอให้การคืออยู่ดีๆ หมอศรุตก็ลุกขึ้นมาแล้วพุ่งตัวออกไปเลย ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน สิ่งที่นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านบ่อยจนปกติ คือเมื่อหมอศรุตเมากลับมาที่บ้านคือจะมีความโซซัดโซเซ พยุงตัวเองไม่ได้
มีอาการพุ่งตัวอย่างแรง เมื่อรู้สึกตัว เหมือนจะวิ่ง แรงเยอะ เหมือนวิ่งหลาว เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่ห้องที่บ้านมีขนาดใหญ่มาก วิ่งได้สบาย แต่เมื่อเทียบกับห้องที่เกิดเหตุคือมีขนาดเล็กมากๆ แค่ 2 ก้าวเท่านั้น"
เมื่อฟังจากคำให้การ ทำให้เธอนึกภาพออกว่าสามีพยายามจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องดังกล่าวประตูระเบียงกับประตูห้องน้ำอยู่ติดกัน และมีหน้าตาเหมือนกัน หมอศรุตอาจไม่ได้วิ่งพุ่งตัวลงมาแต่วิ่งไปเปิดประตูเพราะคิดว่าเป็นห้องน้ำ เหมือนที่ทำที่บ้าน
ประกอบกับห้องแคบมากๆ ระเบียงก็แคบและเตี้ย เมื่อเจอระเบียงและพลัดตกลงมาในจังหวะที่หันหลัง และน่าจะพยายามคว้ากำแพงเอาไว้ เลยมีฝุ่นติดมือและองศาการตกเป็นไปในทิศทางการทดลอง
"เราซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย 100% ในใจยังคงเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุเรื่องพลัดตกเสมอมา
เรายังคงเชื่อในความรักความมุ่งมั่นของแม่หมอศรุต และเชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่แม่คุณหมอหามาทุกอย่าง ว่าเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ว่าหมอศรุตไม่ได้ฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่ถูกต้องค่ะ"
ภรรยาของหมอศรุต ยืนยันว่าเป็นไปได้ที่หมอศรุตจะเมามาก และลุกขึ้นมาวิ่ง เพราะเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางครอบครัวของหมอศรุตไม่เคยเห็น และไม่ทราบว่าหมอกินเหล้าหนัก แต่หากเป็นเพื่อนและคนใกล้ชิดจะรู้เรื่องนี้ดี ในฐานะคนใกล้ชิด เธอจึงเชื่อว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นอุบัติเหตุโดยไม่เจตนา
"หากเรื่องนี้ตัดสินตามที่ศาลตัดสิน คือชีวิตของคน 2 คน ต้องจบสิ้นอนาคต และทุกข์ทรมานยิ่งกว่า 11 ปี อย่างแน่นอน ในเรื่องนี้อาจเป็นเพียงอุบัติเหตุที่ต้องการคนผิดมารับผิดชอบ และมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแพะก็เป็นได้
หากการกระทำใดที่ทำกับใครไว้จะเป็นกรรมติดตัวไปตลอดกาล"