นักร่อนทองฟันธง! คลองชลประทานมีทองอยู่จริง ชาวบ้านโชคดีเจอสร้อย-แหวนฝังเพชร

นักร่อนทองฟันธง! คลองชลประทานมีทองอยู่จริง ชาวบ้านโชคดีเจอสร้อย-แหวนฝังเพชร

นักร่อนทองฟันธง! คลองชลประทานมีทองอยู่จริง ชาวบ้านโชคดีเจอสร้อย-แหวนฝังเพชร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักร่อนทองฟันธง คลองชลประทานราชบุรีมีทองอยู่จริง ชาวบ้านแห่มาร่อน โชคดีเจอสร้อย-แหวนฝังเพชร 

วันนี้ (25 ม.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายกรภัทร อายุ 33 ปี อาชีพพ่อค้าขายของในตลาดนัดที่ราชบุรี และ ครูสอนพิเศษตามบ้าน ได้ออกมาเผยเรื่องราวว่าตนเองลงไปร่อนทองใน คลองชลประทาน แถวสนามกอล์ฟดอนแจง ใกล้คอกม้า หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก ติดกับ ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีลำคลองคั่นกลาง และ ผู้สื่อข่าวได้พานายกรภัทร เจ้าของทองคำที่พบไปให้ร้านทอง ช.โชคดีเยาวราช ภายในตลาดศรีเมืองราชบุรีได้ตรวจสอบ และพบว่าเป็นทองคำจริงสามารถซื้อขายได้ และเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้วันนี้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาจากหลายๆ จังหวัด เดินทางมาหาทองคำภายในลำคลองชลประทานกันอย่างคึกคัก บางคนผิดหวัง ขณะที่บางคนดวงเฮง พบสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำ รวมไปถึงวัตถุที่คล้ายทองคำบริสุทธิ์กลับบ้าน

นายธงชัย อายุ 65 ปี ชาวโคราช กล่าวว่า ตนเองทราบข่าวจากสื่อที่นำเสนอข่าวว่ามีการร่อนพบทองคำภายในคลองชลประทาน ที่จังหวัดราชบุรี จึงได้ชวนเพื่อนขับรถออกมาจากบ้านทันที ซึ่งตนมีประสบการณ์ในการร่อนทองคำ เพราะทำมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2540 และมีความเชี่ยวชาญสามารถบอกได้ว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่ โดยผู้สื่อข่าวได้ขอพิสูจน์กับทางคุณลุงธงชัยว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่ ตามที่หนุ่มราชบุรีนำทองคำที่ตนเองร่อนได้มาโชว์ให้ดู ลุงธงชัยให้คำตอบว่า จากประสบการณ์ ทองคำที่พบนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์จริง เป็นทองคำที่เกาะมาจากในหินที่เรียกกันว่า หินควอตซ์

จากเท่าที่เดินสำรวจดู มีหินควอตซ์ หินสีขาว และ หินควอตซ์เนื้อลาวา อยู่จำนวนมาก แต่จะตอบได้ว่ามีทองคำอยู่จำนวนเท่าไหร่นั้น ตนยังตอบไม่ได้เพราะต้องนำมาป่นและตรวจสอบดู หากมีเป็นก้อนเล็กๆ ต้องใช้หินจำนวนมากมาป่นรวมๆ กัน และนำมาร่อน พร้อมใช้น้ำยาตรวจสอบดู หากพบก้อนใหญ่ก็จะหาได้ง่าย ตัวอย่างจากที่พบเป็นก้อนเล็ก หินก้อนนี้ดูคร่าวๆ แล้วพบว่ามี แต่อาจจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเพราะเล็กมากต้องใช้กล้องส่องจึงจะเห็น

นายธงชัย เผยอีกว่า หากประชาชนที่ลงหาร่อนทอง สงสัยว่าก้อนหรือชิ้นส่วนที่พบนั้นเป็นทองคำจริงหรือไม่ ให้นำปรอทที่มีน้ำตะกั่ว ทุบปลายปรอทให้แตก จากนั้นเทน้ำปรอทลงในเศษชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นทอง หากเป็นทองคำแท้ น้ำปรอทจะจับรวมตัวกันเป็นก้อน และเมื่อนำไปต้มด้วยความร้อน เมื่อน้ำปรอทละลาย ก้อนทองก็จะหลุดตามออกมา แต่จากการที่มีชาวบ้านนำเศษชิ้นส่วนที่ร่อนจากน้ำมาให้ดูนั้น พบว่าไม่ใช่ทองคำแท้ เป็นทองคนโง่ คือ แร่ที่มีสีเหมือนทองคำ หรือ มีชื่อเรียกว่า แร่ไพไรต์ (Pyrite) ซึ่งไม่ใช่ทองคำ แต่มีลักษณะเป็นสีทองจนทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจผิดบ่อยๆ คิดว่าคือ ทองคำ จึงมีฉายาว่า ทองคนโง่ ตรงนี้ต้องเตือนให้ระวังหากมีการนำไปหลอกขายต่อกัน


นายธงชัย กล่าวอีกว่าเช้าวันนี้ ตนกับเพื่อนจะทำการวางแผนเพื่อที่จะลงไปร่อนหาทองคำ เพื่อพิสูจน์ดูว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ หรือ จะมีทองคำอยู่ประมาณเท่าไหร่ วันนี้ได้เตรียมอุปกรณ์ในการร่อนและน้ำยาตรวจสอบเพื่อที่จะดูว่ามีทองคำประมาณเท่าไหร่ แต่มั่นใจได้ว่ามีอยู่จริงแน่นอน หากพบหินควอตซ์จำนวนมากอาจจะเป็นจุดเกิดในหินแบบปฐมภูมิ และการเกิดในดิน/ทราย แบบทุติยภูมิ ได้ จะเป็นแหล่งที่มีหินทองคำอีก 1 แห่งของประเทศ

ด้าน นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีชาวบ้านแห่กันเดินทางมาเพื่อที่จะค้นหาทองคำ โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ตนเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และ อันตรายจากสัตว์มีพิษ โดยเฉพาะงูเห่า เพราะจุดนี้มีงูเห่าดงจำนวนมาก ซึ่งวันนี้จะประสานทางอำเภอเมืองราชบุรี พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่จากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา หน่วยงานสังกัดกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบว่าที่ตรงนี้มีแร่ทองคำจริงหรือไม่ และดูแลความปลอดภัยรวมถึงมาตรการเฝ้าระวังเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

ขณะที่ชาวบ้านที่เดินทางมาหาร่อนทองต่างกล่าว หลังจากที่ทราบข่าวก็เดินทางมาเพื่อที่จะมาลองร่อนทองดู โดยนำอุปกรณ์ทั้งตะแกรง ฝาหม้อก๋วยเตี๋ยว หรือ กระทะ รวมไปถึงเครื่องตรวจจับโลหะ


อย่าง นางสาวนันท์มนัส อายุ 21 ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ตนมากัน 3 คน มาลงร่อนทองตั้งแต่ 10.00 - 16.00 น. พบพระเครื่องหลายองค์ เงินพดด้วง และ เศษชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นทองคำ เพราะมีสีคล้ายกับทอง จะนำไปตรวจสอบที่ร้านทองอีกครั้ง โดยวันนี้ถือว่ามาไม่เสียเที่ยว



ส่วน นายพิบูลย์ อายุ 35 ปี เป็นชาวนครปฐม ทำงานอยู่ที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำเครื่องจับวัตถุโลหะลงไปหาสิ่งของที่อยู่ภายในน้ำตามข่าวที่ปรากฏ จากการที่ตนเองลงไป เจอแหวนทองซึ่งมีวัตถุที่คล้ายเพชร หรือ อาจจะเป็นเม็ดพลอยที่ติดกับแหวนทองคำ พร้อมเหรียญ 10 บาท และทุ่นตะกั่ว หลังจากนี้จะนำไปที่ร้านทองเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นแหวนทองคำจริงหรือไม่ และมีน้ำหนักราคาของแหวนกี่บาท วันนี้ถือว่าตนเองมาไม่เสียเที่ยวได้สิ่งของติดมือกลับบ้าน เพราะถ้าหากเป็นทองคำจริงก็น่าจะมีราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท


ขณะที่ นายคำรณ อายุ 64  ปี ชาวบ้านในพื้นที่และมีที่ดินติดอยู่กับจุดที่พบทองคำ เล่าว่า ตนเองเกิดที่นี่ อยู่มาถึงทุกวันนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจุดดังกล่าวมีทองอยู่ แต่จากเรื่องเล่าของพ่อ-แม่ คลองแห่งนี้เป็นคลองใหญ่มีความกว้างมาก เป็นคลองที่ต่อมาจากแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ตรงนี้เป็นคลองที่ไหลผ่าน ตำบลบ้านไร่ ตำบลดอนตะโก ตำบลคูบัว ตำบลอ่างทอง และ ตำบลดอนแร่ ซึ่งจะมีน้ำจากเขื่อนไม้เต็งไหลลงมาสมทบด้วย

แต่ก่อนคลองแห่งนี้จะเป็นเส้นทางเดินเรือ โดยจุดที่ห่างจากนี้ไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นที่จอดเทียบเรือขนส่งค้าขาย แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะกลายเป็นที่นา โดยที่ชาวบ้านต่างก็ซื้อที่ทำนากัน มีการถมคลองทำถนน จนคลองสายนี้แคบลง แต่ก่อนจะตื้นเขินมาก แต่ทางจังหวัดได้นำรถแบ็คโฮมาขุดลอกเพื่อให้น้ำไหลสะดวกเพราะคลองแห่งนี้ไม่ได้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมแล้ว เนื่องจากถนนตัดผ่านและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ประกอบกับถนนสายนี้เปลี่ยว กลางดึกมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีการดักจี้ปล้นชิงทรัพย์ และตรงจุดที่มีการพบทอง สร้อยทอง หรือ แหวน ก็จะมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เสียหลักหลุดโค้งลงมาในคลองหลายราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook