ไรเดอร์แม่ลูกอ่อน ตัดพ้อเพื่อนร่วมอาชีพแบน ยันไม่เคยเอาเงินบริจาคไปเล่นพนัน

ไรเดอร์แม่ลูกอ่อน ตัดพ้อเพื่อนร่วมอาชีพแบน ยันไม่เคยเอาเงินบริจาคไปเล่นพนัน

ไรเดอร์แม่ลูกอ่อน ตัดพ้อเพื่อนร่วมอาชีพแบน ยันไม่เคยเอาเงินบริจาคไปเล่นพนัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไรเดอร์แม่ลูกอ่อน ตัดพ้อเพื่อนร่วมอาชีพแบน ยันไม่เคยเอาเงินบริจาคไปเล่นพนัน เลิกเล่นนานแล้วแต่มีไลน์เว็บพนันเด้งมา คนเลยเข้าใจผิด

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 1 โพสต์เรื่องราวของไรเดอร์แม่ลูกอ่อนรายหนึ่ง ที่กระเตงลูกใส่กระเป๋าหน้าออกไปขับขี่รถส่งของในเวลากลางคืน ก่อนหน้านี้กลุ่มไรเดอร์รายอื่นๆ ได้พยายามช่วยเพราะสงสาร แต่ต้องหยุดไปเพราะแม่เด็กติดการพนันออนไลน์

โดยภาพจากคลิปที่โพสในเพจเป็นภาพ ระหว่าง นางสาวอรทัย อายุ 34 ปี สาวไรเดอร์ซึ่งกระเตงลูกสาววัยเพียง 6 เดือน กำลังพูดคุยกับกลุ่มไรเดอร์ใน จ.นนทบุรี บริเวณหน้าวัดผาสุกมณีจักร ภายในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการโต้เถียงกรณีที่ทางกลุ่มขอยกเลิกการให้ความช่วยเหลือกับไรเดอร์แม่ลูกอ่อนรายนี้ทุกกรณี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมเงิน ช่วยใช้หนี้ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าห้องที่ติดค้างอยู่ ก่อนจะเปิดบัญชีทางเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินมีผู้บริจาคเข้ามากว่า 20,000 บาท แต่ภายหลังมีการปิดบัญชีของดรับบริจาคเนื่องจากกลุ่มไรเดอร์ตรวจพบว่าแม่ลูกอ่อนรายนี้ เคยแอบไปเล่นการพนัน

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณหน้าวัดผาสุกมณีจักร พบกับกลุ่มไรเดอร์ นั่งจับกลุ่มพูดคุยและมีการปรึกษาเพื่อหาทางออกและข้อยุติในกรณีของไรเดอร์แม่ลูกอ่อนรายนี้

นางสาวสุกัญญา อายุ 28 ปี ซึ่งช่วยเหลือดูแล ไรเดอร์สาวแม่ลูกอ่อน เปิดเผยว่า ตอนแรกพวกตนเห็นก็สงสาร ช่วยเหลือทุกอย่างเพราะเราเองก็เห็นแม่ชงนมข้นหวานให้ลูกกิน เลยเกิดความสงสารทั้งแม่และเด็ก แต่พอเรามาทราบว่าแม่เด็กเคยเล่นการพนันมาก่อน เราก็เสียความรู้สึก เสียกำลังใจ ไรเดอร์ทุกคน พี่ๆ ทุกคนพร้อมช่วยเหลือเพื่อให้แม่ลูกอ่อนสาวรายนี้มีทางทำมาหากินเดินหน้าต่อไปได้ เราสู้อุตส่าห์เปิดรับบริจาคให้เขา เขากลับมาว่าเรา ว่าเขาไม่ได้ออกความเห็นให้มาเปิดรับบริจาค ลูกเขาเขาเลี้ยงได้ พวกตนไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเขา เราทุกคนจึงปรึกษากันว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเขาแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายทิชา อายุ 30 ปี  กล่าวว่า เริ่มต้นเลย มีรุ่นพี่คนหนึ่งพาน้องเข้ามาเห็นว่ามีน้องน้อย คอยกระเตงมาด้วย ตนเห็นเป็นแม่ลูกอ่อนมาส่งอาหารก็เกิดความสงสารเพราะตนก็มีลูกเล็ก ก็เลยเรี่ยไรเงินกันคนละเล็กละน้อยช่วยเขาไปพันกว่าบาท และถามเขาว่าลำบากจริงไหม ตนเลยตามไปดูเขาที่พักพบเป็นห้องเช่า แต่ความเป็นอยู่น่าสงสารจริงๆ เปิดตู้เย็นก็มีแต่นมข้นหวานที่ชงนมให้ลูกเขากิน มาพบว่าเขาเคยเล่นการพนันก็รู้สึกเสียใจ สอนเขามาอยู่ตลอด ตนก็ช่วยเหลือดูแลหาข้าวปลาอาหารให้กินถ้าหากเขาเข้ามาที่กลุ่มพวกตนอีกพวกตนขอไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว ความรู้สึกที่ให้มันพังหมดแล้ว เขาเองพูดว่าพวกตนเข้าไปช่วยเขาเองเขาไม่ได้เรียกร้อง

นายกิตติภาค อายุ 34 ปี เผยว่า พวกตนรวบรวมเงินกันเพื่อที่จะไปหาเนอร์สเซอรี่เพื่อให้เด็กมีคนดูแลเพราะว่าเขาบอกว่าเขาอยากเป็นไรเดอร์ ถ้ามีคนเลี้ยงเด็กเขาจะได้เป็นไรเดอร์เต็มตัว ตนรวบรวมเงินจากผู้ใจบุญนำไปจ่ายเนอร์สเซอรี่ 8,000 บาทแค่วันเดียวเขากลับไปเอาลูกคืน เหมือนใช้ความน่าสงสารของลูกมาหากินจนอยากให้ พม. เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของแม่ลูกคู่นี้มากกว่า ตนมาทราบที่หลังว่าเขามีประวัติยังไงก็รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึก ตอนนี้อยากช่วยลูกมากกว่าที่จะช่วยแม่แล้วถ้าเขาจะกลับเข้ามาในกลุ่มผมอีก ผมก็จะบอกให้เขาเอาลูกไปฝากที่เนอร์สเซอรี่ให้เขาเลี้ยง เพราะผมไปจ่ายเงินไว้แล้ว จากนั้นเขาค่อยกลับมาวิ่งหากินต่อไป ต่อไปนี้หากจะช่วยใครแล้วคงต้องเช็คอะไรให้รอบคอบกว่านี้สักนิดนึง

ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยพระแม่การุณ 2 ถนนศรีสมาน ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี พบ นางสาวอรทัย อายุ 34 ปี พบว่าเป็นห้องเช่าเล็กๆ มีเพียงตู้เย็นเก่าๆ และพัดลมเก่าๆ อยู่ภายในห้อง สภาพห้องค่อนข้างรกมีแต่กองเสื้อผ้าและของใช้เด็กอ่อน โดยมีน้องวันใหม่ลูกสาววัยเพียง 6 เดือน นอนอยู่ข้างกาย

นางสาวอรทัย กล่าวทั้งน้ำตาว่าตนเป็นชาวจังหวัดจันทบุรี  มีลูกชาย-หญิง อายุ 14 กับ 15 ปี ที่เกิดจากสามีเก่าที่ตายไป ส่วนน้องวันใหม่เกิดจากสามีใหม่ที่มีอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกและทิ้งตนไป หลังถูกพี่ๆ กลุ่ม Rider โพสต์ว่าตนเองเสียๆ หายๆ ว่านำเงินที่รับบริจาคไปเล่นการพนัน ทำให้ตนเครียดมาก เพราะมันผ่านมานานเป็นปีแล้ว ปัจจุบันหลังมีน้องวันใหม่ตนก็ทำทุกอย่างเพื่อลูก สู้อุตส่าห์เก็บเงินที่พอมีไปดาวน์รถมาเพื่อจะวิ่งทำมาหากิน แต่พอมาเกิดเรื่องตนก็นำเงินจากผู้ใจบุญที่มอบมาจำนวนกว่า 20,000 บาท ไปคืนให้กับพี่ๆ เขา ซึ่งเงินส่วนนี้ตนตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ดูแลเขา แต่พอมามีเรื่องตนเครียดมากจึงนำเงินทั้งหมดไปคืนเพื่อตัดปัญหา

หนูอยากมีงานทำ อยากทำงานเพื่อได้เงินมาดูแลลูก หากถูกปิดกั้นจากพี่ๆ คงลำบาก ถ้าหนูเป็นอย่างที่พี่ๆ คิด ข้าวของเครื่องใช้ที่มีอยู่หนูก็หาซื้อเองจากน้ำพักน้ำแรง ยืนยันว่าไม่เคยหวนกลับไปเล่นการพนันนานแล้ว พี่ๆเขาเห็นไลน์เว็บพนันที่ดีดเข้ามาในโทรศัพท์หนูคิดว่าหนูเล่น หนูยืนยันไม่เคยคิด และกดทิ้งทุกครั้ง แต่มันก็ยังเด้งเข้ามาตลอดจนทุกคนเข้าใจผิดหาว่าหนูเป็นคนไม่ดี หนูขอโอกาสสังคมให้หนูมีที่ยืนในการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงลูก หลังเกิดเรื่องลูกชายที่อยู่จันทบุรีก็โกรธไม่พูดกับแม่ เพราะคิดว่าแม่เป็นคนไม่ดี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook