ชาวกรุงเก่าสาปแช่งโจรตัดเศียรพระ

ชาวกรุงเก่าสาปแช่งโจรตัดเศียรพระ

ชาวกรุงเก่าสาปแช่งโจรตัดเศียรพระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวกรุงเก่าสุดทน แห่เผาพริกเผาเกลือ รุมสาปแช่งโจรใจบาปตัดเศียรพระพุทธรูป บิ๊กตุ๊ กร้าว มารศาสนาเตรียมใช้ไม้แข็งเด็ดขาด พร้อมนำกฎหมาย ปปง.ยึดทรัพย์ เล่นงานพวกรับซื้อของโจร สั่งชุดสืบสวนควานหาต้นต่อลุยถอนรากถอนโคน ตั้งด่านตรวจสกัด ล่าสุดจนท.ได้เบาะแสกลุ่มวายร้าย 5 คน ลงมือย่ำยีพระพุทธศาสนา

กรณีโจรใจบาปบุกวัดดงหาย ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ลอบตัดเศียรพระพุทธรูปโบราณ สมัยกรุงศรี อยุธยาอายุกว่า 400 ปี ขนาดหน้าตัก 36 นิ้ว 1 องค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งวัดแห่งนี้เคยถูกมารศาสนาลอบตัดเศียรพระมาแล้วถึง 3 ครั้ง ล่าสุด วัดแดง ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ ก็ตกเป็นเหยื่อเมื่อชาวบ้านร้องผ่านสื่อว่า มีมารศาสนาบุกทุบองค์พระพุทธรูปเสียหาย 3 องค์ และตัดเศียรพระไปอีก 2 องค์ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

เกี่ยวกับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น หรือ "บิ๊กตุ๊" รักษาการ ผบช.ภาค 1 เปิดเผย ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในขณะนี้ได้สั่งการเร่ง ด่วนให้ชุดสืบสวนทุกท้องที่ออกหาข่าวตาม แหล่งรับซื้อของเก่า และพื้นที่ที่คาดว่า คนร้ายจะนำเศียรพระพุทธรูปไปจำหน่าย รวมถึงได้สั่งเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ และโบราณสถาน โบราณวัตถุ พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามพื้นที่บริเวณวัดที่มีพระพุทธรูปเก่าแก่ และขอความร่วมมือไปยังพระสงฆ์ กรรมการวัด ชุมชน รวมถึงพี่น้องประชาชน ช่วยคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่อีกทาง เพราะจะช่วยป้องปราบการโจรกรรมพระพุทธรูปได้

พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะพยายามปราบปรามมารศาสนา ที่ออกโจรกรรมพระพุทธรูป และโบราณวัตถุ ซึ่งในขณะนี้พยายามสืบหาข้อมูลในเชิงลึก เพื่อให้สาวไปถึงต้นตอ กระบวนการของแก๊งซื้อขายวัตถุโบราณ และจะได้จับกุมให้สิ้นซาก ในเบื้องต้นก็พอจะมีข้อมูลในมืออยู่บ้างและจะไม่ปล่อยให้โจรลอยนวล ออกอาละวาดทำลายพุทธศาสนา โบราณสถาน โบราณวัตถุ เจ้าหน้าที่คงจะมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อความเด็ดขาด และฝากเตือนไปถึงนายทุน หรือพ่อค้าแม่ค้าของเก่า หรือคนที่รับซื้อของโจรไว้ เจ้าหน้าที่จะนำกฎหมายที่มีอยู่ไปบังคับใช้ ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงกฎหมาย ปปง. การยึดทรัพย์ต่อไป

เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ วัดแดง หมู่ 1 ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ นายวิโรจน์ จารุชาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ปากท่า พร้อมชาวบ้านกว่า 100 คน ได้เดินทางมาที่พระอุโบสถเก่าแก่ของวัดต่างพากันเข้าไปกราบไหว้พระประธานใน พระอุโบสถ ทุกคนเมื่อเห็นภาพพระพุทธรูปที่ถูกตัดเศียรไปรวมทั้งพระที่ถูกทำลาย หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาบางคนบอกว่าสงสารองค์พระ ต่อจากนั้นได้ออกมารวมตัวกันที่หน้าพระอุโบสถทำพิธีเผาพริกเผาเกลือแบบโบราณ เพื่อสาปแช่งคนร้ายที่โจรกรรมตัดเศียรพระไป ไม่ให้มีความสุขให้ปวดแสบปวดร้อน รวมทั้งผู้ที่รับซื้อขอให้มีอันเป็นไป

นอกจากนี้ มีคณะสงฆ์จากวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี และนายปฏิคม วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้รับที่จะบูรณะองค์พระให้สมบูรณ์เหมือนเดิม สร้างความพอใจให้กับชาวบ้านที่รู้ข่าว ซึ่งแกนนำชาวบ้านได้ระดมกำลังชาวบ้านมาเก็บกวาดถางหญ้ารวมทั้งทำความสะอาดใน พระอุโบสถให้ดูสวยงาม ด้านนางลำใย พักสถาน อายุ 60 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทั้ง 2 วัด ตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนักและถูกโจรกรรมไปในเวลาใกล้เคียงกัน อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรวมทั้งติดตามเศียรพระทั้งหมดกลับคืนมา ขณะนี้จิตใจของชาวบ้านหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เพราะมองมาคราวใดเห็นพระคอขาด จึงอยากให้เร่งบูรณะ ต่อเติมเศียรพระให้เต็มองค์เสียที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดดงหวาย พบว่ามีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้พระประธานที่ถูกตัดเศียรในพระ อุโบสถ และภายในวิหารหลวงพ่อบุญมาก ที่พระพุทธรูปถูกตัดเศียรไปถึง 6 เศียร พระอธิการแสวง เปมสีโล อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดดงหวายกล่าวว่า ล่าสุดมีคหบดี และประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้แสดง เจตจำนงที่จะเป็นเจ้าภาพบูรณะพระ โดยหากตำรวจสามารถติดตามเศียรที่ถูกตัดกลับคืนมาได้

ส่วนการติดตามกลุ่มคนร้ายตัดเศียรพระ แหล่งข่าวชุดสืบสวนเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เฝ้าติดตามกลุ่มคนร้ายอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย 2 กลุ่ม ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุเมื่อหลายปีก่อนและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนภาค 1 จับกุมตัวได้และพ้นโทษออกมา ยังคงมีการติดต่อและซื้อขายวัตถุโบราณ ในเขต อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนคนร้ายอีกกลุ่มอยู่ในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งมีความชำนาญในการดูของเก่า และมีความคุ้นเคยกับนักสะสมของเก่าในกรุงเทพมหานคร ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ด้านพระญาณไตรโลก เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ในฐานะเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ในวัดยากที่จะหาทางป้องกัน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการวางแผนการมาเหนือความคาดหมาย กับการรับมือของพระ โดยจะเห็นได้จากมีการเบื่อยาสุนัข และตัดเหล็กดัด รวมถึงสะเดาะกุญแจโบสถ์เข้าไปอย่างง่ายดาย เชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งนี้คณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมของมหาเถรสมาคม เพราะเป็นเรื่องภายในของแต่ ละวัด ซึ่งเท่าที่ทราบเกือบทุกวัดมีการเตรียมการรับมือกลุ่มโจรอย่างเต็มที่แล้ว แต่คงต้องขอฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งตำรวจและผู้เกี่ยวข้องในการติดตามสมบัติชาติกลับคืนมา.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook