สถาบันธัญญารักษ์ ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ คนร้ายกราดยิงใน รพ.สนาม ยิงผู้ป่วยดับ

สถาบันธัญญารักษ์ ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ คนร้ายกราดยิงใน รพ.สนาม ยิงผู้ป่วยดับ

สถาบันธัญญารักษ์ ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ คนร้ายกราดยิงใน รพ.สนาม ยิงผู้ป่วยดับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี คนร้ายถือปืนบุกกราดยิงผู้ป่วยที่หอผู้ป่วย COVID ส่วนขยาย 6+1 กรมการแพทย์ @ สบยช. นั้น ทาง สบยช. รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว

สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา. 03.10 น. มีชายแต่งกายสวมเสื้อแขนยาวลายพรางคล้ายทหารและสวมหมวกหมวกเบเร่ต์สีแดง ขับรถกระบะสีขาว มาที่หน้าประตู 1 และแจ้ง รปภ. “ว่าจะมาโรงพยาบาลราชวิถี 2” รปภ.แจ้งเส้นทางการเดินรถแก่คนร้ายว่า “ราชวิถีให้เลี้ยวขวา” แต่คนร้ายกลับเลี้ยวไปทางซ้าย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่อาคารอำนวยการของสถาบันฯ (สบยช.) แล้วคนร้ายขับรถไปจอดหน้าตึกอำนวยการ สบยช.

หลังจากนั้นได้ลงมาจากรถ และสูบบุหรี่ พร้อมกับถือปืนเดินไปตรง หน้า รปภ.ทางเข้าหน้าหอผู้ป่วย COVID ส่วนขยาย 6+1 กรมการแพทย์ @ สบยช. คนร้ายถือปืนพร้อมกับสูบบุหรี่และเดินเข้าหา รปภ. ซึ่งไม่มีอาวุธ โดยตามกฎหมายแล้ว รปภ.ไม่สามารถพกและใช้อาวุธปืนได้อย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อทาง รปภ. เห็นลักษณะท่าทางไม่ปกติจึงถอย และวิทยุเรียก รปภ. ท่านอื่นให้มาช่วย และแอบซุ่มดูอยู่ข้างต้นไม้ บริเวณด้านหน้าหอผู้ป่วย COVID ส่วนขยายฯ

เห็นคนร้ายเดินเข้ามาตรงบริเวณหน้าเต็นท์ จากนั้นกลับออกไปตรงหน้าตึกคนไข้ เวลาประมาณ 03.14 น. คนร้ายพยายามผลักประตู ซึ่งถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจ ผลักหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงใช้ปืนยิงกุญแจและโซ่ แต่โซ่ไม่ขาด จึงยิงนัดที่ 2 กระจกจึงแตกทั้ง 2 บาน จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปด้านในห้องโถงที่รับประทานอาหาร ซึ่ง ขณะที่คนร้ายกราดยิงนัดที่ 2 พยาบาลได้โทรแจ้งสถานีตำรวจประตูน้ำจุฬาฯ เพื่อให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยเร็วในเวลา 03.20 น. ระหว่างนั้นได้แจ้งผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบทันที

ในขณะนั้นทีมพยาบาลได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเดินผ่านเข้าไปในเรือนนอนผู้ป่วย แล้วก็วนกลับไปตรงบริเวณประตู หน้าลิฟท์ ผลักประตูแต่ออกไม่ได้เพราะล็อกกุญแจ คนร้ายเดินทะลุไปที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งขณะนั้นมีผู้ป่วยชายไทย วัย 54 ปี กำลังเดินออกจากห้องน้ำ คนร้ายได้เดินเข้ามาจ่อยิงอย่างกระชั้นชิดจนเสียชีวิต คนร้ายได้กราดยิงในเรือนนอนคนไข้ ชั้น 1 แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

จากนั้นคนร้ายได้เดินออกมาด้านนอก และไปกราดยิง บริเวณด้านหน้าหอผู้ป่วย COVID ส่วนขยายฯ หลังจากนั้นเดินไปที่ หน้าตึกอำนวยการ สบยช. และกราดยิง แล้วขับรถหนีออกไป เวลา 04.43 น. ทีมแพทย์และ ร้อยเวร สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ร่วมชันสูตรพลิกศพ และแจ้งเหตุการณ์ให้ญาติรับทราบ หลังจากนั้นได้ดำเนินการบรรจุศพ และทำความสะอาดพื้นที่

หลังเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้สวมชุด PPE เข้าไปดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยรายอื่นๆ ทั้งนี้ สบยช. มีจิตแพทย์ นักจิตวิทยา ประเมินสภาพผู้ป่วยเพื่อให้การดูแล ในกรณีผู้ป่วยที่อาการน้อยพักอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 10 วัน สามารถกลับบ้านเพื่อไปกักตัวที่บ้านต่ออีก 4 วัน จนครบ 14 วัน ในส่วนของผู้ป่วยรายอื่นที่ประสงค์จะย้ายชั้นหรือไปรักษาที่อื่น ทาง สบยช. ได้ดำเนินการประสานส่งต่อให้ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติผู้ร้ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ สบยช. มาก่อน รวมทั้งไม่พบชื่อผู้ก่อเหตุในฐานข้อมูล บสต.ด้วย

สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และชี้แจงให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบว่าทาง สบยช. ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถป้องกันได้ ทั้งนี้ สบยช. จะเยียวยาและดูแลด้านจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook