แม่ถือมีดอาละวาดขู่ฆ่าตัวตาย ทวงค่าสินสอด 5 แสน ลูกชายรู้ทันให้เงิน 5 พัน หายคลั่งทันที!

แม่ถือมีดอาละวาดขู่ฆ่าตัวตาย ทวงค่าสินสอด 5 แสน ลูกชายรู้ทันให้เงิน 5 พัน หายคลั่งทันที!

แม่ถือมีดอาละวาดขู่ฆ่าตัวตาย ทวงค่าสินสอด 5 แสน ลูกชายรู้ทันให้เงิน 5 พัน หายคลั่งทันที!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมียอดีตทหารถือมีดอาละวาด ทวงค่าสินสอด 5 แสน ขู่จะฆ่าตัวตาย ลูกชายรู้ทันแม่ชอบเรียกร้องความสนใจ ให้เงิน 5 พัน หายคลั่งทันที

(4 มี.ค.64) เมื่อเวลาปราณ 15.00 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุหญิงคลุ้มคลั่งถือท่อนเหล็ก และมีดกวัดแกว่งไปมา ขู่จะทำร้ายลูกตัวเอง เหตุเกิดบริเวณกลางถนนบ้านสวนครัว ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอุปกรณ์ไม้ง่ามได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง  

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อภายหลังคือ นางนิด (นามสมมติ) อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นเมียอดีตทหารที่เกษียณอายุแล้ว ยืนอยู่บนถนนหน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง โดยในมือข้างขวาถือท่อนเหล็ก  และมือข้างซ้ายถือมีดทำครัว 2 เล่ม  ยืนตะโกนโวยวายและด่าลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของอู่ดังกล่าวตลอดเวลา หาว่าลูกเนรคุณบ้าง ไม่รักบ้าง โดยบางช่วงก็ตะโกนทวงเงินสินสอดจากลูกชายจำนวน 211,999 บาท พร้อมทองหนัก 5 บาท   ทั้งบอกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคจิตเวชไม่กลัวใคร จะทำร้ายหรือฆ่าใครก็ไม่ผิดอยู่แล้ว  พร้อมท้าทายใครเข้ามาเดี๋ยวจะแทงไส้ไหลกูเคยมีประวัติมาแล้ว 

ทั้งลูกชาย ลูกสาวที่อยู่ในอู่ซ่อมรถต่างก็ตกใจกลัวแม่จะทำร้าย  ขณะคนที่ผ่านไปมาก็ไม่กล้าเข้าใกล้กลัวจะถูกทำร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามเกลี้ยกล่อมบอกให้วางมีดลง แล้วค่อยๆ พูดคุยกัน แต่จู่ๆ หญิงคนดังกล่าวกลับหันมีดไปจี้คอตัวเองขู่ว่าถ้าใครเข้ามาก็จะฆ่าตัวตาย  เจ้าหน้าที่จึงยังไม่กล้าเข้าชาร์จเพราะกลัวจะได้รับอันตราย  

หลังใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงหญิงคลุ้มคลั่งก็ยังไม่มีท่าทีจะสงบลง จากนั้นลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของอู่ก็นำเงินจำนวน 5,000 บาทมาให้เจ้าหน้าที่เอาไปให้แม่ เพราะรู้ว่าที่แม่เป็นแบบนี้ต้องการเรียกร้องความสนใจแค่อยากได้เงิน  แล้วพอหญิงที่เป็นภรรยาทหารด้วยกันซึ่งมาช่วยเกลี้ยกล่อมด้วย นำเงินไปยื่นให้ นางนิดก็ยอมเอาท่อนเหล็ก และมีดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาการคลุ้มคลั่งก็สงบลง พร้อมยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนางนิด  ไปสงบสติอารมณ์ก่อนจะปล่อยกลับบ้าน   

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ลูกชายคนโต บอกว่า  ตนเองทำงานมาตั้งแต่อายุ 18  พอได้ทำงานมีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเอง ก็ดูแลแม่และส่งเสียน้องอีก 3 คนเรียนจนจบปริญญา  ปัจจุบันมีครอบครัวมีลูก 2 คนอายุ 1 ขวบ และ 3 ขวบก็ต้องเลี้ยงดูครอบครัวด้วย  แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเนรคุณพ่อแม่ ให้เงินใช้เงินตลอด แต่แม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมากถ้ามีเงินก็จะเสริมสวยแต่งหน้าแต่งตัวออกไปนอกบ้านไม่รู้ออกไปทำอะไร  พอเงินหมดก็จะเรียกร้องความสนใจลักษณะนี้บ่อย  ก่อนเกิดเหตุก็มาโวยวายจะเอาเงินอีกพอไม่ให้ก็ไม่พอใจทำลายข้าวของในอู่ของตนเอง   แล้วจู่ๆ ก็วิ่งไปเอามีดในอู่จะมาทำร้ายตนเองกับน้องสาว ในฐานะที่เป็นลูกก็ไม่ได้โกรธเพราะยังไงก็เป็นแม่  แต่ก็เสียใจที่แม่เป็นแบบนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook