ร.ต.อ. ปัดทิ้งเมียไปหาน้องสะใภ้ ลั่นไม่คุยเรื่องเดิมๆ หนี้ครึ่งล้านยังเคลียร์ไม่ลงตัว

ร.ต.อ. ปัดทิ้งเมียไปหาน้องสะใภ้ ลั่นไม่คุยเรื่องเดิมๆ หนี้ครึ่งล้านยังเคลียร์ไม่ลงตัว

ร.ต.อ. ปัดทิ้งเมียไปหาน้องสะใภ้ ลั่นไม่คุยเรื่องเดิมๆ หนี้ครึ่งล้านยังเคลียร์ไม่ลงตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 มี.ค.64) 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ได้มี นางเอ (นามสมมุติ) ชาวอำเภอสนม จ.สุรินทร์ ได้เข้ามาขอคำปรึกษาด้านกฎหมายกับทนายความ หลังสามีซึ่งได้จดเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เป็นตำรวจในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ ยศระดับ ร.ต.อ.นายหนึ่ง อายุ 48 ปี ทิ้งไปอยู่กินกับเมียใหม่ อายุ 44 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ของนางเอนั่นเอง และไม่เคยมาเหลียวแล แถมทิ้งภาระหนีสินที่กู้ ธ.ก.ส.และอีกหลายที่ ที่ส่วนมากใช้เพื่อส่งสามีเรียนต่อจนจบ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้าน นางเอ (นามสมมุติ) ภรรยา ร.ต.อ. ที่ อ.สนม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาว นางเอ บรรยากาศเงียบเหงา โดยนางเอกำลังยืนทอดหนังหมูเพื่อทำแคบหมูส่งขายในพื้นที่ต่างๆ โดยมีพี่สะใภ้คอยจ้างให้ทำส่งให้ ได้ค่าแรงวันละ 80-100 บาท/วัน 

โดยนาง เอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ตนมีอาชีพทำแคบหมูให้พี่สะใภ้ออกไปเร่ขาย โดยจะได้ค่าแรงราววันละ 100 บาท โดยที่ตนไม่มีอะไรเลย เงินเดือนก็ไม่มี บัตรสวัสดิการก็ไม่มี แม้แต่บ้านก็ยังไม่มีที่ซุกหัวนอน ต้องอาศัยบ้านน้องสาวคนเล็ก ตนลำบากมาก บางวันต้องออกไปขุดหอยขุดปูกิน บางครั้งมีญาติๆ ใกล้เคียงนำอาหารมาแบ่งปันบ้าง ตนคิดว่าเรื่องนี้จะจบกันแบบไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายชายด้วย ถ้าเขามาช่วยใช้หนี้สิน ช่วยดูแล ซึ่งเขาไม่ให้เลย ตนไม่ได้คุยกันมาพักใหญ่แล้ว โทรไปเขาไม่รับสายตนเลย

โดยเมื่อคืนตนได้ฟังข่าวที่ทางอดีตสามีออกมาสัมภาษณ์อยู่ ที่บอกว่าตนคุยกับชายอื่นก่อน จนต้องแยกกันอยู่ มีการขอหย่าแต่ตนไม่ยอมหย่านั้น ก็คิดว่าเขาอยากพูดอะไรให้พูดไป เพราะว่าตนมีหลักฐานหมดแล้ว ตอนนี้พูดอะไรได้ไม่มาก ต้องรอปรึกษาทนายก่อน แต่ในตอนนี้ตนลำบากมาก ในบางเดือนแทบไม่มีเงินติดตัวเลย ต้องไปหยิบยืมชาวบ้าน รู้สึกเจ็บใจมาก อยู่กันมากว่า 20 ปี ไม่ควรมาทำอย่างนี้เลย ซึ่งเมื่อก่อนก็เคยมีปัญหาแบบนี้มาก่อน แต่ตนก็ถือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา พออดีตสามีไปมีลูกกับน้องสะใภ้ เขาก็ตีตัวออกห่างตนไปเลย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีเรื่องกัน ตนก็อยู่ด้วยกันปกติ หากจะถามเรื่องเงิน อดีตสามีก็ไม่เคยให้เงินดือนเลย มีแต่ตนที่ดูแล หากไม่มีเงินก็ต้องไปหยิบยืมจากชาวบ้านมา อยากให้ทางอดีตสามีเข้ามาช่วยรับผิดชอบเรื่องหนี้สิน โดยที่ตนก็ไม่สามารถติดต่อกับทางอดีตสามีได้ เพราะเขาไม่รับสายโทรศัพท์ จึงตัดสินใจดำเนินคดีทางกฎหมาย และร้องสื่อช่วย

ทางด้าน นางสเงี่ยม (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี เป็นญาตินางเอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเห็นเขาอยู่ด้วยกันก็มีความสุขอยู่ มารู้ทีหลังว่า สามีนางเอมีลูกกับน้องสะใภ้ จากนั้นก็เริ่มมีปัญหากันเรื่อยมา โดยก่อนหน้านี้ นายโชค (นามสมมุติ) สามีของน้องสะใภ้ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ได้มาพบนางเอหลายครั้ง พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า “กูสงสารมึง” โดยในขณะนั้น นางเอ เองก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรสามีตัวเองกับน้องสะใภ้ ความมาแตกเมื่อตอนที่ท้องนั่นเอง ส่วนนายโชค สามีของน้องสะใภ้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยเหตุดื่มสุราเยอะ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าพบและสอบถามข้อเท็จจริงอีกด้าน จาก ร.ต.อ.สันต์ (นามสมมุติ) แต่ตำรวจนายดังกล่าวติดภารกิจนอกพื้นที่ ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามพูดคุยกับ ร.ต.อ.สันต์ (นามสมมุติ) โดยปลายสายบอกว่า ไม่สะดวกออกข่าว ในเรื่องที่เกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เขาฟ้องมา ตนก็ต้องแก้ไป

ส่วนเรื่องที่ออกไปทางสื่อโซเชียลนั้น ก็มีทั้ง 2 ด้าน ทั้งในด้านบวกและลบ ซึ่งตนก็ไม่ได้หนักใจอะไรมาก ตนจึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก บางครั้งผู้สื่อข่าวที่เอาไปสื่อสารต่ออาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งเรื่องเงินทอง และเรื่องมีใหม่ ส่วนในเรื่องการชำระหนี้ตอนนี้ยังไม่ลงตัว ซึ่งมีทิศทางที่ยังไม่ตรงกัน กลายเป็นว่ายังเอาเรื่องเก่ามาพูดโดยที่มันจบไปตั้งนานแล้ว

ส่วนตอนนี้ตนไม่คุยกันกับคู่กรณี เพราะคุยไปก็มีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่มีประโยชน์อะไร เถียงกันเปล่า

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook