อากาศแปรปรวนหนัก ฟ้าผ่าหนุ่มใหญ่วัย 49 ปีดับสลด วิ่งไปหลบในกระท่อมยังไม่รอด

อากาศแปรปรวนหนัก ฟ้าผ่าหนุ่มใหญ่วัย 49 ปีดับสลด วิ่งไปหลบในกระท่อมยังไม่รอด

อากาศแปรปรวนหนัก ฟ้าผ่าหนุ่มใหญ่วัย 49 ปีดับสลด วิ่งไปหลบในกระท่อมยังไม่รอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นครพนมอากาศแปรปรวนหนัก รอบสัปดาห์เกิดพายุพัดบ้านเรือนเสียหายนับ 100 หลังคาเรือน ล่าสุดหนุ่มชาวนา อายุ 49 ปี ชะตาขาด วิ่งหลบฝนเข้ากระท่อมแต่ยังไม่ทันถึง ถูกฟ้าผ่าดับสลด

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงแปรปรวน มีอุณหภูมิร้อนจัดเกือบ 38-40 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบให้เกิดพายุฤดูร้อนรายวัน โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ อ.ปลาปาก และ อ.ธาตุพนม  มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายต่อเนื่อง รวมกว่า 100 หลัง มีเสียหายหนักกกว่า 10 หลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจ ให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูซ่อมแซมต่อเนื่อง บางรายต้องสูญเสียค่าซ่อมแซมเกือบแสนบาทบาท

โดยทางสถานอุตุนิยมวิทยานครพนม ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ ให้เฝ้าระวัง หมั่นตรวจสอบดูแล อาคารบ้านเรือนให้มีความแข็งแรง ป้องกันพายุพัดถล่มได้รับความเสียหาย   นอกจากนี้ยังได้ประกาศเตือนให้ระมัดระวังเมื่อเกิดพายุฝน ฟ้าร้อง ให้หลบเข้าที่ปลอดภัย อย่าอยู่ในที่โล่งแจ้ง

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุฝนฟ้าคะนอง และมีฟ้าผ่าคนเสียชีวิต  บริเวณกระท่อมนา  หมู่บ้านห้วยไห หมู่ที่ 17 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ภายหลังเกิดเหตุ  ร.ต.อ.นพดล ป่าสนธ์ รอง สว.สอบสวย สภ.โพนสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ แพทย์เวรโรงพยาบาลโพนสวรรค์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้เข้าตรวจสอบชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายกมล ประกิ่ง อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 17 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม  สภาพศพยังอยู่ในชุดทำนา ไม่มีเครื่องประดับสร้อยคอ หรือนาฬิกาที่เป็นโลหะในร่างกาย สภาพร่างกายมีรอยไหม้เกรียมเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจากฟ้าผ่า นอนเสียชีวิตข้างกระท่อมนา  เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบชันสูตรเก็บหลักฐาน ก่อนให้ญาตินำไปดำเนินคดี

เบื้องต้นจากการสอบถาม ภรรยาผู้เสียชีวิตคือ  นางสุขใจ โทรัตน์ อายุ 48 ปี ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันเดียวกัน สามีได้นำรถไถนาออกไปนาเตรียมหว่านกล้า ทำนาตามฤดูกาล เนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน จนกระทั่งได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงกลางทุ่งนา แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นสาเหตุให้สามีเสียชีวิต ภายหลังผ่านไป 2 ชั่วโมง จึงไปยังทุ่งนาเพื่อดูสามี กลับเห็นเพียงรถไถนาจอดอยู่ และเดินไปดูข้างกระท่อมนา พบสามีอยู่ในสภาพนอนหงายหมดสติ  สภาพร่างกายเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เกิดความตกใจ จึงเรียกชาวบ้านมาช่วยเหลือ แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว คาดว่าก่อนเกิดเหตุมีฝนตกฟ้าร้อง สามีจึงวิ่งเข้ามาหลบใกล้กระท่อมนา และถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตดังกล่าว  

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝากแจ้งเตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังในช่วงนี้ ฝนฟ้าคะนอง มีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่า รวมถึงพายุพัดถล่ม สร้างความเสียหาย และเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook