จับตา! พลังประชารัฐจ่อรื้อโครงสร้างอีกรอบ อาจได้เห็น "ประยุทธ์" นั่งหัวหน้าพรรคเอง

จับตา! พลังประชารัฐจ่อรื้อโครงสร้างอีกรอบ อาจได้เห็น "ประยุทธ์" นั่งหัวหน้าพรรคเอง

จับตา! พลังประชารัฐจ่อรื้อโครงสร้างอีกรอบ อาจได้เห็น "ประยุทธ์" นั่งหัวหน้าพรรคเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอการเมืองจับตากันให้ดี หลังจากนี้น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ดีไม่ดีอาจได้เห็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ชื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เลยนะจ๊ะ

หลังจากเกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกันในพรรคพลังประชารัฐมาตั้งแต่กรำศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปฏิบัติการ "บ่อนเซาะ" ความมั่นคงแข็งแรงของขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายใต้ผู้กำกับการแสดง คือ "ผู้กองธรรมนัส" จนกระทั่งศึกยกนั้นจบลงไปด้วยการที่นายกฯ ลุงตู่ พลิกเกมได้ในช่วงท้ายๆ และมาช่วงชิงจังหวะลงมือ "ปลด" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมด้วย "อาจารย์แหม่ม" นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งคู่

จนนำมาสู่การกินแหนงแคลงใจกันเองในหมู่ "พี่น้อง 3 ป." ที่พี่รองและน้องเล็ก ต่างมองพี่ใหญ่ด้วยสายตาแปลกๆ ด้วยเพราะไม่เชื่อว่าอดีตนายทหารนอกราชการยศร้อยเอก จะหาญกล้าท้าชนกับพลเอก ที่เป็นถึงระดับอดีตผู้บัญชาการทหารบก-อดีตผู้ก่อการยึดอำนาจ ซึ่งปัจจุบันคือ นายกรัฐมนตรี! ทำให้ต่อมาเกิดการแบ่งกลุ่มแบ่งทีม กลายเป็น "ทีมลุงป้อม" ปะทะ "ก๊วนตู่แอนด์ป๊อก" ซึ่งพบเห็นได้ตามภาพข่าวต่างๆ ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา

ทว่าล่าสุดดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณความเปลี่ยนแปลงในเชิงสงบศึกสมานฉันท์กันซะแล้ว เพราะเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น มีรายงานส่งตรงมาจากนักข่าวในทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ/รมว.พลังงาน และ 6 รัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มสามมิตร พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง หารือต่อบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากคุยกันเสร็จ ไม่มีใครซักคนเดียวให้สัมภาษณ์หรือออกมาเปิดเผยเลยว่ามีการพูดคุยกันเรื่องใด

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารในพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ภายหลังการพูดคุยทึ่ตึกไทยคู่ฟ้าเสร็จสิ้น บรรดา 6 รัฐมนตรีของ พปชร. ต่างเดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อพูดคุยกันต่อ แต่จุดที่น่าสังเกตอีกประการก็คือ มีกระแสข่าวเพิ่มเติมว่าจริงๆ แล้วเมื่อเย็นวานนี้ "บิ๊กตู่" ถึงขั้นเปิดห้องทำงานภายในบ้านพักของตนเองเพื่อถกประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพรรคแกนนำรัฐบาลอันดับหนึ่งของ พ.ศ. นี้เลยทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วการพูดคุยกันของ 3 ป. และผู้เกี่ยวข้องต่างๆ มักจะใช้สถานที่เป็นมูลนิธิป่ารอยต่อฯ แม้ว่าจะอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เหมือนกันก็ตาม

เอาล่ะ ทีนี้มาลองอ่านกันว่าประเด็นที่พูดคุยกันมีอะไรบ้าง แหล่งข่าวให้ข้อมูลมาว่าในที่ประชุมวงย่อยดังกล่าวมีการหยิบยกเรื่องข่าวที่ผู้กองคนดังสั่งทำโพลสำรวจกระแสความนิยมของ ส.ส. ในพรรค จนทำให้ ส.ส.หลายคนอึดอัดและไม่สบายใจ จนเกิดการตกผลึกกันว่าคงต้องมีการปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐอีกรอบ โดยจะใช้วิธีให้กรรมการบริหารพรรคที่มีอยู่ 26 คน ลาออกเกินครึ่งหนึ่งหรือเกิน 13 คนนั่นเอง เพื่อเปิดทางให้มีการจัดประชุมเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งแว่วๆ ว่าอาจจะมีการยื่นหนังสือลาออกกันในวันนี้ (26 ต.ค.) เลยด้วยซ้ำไป

ถึงแม้บางเสียงในวงพูดคุยจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนกรรมการบริหารพรรคว่าอาจจะไม่สามารถรวบรวมให้มีการลาออกได้ถึงครึ่งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่า "บิ๊กป้อม" จะการันตีเองเลยว่าไม่น่ามีปัญหา พร้อมรับไปจัดการ

ในขณะที่อีกเรื่องหนึ่งที่มีลุ้นว่าอาจจะได้เห็นก็คือ การเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการนำทัพพลังประชารัฐลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แต่โอกาสที่ว่ามาก็ยังไม่ชัดเจน 100% คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป

แต่ที่แน่ๆ วันนี้ แกนนำพรรคในสาย ร.อ.ธรรมนัส มีการนัดหารือกันอย่างไม่เป็นทางการที่รัฐสภา คาดว่าเป็นการพูดคุยถึงเรื่องบทบาทการขับเคลื่อนพรรคต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ขณะที่มี ส.ส.พลังประชารัฐอีกกลุ่มหนึ่งก็นัดพูดคุยเพื่อปรึกษากันถึงทิศทางต่อไปของพรรคที่รัฐสภาด้วยเหมือนกัน แถมช่วงบ่าย 4 โมงเย็น ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ซึ่งเป็นกำหนดการเดิมที่นัดกันไว้ก่อนหน้านี้

แปลว่าตั้งแต่วันนี้ไป การเมืองคงจะกลับมามีประเด็นให้พูดถึงกันหลากหลายเรื่องราว เพื่อรองรับการเปิดสมัยประชุมสภาที่จะมาถึงในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่บอกได้เลยว่าเดิมพันสูงลิบลิ่วเลยทีเดียวนะฮะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook