ยายวัย 66 ร้อง "ทนายรัชพล" ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนที่ดิน มูลค่า 50 ล้านบาท

ยายวัย 66 ร้อง "ทนายรัชพล" ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนที่ดิน มูลค่า 50 ล้านบาท

ยายวัย 66 ร้อง "ทนายรัชพล" ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนที่ดิน มูลค่า 50 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณยายวัย 66 ปี สุดช้ำ ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนที่ดิน มูลค่า 50 ล้านบาท เหลือเพียงตั๋วสัญญาใช้เงินที่ขึ้นเงินไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 พ.ค.) ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร ซ.ประชาราษฎร์ 5 แยก 14/3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มี นางลัดดา อายุ 66 ปี พร้อมด้วย น.ส.อลิยา อายุ 43 ปี ภรรยาของบุตรชายคนที่ 2 และ นายธนากร อายุ 46 ปี บุตรชายคนโต เดินทางเข้าพบทนายรัชพล เพื่อปรึกษาคดี

หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อที่ดินจำนวน  6 ไร่เศษ ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท แต่กลับถูกแก๊งคนร้ายใช้อุบายจ่ายเป็นเช็คแล้วสลับเป็นตั๋วขึ้นเงินแทน แต่สุดท้ายไม่ได้เงินสักบาท ที่ดินก็ถูกแก๊งคนร้ายหลอกเอาไปจนสำเร็จ และยังถูกหลอกเอาเงินสดไปอีก 2.5. แสนบาท โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา

นางลัดดา เปิดเผยว่า จู่ๆ ก็มีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินจำนวน 5 ไร่จากตน โดยตกลงซื้อขายกันเป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท โดยคนกลุ่มนี้ได้จ่ายเป็นค่าที่ดินให้ตนเป็นเช็คธนาคาร แต่ต่อมาก่อนถึงวันขึ้นเงินกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มาขอเปลี่ยนเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินแทน

และขอซื้อที่ดินเพิ่มอีก 3 งานเศษ โดยอ้างว่าต้องการนำได้ที่ดินเพิ่มเพื่อนำไปขายต่อให้ผู้ซื้ออีกคนเห็นว่าที่ดินที่ซื้อจากตนไปมีทางเข้าออกติดถนนสาธารณะ รวมเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท หลังโอนเสร็จจะทำการโอนที่ดินจำนวน 3 ไร่เศษคืนให้

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปทำการโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน เมื่อทำการโอนที่ดินสำเร็จ กลับได้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ได้มาเป็นเงินจำนวน 60 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถขึ้นเงินไม่ได้ต้องรอ 7-10 วัน

กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้จึงอ้างกับตนว่า ในตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ได้สั่งจ่ายเงินเกินไป 10 ล้านบาท ให้ตนเองต้องหาเงินมาคืนก่อน 10 ล้านบาท จึงจะสามารถขึ้นตั๋วจ่ายเงินได้ แต่ตนมีเงินในบัญชีเพียง 2.5 แสนบาท เท่านั้น จึงโอนให้คนร้ายไป

จนต่อมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 ตนได้สอบถามไปที่บริษัทตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อขอขึ้นเงิน ปรากฏว่าทางบริษัทแจ้งว่าเป็นตั๋วปลอม จึงทราบในทันทีว่า ถูกแก็งค์มิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกซื้อที่ดินและเงินสดจากตนไป

นางลัดดา กล่าวต่อว่า ตนได้ตรวจสอบเอกสารไปที่กรมที่ดิน ก็พบว่าที่ดินดังกล่าวขอตนถูกโอนเปลี่ยนชื่อไปแล้ว โดยในเอกสารซื้อขายของทางที่ดินระบุว่า ตนได้รับจ่ายค่าที่ดินเป็นเช็คจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 3 ล้านบาท ซึ่งตนไม่เคยได้รับเช็คดังกล่าวเลย

ก็ไม่รู้ว่าแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้วิธีการอะไร จึงสามารถทำให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เซ็นอนุมัติซื้อขายผ่านไปได้ ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้รับเช็ค การซื้อขายยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงเดินทางมาร้องขอทางทนายรัชพลเพื่อขอความช่วยเหลือตรวจสอบคดีดังกล่าว และดำเนินการทางด้านกฏหมาย

ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า หลังสอบถามรายละเอียด พบว่าคดีนี้ยังไม่ได้แจ้งความ แต่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเองทั้งทางแพ่งและอาญา ผ่านมาเกือบ 2 เดือนคดียังไม่คืบหน้า หลังจากนี้ต้องตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน อาจต้องมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดี

และต้องตรวจสอบเอกสารที่กรมที่ดินสาขาบางเขนด้วย ว่าโดยปกติการโอนซื้อขายที่ดิน ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการสอบถามว่าผู้ขายได้รับเงินหรือยัง ซึ่งผู้ขายยังไม่ได้รับเงินแต่มีการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ต้องตามเรื่องนี้ก่อน จากนั้นต้องตรวจสอบหลักฐานอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องและอาจต้องมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ อยากฝากถึงคนชราที่จะทำนิติกรรมอะไรต่างๆ ขอให้บุตรหลานช่วยตรวจสอบก่อน เพราะอาจจะถูกมิจฉาชีพหลอกเอาได้ ซึ่งหลังจากรับเรื่องนี้ไว้ตนแล้วทางตนก็จะเดินเรื่องฟ้องเพิกถอนการโอนซื้อขายที่ดินผืนนี้กับทางศาลมีนบุรีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook