สหรัฐฯ จับ “แฮกเกอร์เกาหลีเหนือ” ขโมยสกุลเงินดิจิทัลกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ จับ “แฮกเกอร์เกาหลีเหนือ” ขโมยสกุลเงินดิจิทัลกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ จับ “แฮกเกอร์เกาหลีเหนือ” ขโมยสกุลเงินดิจิทัลกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงการณ์จับกุม 3 เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารของเกาหลีเหนือ หลังถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโจมตีทางอินเตอร์เน็ต ขโมยข้อมูลของธนาคาร และขโมยสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นเงินมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

“ปฏิบัติการของเกาหลีเหนือ ผู้ใช้แป้นพิมพ์แทนที่ใช้ปืน ขโมยเงินดิจิทัลแทนที่จะขโมยเงินเป็นฟ่อน คือโจรปล้อนธนาคารระดับโลก” จอห์น ดีเมอร์ ผู้ช่วยอัยการสูงสุด กล่าว

โดยผู้ที่ถูกดำเนินคดีทั้ง 3 คนออกแบบแอปพลิเคชั่นสำหรับสกุลเงินดิจิทัล เปิดรูรั่ว (Backdoor) ของระบบซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ แล้วจึงเจาะเข้าไปในบริษัทมาร์เก็ตติ้งและแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ ก่อนจะพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

การสั่งฟ้องในครั้งนี้ ต่อยอดมาจากคดีในปี 2018 ที่ดำเนินคดีเอาผิดปาร์ค จินฮยอก 1 ใน 3 แฮกเกอร์ ในข้อหาเจาะเข้าไปในระบบของบริษัท Sony pictures และขโมยเงินกว่า 81 ล้านดอลลาร์จากธนาคารกลางบังกลาเทศ ก่อนจะเพิ่มแฮกเกอร์ที่ร่วมกระทำความผิดเข้ามาอีก 2 คน คือจอน ชางฮยอก และคิมอิล ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 3 คนนี้ทำงานให้กับทีมแฮกเกอร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งรู้จักกับในชื่อ กลุ่ม Lazarus และ APT38 

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ทั้ง 3 คน มีทั้งธนาคารในประเทศเม็กซิโก มอลตา ปากีสถาน โปแลนด์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และสหรัฐฯ เช่นเดียวกับบริษัทเงินตราเข้ารหัสลับทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมทั้งคาสิโนออนไลน์ในอเมริกากลาง 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook