เคสพ่อเตะลูกจบด้วยดี ลูกสาวโผกอดพ่อแม่ ตำรวจยันต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เคสพ่อเตะลูกจบด้วยดี ลูกสาวโผกอดพ่อแม่ ตำรวจยันต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เคสพ่อเตะลูกจบด้วยดี ลูกสาวโผกอดพ่อแม่ ตำรวจยันต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ นายสาธิต อายุ 42 ปี พ่อแท้ๆ ปรากฏเป็นคลิป ลงมือทำร้ายร่างกาย เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 11 ขวบ ด้วยการตี และใช้เท้าเตะทำร้ายร่างกาย จนน้าสาวทนไม่ไหว ถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน แถมพาหลานสาวโร่แจ้งความเอาผิดพ่อบังเกิดเกล้า โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดที่ในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 25464 

วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ช่วงค่ำของวานนี้(12 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.ป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้เชิญตัวพ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 11 ขวบ มาร่วมพูดคุยหารือกัน พร้อมทั้งสอบถามความสมัครใจของเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ว่าจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่หรือไม่ ซึ่งเด็กหญิงคนดังกล่าว ก็ได้แจ้งความประสงค์ว่า อยากจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้พ่อแม่และลูกสาว ได้พบหน้ากัน ปรากฏว่าทั้งสามคนได้โผเข้าหากัน และกอดคอกันร้องไห้ และได้พากันกลับบ้าน 

ต่อมาในช่วงเช้าของวันนี้ (13 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของครอบครัวดังกล่าว พูดคุยกับ นายสาธิต นางภาวินี และ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน และมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มสดชื่น โดยนายสาธิต เปิดเผยว่า ที่ตนทำลงไปนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เกิดความโมโห เพราะลูกสาวไม่เชื่อฟัง แต่ตนก็ยืนยันว่า ไม่ได้เตะอย่างรุนแรง เมื่อวานตอนที่อยู่โรงพักตนรู้สึกเครียดมาก ไม่ได้กลัวว่าจะติดคุก แต่กลัวว่าลูกจะไม่กลับบ้าน แต่เมื่อทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดี ตนก็โล่งใจ เมื่อกลับมาบ้าน ลูกสาวอาบน้ำเสร็จก็ขอมานอนด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แยกห้องนอนกัน และได้นอนคุยกันหลายเรื่อง ปรับความเข้าใจกัน ซึ่งลูกสาวก็เข้าใจ  

ด้านนายเฟื้อน อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นปู่ของ ด.ญ.เอ เปิดเผยว่า ตนเห็นคลิปทีแรกก็ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชายจะทำกับหลานได้ขนาดนั้น แต่เมื่อได้คุยกับหลานสาวแล้วจึงรู้ว่า พ่อไม่ได้เตะแรง แต่ตนกลัวเสียงพ่อที่ดุด่าเสียงดัง และจากการดูตามเนื้อตัวก็ไม่มีร่องรอยฟกช้ำแต่อย่างใด ตามปกติตนจะเห็น ด.ญ.เอ และน้องสาวมาเล่นอยู่ที่บ้านของตนเป็นประจำ แต่หายไป 2-3 วัน ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ซึ่งตนก็ได้ตักเตือนลูกชายไปแล้ว และที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นว่าลูกชายจะตีลูกหนักขนาดนี้เลย ตามปกติเมื่อทำผิดก็จะดุด่าเสียงดัง จนบางครั้งทำให้ตนตกใจว่าเกิดเรื่องก็มี  

ด้านนายมนูญ อินเหลือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.ป่าเลา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเห็นคลิปจึงได้ไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ตอนแรกก็รู้สึกตกใจมาก ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเห็นว่าครอบครัวนี้รักกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด หลังจากรู้ความจริงก็ได้ตักเตือนนายสาธิตว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว การทำโทษไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ควรพูดคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์แบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อตัวเองรวมทั้งครอบครัวด้วย 

ด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่องได้กำชับให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนโดยละเอียด เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นความรุนแรงในครอบครัว แม้ว่าเหตุการณ์จะลงเอยด้วยดี แต่ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ในเบื้องต้นได้ให้ ด.ญ.เอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ รวมทั้งเตรียมที่จะนัดหมายทีมสหวิชาชีพ มาร่วมสอบสวนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook