ทวีศิลป์ ซึ้งแรงงานเมียนมาอัดคลิปขอบคุณลง TikTok วอนนายจ้างหยุดเห็นแก่ตัว

ทวีศิลป์ ซึ้งแรงงานเมียนมาอัดคลิปขอบคุณลง TikTok วอนนายจ้างหยุดเห็นแก่ตัว

ทวีศิลป์ ซึ้งแรงงานเมียนมาอัดคลิปขอบคุณลง TikTok วอนนายจ้างหยุดเห็นแก่ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าววันนี้ (25 ธ.ค.) ว่าเห็นใจพี่น้องผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมา หลังจากเห็นจำนวนมากถ่ายคลิปลงแอปพลิเคชัน TikTok (ติ๊กตอก) ที่แสดงความรู้สึกน้อยใจที่ถูกคนในสังคมมองว่าพาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เข้ามาระบาดในไทยอีกระลอกหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาอีกหลายคน นำคลิป ที่นายทวีศิลป์กล่าวเรียกร้องให้คนไทยอย่ารังเกียจชาวเมียนมา เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่แปลเป็นภาษาพม่าแล้ว มาโพสต์พร้อมกับถ่ายคลิปของตนแสดงท่าทีขอบคุณ ลงในแอปพลิเคชันดังกล่าวเช่นกัน

โฆษก ศบค. รายนี้ บอกว่า ตนเห็นคลิปเหล่านี้แล้ว ซึ่งทำให้ตนรู้สึกดีใจเพราะแสดงให้เห็นว่าแรงงานชาวเมียนมารับรู้ถึงข้อมูลที่ ศบค. สื่อสารออกไป

"เมื่อวานนี้มีคลิปของพี่น้องชาวเมียนมาออกมาใน TikTok นะครับ แอปพลิเคชัน TikTok จำนวนมากทีเดียวครับ ต้องขอบคุณครับที่มีการรับสื่อรับฟังจากสิ่งที่ผมประกาศออกไปเมื่อวานก่อนหน้านั้น และเห็นปฏิกิริยาพี่น้องชาวเมียนมา แล้วหลายคนบอกว่าเห็นแล้วก็น้ำตาจะไหลนะครับ เพราะว่าเขาเองก็รู้สึกดีที่เป็นพี่น้องพวกเรา ที่พวกเราเอื้อเฟื้อต่อเขานะครับ" นายทวีศิลป์ กล่าว

จวกนายจ้างหยุดเห็นแก่ตัว

นายทวีศิลป์ กล่าวถึงบรรดานายจ้าง ที่มีการว่าจ้างแรงงานผิดกฎหมายว่า ตนเรียกร้องว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนในเวลานี้ และอย่าเคลื่อนย้ายแรงงานเหล่านี้ออกไปนอกพื้นที่ เพื่อช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2)

การพูดถึงนายจ้างนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รัฐพบว่า แม้ จ.สมุทรสาคร ประกาศห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานออกจากพื้นที่ตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมาของเดือนนี้ แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบนำแรงงานข้ามชาติไปยังพื้นที่อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ อย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันคืนอังคารต่อเช้าวันพุธ (22-23 ธ.ค.) ที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.) บางแก้ว จ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พบแรงงานเมียนมาถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ริมถนนบางนา-ตราด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook