ปารีณา โดนแล้ว! ป.ป.ช. ฟันผิดจริยธรรม กรณีรุกที่รัฐกว่า 711 ไร่ ส่งศาลถอดถอนจาก ส.ส.

ปารีณา โดนแล้ว! ป.ป.ช. ฟันผิดจริยธรรม กรณีรุกที่รัฐกว่า 711 ไร่ ส่งศาลถอดถอนจาก ส.ส.

ปารีณา โดนแล้ว! ป.ป.ช. ฟันผิดจริยธรรม กรณีรุกที่รัฐกว่า 711 ไร่ ส่งศาลถอดถอนจาก ส.ส.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็น ส.ส. แต่มีการบุกรุกที่ดินของรัฐกว่า 711 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 36 ล้านบาท พร้อมส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยถอดถอนออกจากตำแหน่ง

วันนี้ (10 ก.พ.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงกรณีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกกล่าวหาว่ายึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

โดยในปี พ.ศ. 2536-2537 คณะรัฐมนตรีมีมติให้กรมป่าไม้ส่งมอบที่ดินให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เพื่อนำไปปฏิรูปที่ดิน โดยให้เกษตรกรที่เคยทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ต้องยื่นคำร้องขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินทุกปี นางสาวปารีณา และนายทวี ไกรคุปต์ บิดา เข้ายึดครองและทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2546 โดยมีแบบแสดงรายการที่ดินเพื่อชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 ซึ่งเป็นเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ ไม่ใช่เอกสารแสดงสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน ต่อมามีการยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ดังกล่าวและยกเลิก ภ.บ.ท.5 ไปแล้ว แต่นางสาวปารีณายังคงยึดถือ ครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว ทำฟาร์มไก่ โดยที่ไม่มีสิทธิ์ครอบครองและไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐ

กระทั่งในปี พ.ศ. 2562 นางสาวปารีณา เข้าปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. โดยยังถือครองที่ดินดังกล่าวอยู่ จนถูกตรวจสอบการครองที่ดิน และ ส.ป.ก.แจ้งให้นางสาวปารีณา คืนที่ดินดังกล่าว และกรมป่าไม้ยังไปร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวปารีณา ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ เป็นพื้นที่ 711-2-93 ไร่ คำนวณค่าเสียหายเป็นตัวเงิน จำนวนกว่า 36 ล้านบาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า นางสาวปารีณา ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่กระทำสิ่งที่ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง มีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง พร้อมให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง ส.ส. ต่อไป

ซึ่งตามขั้นตอน เมื่อ ป.ป.ช. ส่งศาลฎีกาไปแล้ว ศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ก็จะเป็นเหตุให้ ส.ส. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เว้นแต่ศาลจะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น โดยคดีของนางสาวปารีณาจะส่งไปยังศาลฎีกาตามมาตรา 235 ของรัฐธรรมนูญ และจะเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ถือเป็นสำนวนแรกของ ส.ส. ที่กระทำผิดฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งยังมี ส.ส.และนักการเมืองถูกยื่นฟ้องผิดจริยธรรมในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย

pareena-nacc-1

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook