"โดม-ตั้ม" เปิดจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อน แลกกันคนละหมัดแฉวีรกรรมสุดแสบ

"โดม-ตั้ม" เปิดจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อน แลกกันคนละหมัดแฉวีรกรรมสุดแสบ

"โดม-ตั้ม" เปิดจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อน แลกกันคนละหมัดแฉวีรกรรมสุดแสบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ 2 เดอะสตาร์ โดม จารุวัฒน์ และ ตั้ม วราวุธ มาเยือนรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พร้อมมาเปิดเผยจุดเริ่มต้นความสนิทสนม และแฉวีรกรรมสุดแสบซึ่งกันและกัน ทั้งประสบการณ์การไปเที่ยวผู้หญิง และเหตุการณ์เมาปลิ้นถึงต่างแดน แถมยังไขข้อข้องใจแต่งหญิงชอบจริงหรือเป็นแค่การแสดง



ตั้มพบรักกับแฟนคลับ แล้วบ้านฝ่ายหญิงจ้าง 1 ล้าน ขอให้ทำลูกท้องก่อนแต่ง เรื่องจริงหรือไม่จริง?

ตั้ม : "เรื่องจริง แต่อันนี้เป็นการพาดหัว ซึ่งผมได้ไปทอล์กในรายการหนึ่ง แล้วได้พูดถึงช็อตนี้ แล้วเขาก็เลยเอามาตัดโปรโมท ซึ่งบริบทจริงๆ ต้องไปดูทั้งหมด คือผมจะพูดในลักษณะที่ว่าครอบครัวฝ่ายหญิงเขาสมัยใหม่ เพราะผมไม่ได้พร้อมที่จะแต่งงานอะไร ก็เลยบอกว่านี่ครอบครัวผู้หญิงเขาไม่ซีเรียสเลยนะ แต่ยังไงขอมีหลานให้เขาก่อน เพราะเขาแก่กันแล้ว เนี่ยจ้างล้านนึงก็ได้ พูดกันเล่นๆ อย่างนี้ จ้างล้านนึงมีหลานให้ก่อนได้ไหมถ้าไม่พร้อมแต่งงาน อะไรแบบนี้"

ตอนนี้คนเข้าใจผิดไม่ได้เป็นประมาณนี้เลย เป็นไปอีกเรื่องนึง อ่านคอมเมนต์บ้างยัง?

ตั้ม : "อ่านแล้ว เขาบอกว่าอายแทนฝ่ายหญิง นู่นนี่ เห้ย...ไม่ใช่ ไปดูบริบทตัวรายการ รอรายการออนก่อน เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน"

หรือว่าจริงๆ เป็นแผนโปรโมทรายการ?

ตั้ม : "เขาอาจจะพาดหัวเพื่อให้คนสนใจ ผมก็ไม่ได้นึกอะไร พอมีคนมาด่าเราไม่ว่า แต่ไปด่าครอบครัวเขา มันไม่ใช่ มันเป็นการพูดเล่นกัน เออ...ไม่ได้ซีเรียสนะในครอบครัวอะไรอย่างนี้ มีหลานก่อน เขาแก่แล้วอะไรอย่างนี้"

โดม : "อารมณ์แบบว่าไม่ได้คิดอะไรมาก แบบสมัยใหม่อะไรอย่างนี้"

โดมเห็นข่าวเพื่อนแล้วตกใจไหม?

โดม : "ก็เข้าไปด่ามันครับ"

คุณมาสนิทกันได้ยังไง?

ตั้ม : "เพราะงานแล้วก็เงิน ตอนแรกยังไม่ได้สนิท มันคือเรื่องงานก่อน ได้ร่วมงาน 4 โพธิ์ดำ"

โดม : "เราสองคนมาจากบ้านเดอะสตาร์ด้วยกัน แต่ว่าอยู่กันคนละปี ผมเดอะสตาร์ 8 เป็นรุ่นพี่ แล้วตั้มเป็นรุ่นน้อง ไล่หลังกันมาปีนึง"

เดิมทีโดมคิดว่าตั้มไม่น่าคบ?

ตั้ม : "จริงเหรอ คุณพูดอย่างนั้นเหรอ"

โดม : "คำว่าไม่น่าคบ ไม่ได้หมายความว่ามันดูเป็นเด็กไม่ดี แต่ว่าตอนแรกเรายังไม่ได้คุยกัน เราแค่รู้สึกว่าเขามีกำแพงอะไรหรือเปล่า เขาจะมีความแบบว่าเกร็งๆ เราก็เลยไม่รู้ว่าจะเข้าไปคุยกับเขายังไง ไปคุยแล้วจะเป็นยังไง"

หยิ่งไหม?

โดม : "ไม่เชิงว่าหยิ่ง แต่แค่ยังไม่รู้จักกัน ก็มีตึงๆ ใส่กันหน่อย แต่ว่าพอได้มาทำงานด้วยกันในเดอะสตาร์ พอหลังจบเดอะสตาร์ปุ๊บก็มีงานใหญ่เข้ามา ก็คือคอนเสิร์ต 4 โพธิ์ดำ งานแรก มันก็เลยมาทำงานกัน แล้วก็ค่อยๆ รู้จักเขามากขึ้นกว่าเดิม"

แล้วพอรู้จักเขาแล้วเป็นยังไง?

โดม : "ก็ไม่อยากคบเลยครับผม แซวเล่นๆ คือเขาเป็นคนน่ารัก ในมุมที่ตอนแรกเราไม่รู้จักเขามาก่อน พอเริ่มรู้จักปุ๊บเริ่มรู้สึกว่าจริงๆ เขาก็เป็นเด็กบ้านๆ คนนึงแล้วก็มีความเหมือนเรา ผมเริ่มเห็นตัวเองอยู่ในนั้น เด็กต่างจังหวัดคนนึงที่ชอบร้องเพลง อยากทำอะไรก็ทำเต็มที่ เรารู้สึกว่าเห็นเขาเป็นน้องที่น่ารักมาก แล้วก็ทำงานด้วยกัน มันมีเพลงที่ต้องร้องด้วยกัน ผมจำได้ว่าเป็นเพลงนึงที่ร้องเสร็จปุ๊บเนี่ยมันต้องร้องประสานกัน แล้วเขาร้องหลัก แล้วเขาก็ร้องไม่ได้ เขาก็เครียด เขาก็มาปรึกษาถามอย่างนี้ ความตั้งใจของเขาคือทำให้มันได้จริงๆ แล้วก็เริ่มประทับใจในตัวเขา"

แล้วตั้มรู้สึกยังไงกับโดมบ้าง?

ตั้ม : "ผมเจอเขาครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนเก่ง เขาทำให้ภาพการมาประกวดเดอะสตาร์ของผมมันเปลี่ยน เพราะก่อนหน้านั้นผมรู้สึกว่า คนที่ต้องได้เดอะสตาร์ 1.ต้องแบบ..โคตรหล่อ ร้องเพลงได้ แต่ต้องหน้าตาดี แต่พอเจอเขา ผมเชียร์เขาตั้งแต่เขาร้องรอบ 24 คนเลย แล้วผมมองว่าคนนี้ต้องได้แชมป์แล้วแหละ  เพราะผมรู้สึกว่าเสียงมหัศจรรย์มาก พอมารู้จักกัน เออ...ก็ดีแค่เสียงอย่างเดียวจริงๆ หยอกเล่นๆ มันทำให้ภาพเดอะสตาร์ของผมแบบ เออ...เราก็มาได้นะ แล้วพอมาปั๊บได้มาเจอเขา เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่บอกว่าเหมือนสวรรค์สร้างเสียงอันนี้มาแบบพิเศษมาก"

แต่คุณตั้มคุณรักคุณโดมมากเกินไป จนคุณพาเขาไปเที่ยวกลางคืน เที่ยวผู้หญิง?

ตั้ม : "ขอเคลียร์ตรงนี้ก่อนว่า ผมแค่ปรึกษาในฐานะพี่คนนึงว่าผมอะอยู่ในบ้านเดอะสตาร์มาหลายเดือน มันก็มีความต้องการของเด็กผู้ชาย ผมก็ปรึกษาก่อนว่ายังไงกันดี"

โดม : "บางทีทำงานด้วยกันเสร็จแล้ว ผมก็ตระเวณส่งคนที่อยู่แถวๆ นี้ แล้วเขาก็มีคอนโดอยู่ใกล้ๆ เราก็ไปส่งคนนั้น คนนี้ก่อน"

ได้ข่าวว่าคุณนะพาไป ตามภาพลักษณ์คิดว่าเป็นตั้ม?

ตั้ม : "คนขับนะครับเนี่ย"

โดม : "กลายเป็นผู้ต้องหาไปเฉยเลย ต้องบอกก่อนว่าผมไปส่งตามที่ต่างๆ ถ้าเกิดคนรู้แถวๆ บริเวณพระราม9"

ตั้ม : "เขาบอกว่าตรงนี้มี"

แล้วคุณไปเอาข้อมูลมาจากไหน?

โดม : "ก็ถามรุ่นพี่ๆ นี่แหละ เราผ่านเส้นนี้ทุกวัน แล้วผมก็อ่านในพันทิปอะไรพวกนี้แหละครับ"

ตั้ม : "เห็นป่ะบางคนเห็นว่าคุณโดมเป็นคนน่ารัก ใสๆ น่าจะพาตั้มไปในทางที่ดีนะ ก็พาไปในทางที่ดีนะ ตรงข้ามเพชรบุรีเนี่ย"

ไปแล้วเป็นยังไง?

โดม : "จะบอกก่อนว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะไปตรงนั้นอย่างเดียว แต่คือมันเป็นทางที่มันต้องผ่านไปส่งเขาที่คอนโด แล้วพอผ่านปุ๊บเราเลยสะกิดเขาว่าตรงนี้มันมีอยู่นะ เห็นไหมที่ยืนอยู่ แล้วเขาก็เลย อ๋อ...บอกให้ผมจอด"

ตั้ม : "จอดเลย ลองดูสิ เราเปิดกระจกเลย เขาจะรอ กำลังมองหน้าเขา เขาทักเลย ตั้ม เดอะสตาร์ คนที่ 9 ของเมืองไทย โอ้โห...ทักอย่างนี้ ตอนแรกเราเพิ่งเข้าวงการ เราวางตัวไม่ถูก เดี๋ยวมันจะเกิดการเอาไปพูดอะไรหรือเปล่า ตอนนั้นคิดว่าตัวเองดังมากมั้ง"

โดม : "ตัวน้องก็เลยสะกิดผม บอกว่าโดมไป"

ตั้ม : "หนีเลย กลัว

แต่ก็ได้ข่าวว่าคุณโดมก็พาคุณไปที่ที่เป็นความลับเหมือนกัน?

ตั้ม : "แมตซ์นั้นคุณโดมเขาไม่ได้ไป ผมไปเอง ผมไม่ได้ปีกกล้าขาแข็งหรอก แต่อย่างอื่นอะแข็ง ผมก็ไป เขาก็บอกว่าคุณตั้ม รู้จักอีกแล้ว แต่คุณตั้มไม่ต้องกังวลนะคะ ที่นี่เงียบแน่นอน เราปิดข่าวตลอดเลย ขนาดมีพี่ดีเจคนนี้ พี่ดาราคนนี้มานะ เรายังไม่พูดเลย แล้วแบบ...ทำไงละจ่ายเงินไปแล้ว เลือกไปแล้วไง เนี่ยยังไม่พูดเลย พี่คนนี้เขาชอบแบบนี้ บึ้มๆ หน้าไม่เน้น สาธยายทุกอย่าง แต่เราก็เสียเงินไปแล้วไง ผมก็เลยพูดว่า พี่ครับ เอาแบบนี้เนาะ ถ้าเป็นกรณีผมอะ พี่ไม่ต้องเล่าให้ใครแบบนี้นะ สุดท้ายเป็นไงมานั่งเล่าเองในรายการสด"

โดมเองเป็นคนดีคนนึงเลย แอลกอฮอล์ดื่มไม่ได้เลยแพ้ แต่ว่าก็มีคนดีคนนึงเปิดโลกให้กับน้องโดม?

โดม : "จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากมันคนนี้นั่นเอง"

จากคนไม่เคยดื่มแล้วไปดื่มได้ไง?

โดม : "มันจะมีดื่มบ้าง สมัยก่อนไปงานมหาวิทยาลัย ไปรับน้องอะไรอย่างนี้ มันก็จะมีของเขาเวลาไปเข้าค่าย แล้วเราจะเริ่มรู้ตอนนั้นแล้วว่าเราดื่มเข้าไปปุ๊บเราแพ้ คือผื่นมันจะขึ้นตามตัว คัน แล้วก็ใช้ชีวิตไม่ได้ในวันรุ่งขึ้น เราก็จะรู้เลยว่า โอเค แอลกอฮอล์ไม่ได้แล้ว ทีนี้พอเริ่มทำงานก็เริ่มเจอเขานี่แหละ เขาจะบอกว่าออกไปสิ ออกไปเจอสังคม การดื่มบางทีไม่ใช่เป็นการดื่มเพื่อมอมเมาตัวเองอย่างเดียว"

ตั้ม : "ดื่มเอาสังคม ได้รู้จักคนนั้น คนนี้"

โดม : "เราก็หลงเชื่อเขา ก็ไป สุดท้ายผมก็ชนะแอลกอฮอล์ คือไม่แพ้เลย"

ตั้ม : "แต่ผิดอย่างนึงคือ เรากะว่าออกไปดื่มได้เข้าสังคม รู้จักคนนั้น คนนี้ แต่ดื่มทีไรไม่ทันได้รู้จักใครนะ กองอยู่ที่พื้น"

แต่ตั้มไม่เป็น ตั้มแค่เบาๆ?

ตั้ม : "ผมก็เป็น แต่ผมจะเป็นช้ากว่า เขาจะไปไว"

โดม : "คือคอแข็ง"

เห็นว่ามีอยู่ครั้งนึงเคยดื่มแล้วลงไปกองต่อหน้าท่าน CEO เลย?

โดม : "เอาจริงๆ วันนั้นผมก็จำไม่ได้ว่าผมทำอะไรไปบ้าง คือมีคนมาเล่า มันคืองานเลี้ยงแบบปิดโปรดักชั่น หมายถึงว่าจบงานงานนึงก็เป็นการเลี้ยงกัน แล้วผมก็เต็มที่ไง คือพี่บอยจะเป็นคนที่ถ้าเกิดทำงาน ทำงานหนัก แต่ถ้าเกิดจะปาร์ตี้หรือเล่น เขาก็ไม่ได้ติดขัดอะไร สนุกเต็มที่ แต่ผมก็ไม่คิดว่าผมไปสุดได้ขนาดนั้นเหมือนกัน ก็คือมีคนมาเล่าว่า จังหวะที่พี่บอยจะเปิดแชมเปญเพื่อฉลองว่าเนี่ย..สำเร็จแล้ว แต่ผมเอาตัวสอดแทรกเข้ามาระหว่างขาพี่บอย กลัวไม่ให้แชมเปญมันเลอะพื้น พอเขาเปิดปุ๊บ เราก็รอรับอย่างนี้"

ตั้มทำไมไม่เตือน?

ตั้ม : "เตือนอะไรอะ ผมนอนอยู่ฝั่งนู่น"

พี่บอยว่ายังไง?

โดม : "พี่บอยไม่ติดอะไรครับ"

เห็นว่าสร้างวีรกรรมถึงอเมริกาเลย?

ตั้ม : "ต่างประเทศนี่คือคุณโดมเขาก็หนัก คือเราไปเป็นผู้พักอาศัยบ้านคนอื่นเขา เขาก็ต้อนรับอย่างดีในการดื่มอะไรกันให้หนักหน่วงเลย บ้านเขาก็สวยนะ เขามีพรมมีอะไร เสร็จปั๊บนางก็เมามาก นางก็อาเจียนออกมา ทั้งพรมทั้งประตูห้องน้ำที่สวยงาม แล้วขนาดของโดมเป็นอะไรที่จุได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นมันจะเยอะมากๆ อะไรที่มันพุ่งออกมา"

พอเราตื่นขึ้นมาแล้วเห็นสภาพบ้านเขาเป็นอย่างนั้นรู้สึกยังไง?

โดม : "ใจเสียเหมือนกัน เราทำอะไรไปครับเนี่ย"

ตั้ม : "โชคดีที่คืนนั้นเจ้าบ้านเขาก็ค่อนข้างที่จะหนักเหมือนกัน ก็ตื่นกันมาก่อน รีบทำความสะอาดบ้านให้เขา"

โดม : "ผมก็มาเช็ดให้เขา"

ค่ำคืนนั้นตั้มคนดีช่วยพี่โดมยังไงบ้าง?

ตั้ม : "นอนดูสิครับ แล้วก็ขำ ผมก็ประคองตัวเองก็ลำบากเหมือนกัน เพียงแค่ผมไม่ได้พุ่งออกมาแบบนั้นก็ได้แต่นั่งมอง"

หลังจากเหตุการณ์หนักๆ วันนั้น คุณยังดื่มต่อกันไหม?

ตั้ม : "วันนั้นเป็นวันเปิดแหละ ผมก็เรื่อยๆ จิบๆ ปกติ ไม่ได้เยอะแล้ว วันแรกหนักไง"

แล้วตอนนี้ละ ช่วงนี้เป็นไง?

ตั้ม : "ช่วงนี้ดื่มไม่หนัก แต่ถามว่ามีดื่มบ้างไหม มีดื่มบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเมาอะไรหนักๆ ขนาดนั้น"

โดม : "ไม่ค่อย"

มาฮ่องกงโดนตำรวจล้อม?

โดม : "ผมไปดิสนี่ย์แลนด์ ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจออะไรแบบนี้ คือมันเป็นเหตุการณ์ที่เราไปถึงปุ๊บ เรากำลังซื้อตั๋ว กำลังจะเข้าไป แต่ว่าผมชอบมากกับการมาดิสนี่ย์แลนด์แล้วชอบแบบแต่งตัว เอาชุดแบบเป็นเด็กเนิร์ด เอาชุดตัวการ์ตูนมาใส่ กึ่งๆ มาสคอต แล้วกะเข้าไปแล้วไปถ่ายรูป ก็เดินๆ ระหว่างกำลังเดินเข้าประตู อยู่ๆ ก็มี Security แต่งตัวมีอาวุธพร้อม 4-5 คนเดินมาล้อมผม ผมก็ตกใจอะไร เกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรผิด จังหวะนั้นเราก็พยายามคุยกับเขา ต่อรองว่ามันเกิดอะไรขึ้น"

"เขาก็อธิบายให้ฟังว่าชุดนี้มันไม่ได้ ถ้าใส่ไปปุ๊บ เดี๋ยวมันไปหลงกับพนักงานที่เขาต้องแต่งตัวอยู่แล้ว แล้วมันอาจจะมีการสับสนกันเกิดขึ้น ก็เลยใส่ไม่ได้ คือผมพยายามหาความช่วยเหลือ เพราะผมไปกับตั้ม ไปกับพี่แก้ม แต่ว่าหันไปสิ่งที่เห็นคือ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงเข้ามาช่วย หันไปเห็นมันก็คือมันถือมือถืออยู่ แล้วก็ถ่ายวีดิโอ แล้วก็ยืนขำ"

ตั้ม : "อันดับ 1.เลย เราอยากได้คอนเทนต์ อันดับ 2 คือเราคุยภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้าเข้าไปเคลียร์ยิ่งหนักเลยอะ เป็นแรงงานต่างด้าวหรือเปล่า ผมก็ไม่ยุ่งเลย ผมก็ยืนถ่าย แต่ไม่กล้าลง เพราะนั่งคุยกันแล้วตอนนั้นมันจะดราม่าป่ะวะ เรามาทำผิด แล้วนำรวจจับ ถ้าเราลงมันจะดูไม่ดีหรือเปล่า"

คุณสงสารคุณโดมเขาไหม?

ตั้ม : "จังหวะนั้นผมรู้สึกว่ามันไม่ได้อะไรร้ายแรงอะ"

แล้วเขายึดชุดไปไหม?

โดม : "เขาให้ฝากไว้ข้างนอก ไม่ให้เอาเข้าไป จังหวะนั้นมันตกใจ"

พี่แก้มช่วยไหม?

โดม : "พี่แก้มเหมือนจะเดินนำไปก่อนแล้ว"

เหตุการณ์วันนั้นเห็นว่าคุณก็แค้นเขาเบาๆ เหมือนกันนะ?

โดม : "แค้น ได้เอาคืนนิดนึงครับ หลังจากไปฮ่องกงเสร็จปุ๊บ เราก็มีไปอเมริกากันต่อ พอไปอเมริกาปุ๊บเราต้องผ่าน ตม.แล้วต้องมีการพูดคุยกัน มันก็จะเกร็ง แล้วตั้มเขาเป็นคนกังวลอยู่แล้ว เพราะว่าเขาจะสื่อสารภาษาอังกฤษเขาก็จะไม่เข้าใจ ผมก็เอาเลยผมนั่งอยู่บนเครื่อง แล้วเขาก็กังวล ผมก็เหมือนเทรนด์ให้เขา"

ตั้ม : "เดี๋ยวเขาถามยังไง แล้วต้องพูดยังไง"

โดม : "แต่ ตม.เขาถามต่อ มาทำอะไร พักที่ไหน มากี่วัน ผมก็แค้นมันไง ผมก็แกล้งมัน ผมก็บอกว่าพูดแค่นั้นแหละ เขาไม่ถามหรอก เดี๋ยวเขาถามผมที่มาข้างหลัง แล้วตั้มเขาตอบไม่ได้ เขาก็เออะ อะๆ แล้วเขาก็เริ่มหันมาขอความช่วยเหลือผม"

ตั้ม : "คือ ตม.คนนั้น สำเนียงภาษาอังกฤษไม่ดี ผมฟังไม่ออก"

โดม : "แต่เขาก็ยังให้มันผ่าน แต่พอมันผ่านเสร็จปุ๊บผมก็เข้าไปต่อจากตั้ม เขาก็ถามคนนั้นคือเพื่อนคุณเหรอ ผมก็บอกว่าใช่ แล้วเขาก็หัวเราะนิดนึง แล้วไม่ได้พูดอะไร"

ตั้ม : "อันนี้เลวมากเลยนะ เพราะมันเดินออกมาบอกผมว่า มึงๆ ตม.เขาบอกกุว่าเพื่อนคุณหรือเปล่า ฝากสอนภาษาอังกฤษเขาด้วยนะ มันหลอกด่าผม"

โดม : "ก็ถือว่าเบานะ"

ตั้ม : "ผมก็เลยเข้าใจอย่างนั้นมาตลอดว่า ตม.ว่าผมโง่ภาษาอังกฤษ"

โดม : "เขาขำๆ นิดหน่อยเอง เขาไม่ได้ว่าอะไร"

เวลาไปโชว์ตัวต่างประเทศ คุณก็นอนด้วยกัน มันมีกฎกติกาอะไรไหม?

ตั้ม : "ต้องมีครับ กฎแรกเลยคือ ผมน้องขอนอนก่อน เพราะถ้านอนทีหลังโดมผมจะไม่ได้หลับทั้งคืนเหมือนผมนอนอยู่ข้างเครื่องจักรอะไรสักอย่าง เหมือนเรือบกอ่ะ เขากรนหนักมาก แล้วกรนแบบบ่นด้วย ผมนึกในใจว่ามันร้องเพลงได้ยังไง ตื่นเช้ามามันไม่แสบคอเหรอ แล้วผมบอกเลยนะ ต้องปัสสาวะให้เสร็จ เพราะถ้าเราตื่นมาปัสสาวะกลางดึกนั่นหมายความว่าเราไม่ได้นอนแล้วนะ"

ทำไมไม่แยกห้องนอน?

ตั้ม : "บางทีลูกค้าก็งบน้อยไง"

แล้วตั้มเป็นยังไงบ้าง?

โดม : "เขาจะเป็นคนนอนแบบเงียบๆ ครับ แล้วเขาจะมีจังหวะที่เราก็ตกใจเหมือนกัน ถ้าเกิดสมมติตื่นมา เพราะว่าเขาจะชอบนอนท่าไหน ท่านั้น"

คุณอยู่ในแก๊ง 4 โพธิ์ดำ แล้วเขาจับให้คุณสองคนแต่งหญิง หรือจริงๆ แล้วใจรัก?

ตั้ม : "คือเรื่องของเรื่องเลย ในตัวละคร 4 โพธิ์ดำ มีพี่แก้มเป็นผู้หญิงคนเดียว บางเส้นเรื่องเนี่ย..."

โดม : "อย่างเรื่อง บัลก์ลังเมฆ มันก็ต้องมีตัวละครที่ต้องเป็นแม่ และลูกสาว พอมันมีพี่แก้มคนเดียว เราก็ต้องหาตัวละครที่มาเล่นด้วย"

ตั้ม : "ซึ่งพี่กันก็ไม่แต่งอยู่แล้ว ให้พี่กันมาแต่งหญิงมันก็ไม่ใช่ไง หรือบางทีแขกรับเชิญเขาก็ไม่แต่งอยู่แล้ว"

แต่ว่าคุณสองคนเล่นได้ดีมากๆ เลย ดีแบบพวกเราเชื่อว่าคุณสองคนแบบ เห้ย...ยังไง?

ตั้ม : "มันสนุกนะ เหมือนมันข้ามไปอีกโลกนึงอะ"

เขาเล่นได้อิน จนลูกค้าที่จ้างงานอีเว้นท์ลงทุนให้คุณแต่งหญิงเพื่อขึ้นเวทีคอนเสิร์ต นี่เรื่องจริงเหรอ?

โดม : "ของผมยังไม่มี แต่ของคนนี้เต็มๆ"

ตั้ม : "บางทีงานเดียวกัน รับซ้อนนะ คือโชว์กับ 4โพธิ์ดำจบ เขาให้ขึ้นไปร้อง แล้วให้เงินเพิ่มด้วย"

คุณเคยใช้มุกเป็นสาวแล้วไปจีบผู้หญิงไหม?

ตั้ม : "มี ต้องบอกว่าผู้หญิงเนี่ยเวลาเขาเข้ามาคุยกับเรา ถ้าเราไปแบบนี้ เขาไว้เนื้อเชื่อใจรู้สึกว่าปลอดภัย"

ถ้าสมมติเราจะจีบจริงๆ แล้วเขาจะกลับมามีใจให้เราได้ยังไง ถ้าเขาคิดว่าเราเป็นไปแล้ว?

ตั้ม : "บางทีมันช่วงผลีผลาม บางทีเจอกันกลางคืน ผู้หญิงกำลังงงๆ เราก็ชวนคุย เราไม่ได้บอกเขานิว่าเราเป็น แต่แค่ท่าทางเราเหมือน เขาก็อยากคุยแล้ว"

คุณมีการทดสอบตัวเองด้วย คุณโดมรู้เรื่องไหม ว่าเขาสับสนทางเพศ?

โดม : "ไม่รู้ครับ บางทีมันอาจจะมีแบบพูดๆ บ้าง ว่าเออ บางทีก็ถามตัวเอง แต่ว่าเกิดจากการที่เขาแต่งหญิงปุ๊บมีคนมาชม เขาก็จะเริ่มแบบไม่เข้าใจ แต่ว่าไอทำพิธีการแบบนี้ไม่รู้ ทำจริงเหรอ"

ตั้ม : "จริง"

เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าวิธีการที่คุณทำคืออะไร?

ตั้ม : "ผมก็ไปถามเพื่อนที่เป็นผู้ชายด้วยกันว่าเคยรู้สึกอะไรอย่างนี้ไหม ผมรู้สึกงงว่าสรุปเป็นหรือเปล่า เพราะคนมักจะพูดว่าแต่งหญิงเยอะๆ เป็นแหละ แต่ยังไม่รู้ตัว เรารู้สึกเหรอวะ เรารู้สึกในเรื่องเพศของเราอย่างนั้นจริงๆ เหรอ"

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เราไปเที่ยวรางรถไฟกันบ่อย?

ตั้ม : "ใช่ หรือว่าเรายังไม่รู้ไง ผมก็เลย เอะ...เราลองอีกแบบนึงไหม ที่แบบคนเขาเป็นกัน เขาลองกัน ทิ่มไปเลย ทิ่มไปปุ๊บ..."

ทิ่มด้วยอะไร?

ตั้ม : "นิ้ว เพื่อนสอนให้ลองทำแบบนี้ เพื่อนก็เคยเป็น ผมทิ่มเข้าไปก็ไม่ได้เจ็บ มันไม่รู้สึกถึงความเพลิดเพลินหรือว่าสนุกสนาน หรืออะไรอย่างนี้ ไม่เคย"

สรุปง่ายๆ ว่ายังไงก็ไปรางรถไฟดีกว่า?

ตั้ม : "มันก็อัปเกรดขึ้นมาหน่อย ไปที่อื่นแล้ว"

ตอนนี้ตั้มมีแฟน?

ตั้ม : "มีครับ เป็นผู้หญิง ถามว่าวางแผนกันยังไงก็เรื่อยๆ เลยครับ ก็ตอนนี้ช่วงอายุผมก็คือสร้างอนาคต เก็บเงินให้เยอะๆ ก่อน ถ้ามีแผนอะไร ถ้าเรามีเงิน เดี๋ยวเราก็ทำได้ทั้งหมดฎ

โดมละ?

โดม : "ก็มีคุยๆ อยู่บ้าง เป็นเพื่อนๆ กันนี่แหละ ผมพัฒนาความสัมพันธ์จากคนเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ ถามว่าจะเปิดตัวไหมก็เรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ปิดบัง"

เคยปรึกษาเรื่องความรักกันบ้างไหม?

ตั้ม : "มี นั่งเครื่องบิน ไม่ได้นอนเลย เหมือนฟังซีรีส์มาตลอดระยะเส้นทาง ไม่ใช่เครื่องบินไปฮ่องกงนะ ไปอเมริกา 10 กว่าชั่วโมงไม่หยุดเลย ก็พร่ำเพ้อว่ากูยังไงดี ปกติเราจะเรียกขอเครื่องดื่ม ขออะไร แต่นี่ขอทิชชู่"

โดม : "มันพูดไปเวอร์"

ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น อกหักเหรอโดม?

โดม : "มันเป็นความแบบเราไม่เข้าใจ แต่ว่าไม่รู้จะปรึกษาใครดี ก็ปรึกษาตั้ม"

ตั้ม : "ผมรับฟังได้ แต่ให้คำแนะนำอาจจะไม่ค่อยมีหรอก"

ก่อนหน้านี้โดมเป็นโควิด?

โดม : "ใช่ครับ เราเริ่มรู้อาการตัวเองว่ามีอาการตามที่เขาแจ้งมาว่ามีอาการแบบนี้ต้องระวังนะ เริ่มมีน้ำมูก เริ่มไอ แล้วเราก็ไปอยู่ที่เดียวกับคนที่เขาติดโควิดมาก็เลยต้องไปตรวจ พอตรวจปุ๊บรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นแน่นอน"

ตอนนั้นกลัวตายไหม?

โดม : "กลัวมาก นั่งอยู่ในห้องที่อยู่ในโรงพยาบาลมันก็มีทีวี เราก็นั่งเปิดทีวีดูไปเรื่อยๆ ข่าวที่มันเห็นในช่วงนั้นก็จะมีข่าวผู้เสียชีวิตรายวัน แล้วจากเดิมที่เราเคยเชื่อว่าคนเป็นโควิดต้องอายุเยอะถึงจะเสียชีวิต วันนั้นข่าวคืออายุ 30 ปี เป็นโรคอ้วน เราก็รู้สึกนอยด์ไปเลย แล้วเราก็เริ่มกลัว แล้ววันรุ่งขึ้นเชื้อลงปอดด้วย ก็ยิ่งกลัวไปกันใหญ่ นอนไม่ได้ นอนไม่หลับเลย"

ตอนนั้นตั้มให้กำลังใจอะไรโดมบ้าง?

ตั้ม : "ผมโทรหาเขาทุกวันแล้วก็ส่งวิตามินซี ส่งขนมให้เขาทาน ซึ่งตอนนั้นลิ้นเขาไม่รู้รส"

โดม : "ไม่รู้รสจากการที่เขาส่งขนมมาให้ผมกิน แล้วเป็นขนมที่ผมชอบกินอยู่แล้ว แล้วจริงๆ ขนมนี้มันจะมีรสเปรี้ยว ผมกินปุ๊บขนมมันเสียหรือเปล่า เพราะมันไม่ใช่รสชาติเดิมที่เรารู้จัก ก็เลยทดลองดูเพราะเปรี้ยวมันหายไป เริ่มเอามะนาวมากิน ก็ไม่เปรี้ยว ก็เลยรู้ว่ามันสูญเสียการรับรสชาติเปรี้ยวไป"

แล้วมันมีผลกับเสียงเราไหม อย่างตอนนี้เรากลับมาปกติแล้ว?

โดม : "มี ยอมรับเลยว่ามันแอบจะมีผลอยู่บ้าง มันทำให้ปอดเราไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น มีอาการแบบเหนื่อยนิดหน่อย อาจจะไม่ได้หนักมาก แต่เริ่มรู้สึกตัวได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม"

จะเลิกร้องเพลง แล้วไปเอาดีทางด้านพิธีกร?

ตั้ม : "จริงๆ เอาดีทุกอย่าง อยากทำทุกอย่าง เพียงแค่ช่วงนี้ไม่ได้ร้องเพลง เพราะไม่มีอีเว้นท์ แต่ว่าไปทำรายการข่าว เป็นรายการใหม่"

ตอนนี้เรียกน้องโดมไม่ได้แล้วนะ ต้องเรียกท่านผู้บริหารโดม เรื่องค่ายเพลงเป็นไง?

โดม : "ตอนนี้กำลังทำสนุกสนานเลย มีศิลปินมาแล้ว 2 วงด้วยกัน"

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ "โดม-ตั้ม" เปิดจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อน แลกกันคนละหมัดแฉวีรกรรมสุดแสบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook