เปิดไทม์ไลน์ พระติดถ้ำ 3 วัน กู้ภัยเพิ่งได้รับแจ้ง ผังถ้ำความยาว 3 กม. แต่ทางซับซ้อน

เปิดไทม์ไลน์ พระติดถ้ำ 3 วัน กู้ภัยเพิ่งได้รับแจ้ง ผังถ้ำความยาว 3 กม. แต่ทางซับซ้อน

เปิดไทม์ไลน์ พระติดถ้ำ 3 วัน กู้ภัยเพิ่งได้รับแจ้ง ผังถ้ำความยาว 3 กม. แต่ทางซับซ้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดไทม์ไลน์ พระติดถ้ำ 3 วัน เจ้าหน้าที่เพิ่งรับแจ้งและออกช่วยเหลือทันที ผังถ้ำความยาว 3 กิโลเมตร แต่ทางซับซ้อน มืดสนิท

วานนี้ (6 เม.ย.64) เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน จ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 30 นาย ได้ระดมกำลังพร้อมประสานไปยัง ปภ.พิษณุโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังชาวบ้านแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา มีพระภิกษุ 1 รูป อายุประมาณ 46 ปี ทราบชื่อคือ พระอาจารย์มนัส ได้เข้าไปที่ถ้ำพระไทรงามเพื่อไปปักกลดและนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำ กระทั่งมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำขึ้นสูงไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้นในพื้นที่ก็ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

  • เวลาประมาณ 12.00 น. ชาวบ้านแจ้งว่ามีพระภิกษุเข้าไปธุดงค์และนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำพระไทรงาม หมู่ 8 บ้านดงงูใหม่ ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีพายุฝนตกกระหน่ำในพื้นที่ทำให้ปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4-6 เมษายน 2564 ส่งผลให้บริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำท่วมขังสูง พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ภายในนั้นไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งทุกวันจะมีชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปใส่บาตรและถวายอาหารเป็นประจำ แต่ล่าสุดวันนี้เกิดน้ำท่วมถ้ำไม่สามารถเข้าไปได้ทำให้พระรูปดังกล่าวติดอยู่ในถ้ำด้วย จึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
  • จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
  • เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินมะปราง และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สล.6 ถ้ำเดือนถ้ำดาว ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาทางช่วยเหลือแล้ว
  • เวลา 17.30 น. นายปารเมษ แสงสว่าง นายอำเภอเนินมะปราง ที่ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือพระมนัสได้สั่งการยุติการค้นหาก่อน โดยจะเริ่มต้มค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายปารเมษ แสงสว่าง นายอำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า อุปสรรคข้างในคือความมืดแล้วก็น้ำไหลแรง รอนักประดาน้ำชุดแรกที่เข้าไปเพื่อออกมาสรุปสถานที่ โดยได้สั่งให้นักประดาน้ำถอนตัวออกมาจากถ้ำก่อน
  • 18.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย รายงานนายอำเภอ ขอยกเลิกภารกิจ เนื่องจากน้ำไหลแรง ยุติการช่วยเหลือออกไปก่อน และขอรับการสนับสนุนจากนักประดาน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิปอเต๊กตึ้ง และ ฮุก31 ที่เคยปฏิบัติการร่วมช่วยเหลือที่ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย มาร่วมช่วยเหลือพระมนัส ขณะเดียวกัน ยังหาวิธีอื่นคือ ปภ.เขต9 พิษณุโลก ได้จัดเตรียมให้เจ้าหน้าที่ นำเครื่องสูบน้ำเตรียมจะใช้ตามแผนสูบน้ำออกจากถ้ำ เพื่อลดระดับน้ำและหาหนทางช่วยเหลือพระมนัสให้เร็วที่สุด แต่ในพื้นที่บริเวณถ้ำพระไทรงาม ยังคงมีฝนตกหนักอีกครั้ง
  • เวลา 19.00 น. พล.ต. ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผบ.กองพลพัฒนาที่ 3 ได้นำเอากำลังและเครื่องมือยุทโธปกรณ์ มาสนับสนุนและร่วมวางแผนปฎิบัติการช่วยเหลือพระมนัส โดยกองอำนวยการช่วยเหลือพระสงฆ์ติดถ้ำพระไทรงาม ได้เร่งดำเนินการวางแผน สำรวจกำลังคนและหาข้อมูล เพื่อหาวิธีช่วยเหลือ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอุทยานและหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก และทหารจาก กองพลพัฒนาที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ส่งชุดเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในถ้ำอย่างละเอียดเพื่อเอาไว้ใช้เป็นข้อมูล ให้นักดำน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญ ได้ใช้ในการวางแผนช่วยเหลือพระมนัสได้อย่างปลอดภัยทั้งหน่วยกู้ภัยและพระมนัสในวันนี้

ข้อมูลจาก www.thailandcaves.shepton.org.uk ระบุว่า ถ้ำพระไทรงาม จ.พิษณุโลก อยู่ในลำดับที่ 19 ของ ถ้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 3,026 เมตร ขณะที่ถ้ำหลวง อยู่อันดับที่ 5 ด้วยความยาวทั้งหมด 10,316 เมตร 

ลักษณะการกำเนิดของ "ถ้ำพระไทรงาม" นี้ก็เป็นการกำเนิดของถ้ำน้ำลอด บริเวณปากถ้ำจะมีลักษณะงดงามด้วยหินย้อย และเถาไม้เลื้อยที่ปกคลุมอยู่ บริเวณหน้าถ้ำ หนทางลงสู่ถ้ำจะต้องปีนลงไปจากด้านบนก่อน จุดน่าสนใจเริ่ม ตั้งแต่หินย้อยรูปร่างคล้ายช้าง หรือไดโนเสาร์ในคูหาแรก ผ่านทำนบหินปูน ซึ่งเป็นการก่อตัวขึ้นของ หินปูนมีลักษณะคล้ายทำนบหรือเขื่อนที่กั้นน้ำไว้ หรือคล้ายกับนาขั้นบันได โดยในถ้ำการพบปลาสีขาวที่ไม่มีตา เนื่อง จากพวกมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สายตาในสภาพที่มืดมิด 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook