ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ความแตกแยกทางการเมืองมีส่วนทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งสูงทะลุ 500,000 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ดร.เฟาซีกล่าวว่า สหรัฐฯ เผชิญกับโรคระบาดใหญ่ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมือง ที่แม้กระทั่งการสวมหน้ากากยังกลายเป็นวาระทางการเมือง แทนที่จะเป็นมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งแม้ว่าจะสถานการณ์โรคระบาดจะยังอยู่ในระดับที่ดี แต่ปัญหานี้ก็ถือว่ายังเป็นปัญหาที่หนักหน่วง
ในปี 2020 ดร.เฟาซีทำงานในคณะทำงานด้านการบริหารจัดการโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาภายใต้รัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นงานที่ทำให้เขาต้องขัดแย้งกับประธานาธิบดี ผู้ซึ่งประเมินสถานการณ์โรคระบาดต่ำเกินไป จนกระทั่งติดเชื้อโควิด-19 เสียเอง และยังปฏิเสธมาตรการสวมหน้ากากป้องกัน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพยายามทำลายความน่าเชื่อถือและคำเตือนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคของ ดร.เฟาซี
“เมื่อผู้นำระดับสูงไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำงานบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อความพยายามของเรา” ดร.เฟาซีกล่าว
ยิ่งกว่านั้น ดร.เฟาซียังระบุว่า รัฐและเมืองต่างๆ หลายแห่งไม่ได้ทำตามคำแนะนำของคณะทำงานในสถานการณ์โรคระบาด โดยเฉพาะมาตรการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยหลังจากการล็อกดาวน์ ซึ่งเขาถือว่าเป็นสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ เพราะทุกคนล้วนเห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศ
“เมื่อจิตวิญญาณของอเมริกาแตกแยก มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจมากจริงๆ” ดร.เฟาซีกล่าว