เจอแล้ว "นกยักษ์" สาวป่วยโควิดหนีจากอุดรฯ โผล่สมุทรปราการ อ้างคิดถึงแฟนจนทนไม่ไหว

เจอแล้ว "นกยักษ์" สาวป่วยโควิดหนีจากอุดรฯ โผล่สมุทรปราการ อ้างคิดถึงแฟนจนทนไม่ไหว

เจอแล้ว "นกยักษ์" สาวป่วยโควิดหนีจากอุดรฯ โผล่สมุทรปราการ อ้างคิดถึงแฟนจนทนไม่ไหว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แตกตื่นทั้งชุมชน เจอแล้ว "นกยักษ์" สาวป่วยโควิดเหมาแท็กซี่หนีจากอุดร  ก่อนนั่ง จยย.รับจ้างกลับห้องเช่าที่สมุทรปราการ ขอรักษาตัวอยู่กับแฟนที่นี่

จากกรณีที่นางสาวรตาธินีย์ หรือ นกยักษ์ อายุ 32 ปี ที่ป่วยเป็นโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 และหลบหนีออกจากโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กลับมายังห้องเช่าซึ่งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ  

ล่าสุดในวันนี้ที่ 19 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าห้องเช่าของนางสาวนกยักษ์ อยู่ภายในซอยถุงเท้า ชุมชนวัดสำโรงเหนือ หมู่ 4  ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้พบคณะกรรมการชุมชนและชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว ต่างพากันแตกตื่นและเฝ้าดักรอ นางสาวนกยักษ์ อยู่ที่บริเวณกลางซอยทางเข้าชุมชน เนื่องจากเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่านางสาวนกยักษ์ ยังไม่เข้ามาที่ห้องพัก

จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงวัน ได้พบนางสาวนกยักษ์ ได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาในซอยดังกล่าว จึงได้ส่งสัญญาณให้รถจักรยานยนต์รับจ้างคันดังกล่าวจอดและให้นางสาวนกยักษ์ ลงและนั่งรออยู่ที่กลางซอย ก่อนที่คณะกรรมการชุมชนจะได้ติดต่อประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้จัดรถมารับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แต่ระหว่างที่นั่งรออยู่ที่กลางซอยเกรงว่าจะเป็นการแพร่เชื้อ คณะกรรมการชุมชนจึงได้ให้ นางสาวนกยักษ์ เข้าไปเก็บตัวอยู่ในห้องเช่าของตนเองก่อน พร้อมทั้งล็อกกุญแจหน้าห้องเอาไว้เพื่อป้องกันการหลบหนีอีกในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มารับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คณะกรรมการชุมชนคอยส่งอาหารและสิ่งของที่จำเป็นให้ 

โดยนางสาวนกยักษ์ ได้บอกว่า ตนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกุมภวาปี มาได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว และคิดถึงแฟนจึงหนีออกมาจากโรงพยาบาลกุมภวาปี ตอน 9 โมงเช้าโดยนั่งแท็กซี่มาจากอุดรให้มาส่งที่สมุทรปราการ บริเวณหน้าห้างอิมพีเรียล สำโรง ก่อนนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาห้องเช่า ซึ่งเมื่อคืนตนก็นอนอยู่ที่ห้องเช่า แต่มาตอนเช้าตนได้นั่งแท็กซี่ไปที่บ้านอาซึ่งอยู่ในย่านถนนกิ่งแก้ว ก่อนที่จะเดินทางกลับมาที่ห้องเช่า ส่วนสาเหตุที่ตนหนีออกมาเนื่องจากคิดถึงแฟน ที่ติดโควิดเหมือนกันและถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งอยู่ในย่านอำเภอบางพลี และตอนนี้ตนสำนึกผิดแล้วและไม่คิดที่จะหนีไปไหนแล้วจะขอรักษาตัวอยู่ที่นี่  

นางมาลินี ธนมโนสุข กรรมการและเลขาชุมชนวัดสำโรงเหนือ หมู่ 4 ได้เล่าว่า ในตอนนี้ต้องนำตัวผู้ป่วยเข้าไปกักตัวที่ห้องเช่าของเขาก่อน และจะมีเจ้าหน้าที่คอยส่งอาหารและสิ่งของที่จำเป็นให้ก่อน โดยตอนนี้ทางเราได้ติดต่อกับทางจังหวัดแต่ต้องรอเอกสารของผู้ป่วยก่อนเพื่อเข้ารับการรักษา แต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่จังหวัดอุดรธานี กำลังประสานงานส่งเอกสารมาให้ แต่ตอนนี้เป็นความรับผิดชอบของชุมชุนที่ต้องรับผู้ป่วยมากักตัวก่อน และประสานไปทางสถานีอนามัยสำโรงกลาง ให้ประสานและจะดำเนินการนำผู้ป่วยไปรักษาให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ป่วยเองติดโควิด-19 ที่นี่ และทางชุมชนได้คุยกับผู้ป่วยแล้ว แต่ผู้ป่วยประสงค์จะกลับไปรักษาตัวที่จังหวัดอุดรธานี

ส่วนแฟนของผู้ป่วยก็ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามในในย่านอำเภอบางพลี และมาเมื่อวานนี้ได้ทราบข่าวจากชาวบ้านที่พบเห็น นางสาวนกยักษ์ กลับมาที่ห้องเช่า จึงประสานไปทางโรงพยาบาลกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี จึงทราบว่านางสาวนกยักษ์ หนีออกมาจากโรงพยาบาล ตนจึงพยายามติดต่อตัวเขา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาพบตัวในวันนี้ จึงประสานให้รักษาตัวที่นี่ 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook