ป่วนงานชักพระปัตตานี ใช้จยย.ซุกระเบิด5กก.จอดตรงข้ามโรงพัก กดบึ้มชาวบ้านเจ็บ17ราย เด็ก-ผู้หญิงสาหัส

ป่วนงานชักพระปัตตานี ใช้จยย.ซุกระเบิด5กก.จอดตรงข้ามโรงพัก กดบึ้มชาวบ้านเจ็บ17ราย เด็ก-ผู้หญิงสาหัส

ป่วนงานชักพระปัตตานี ใช้จยย.ซุกระเบิด5กก.จอดตรงข้ามโรงพัก กดบึ้มชาวบ้านเจ็บ17ราย เด็ก-ผู้หญิงสาหัส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บอมบ์งานชักพระ"ปัตตานี"ชาวบ้านเจ็บ17 ราย เด็ก-ผู้หญิงสาหัส เผยซุกระเบิด5กก.จอดตรงข้ามโรงพักโคกโพธิ์กดบึ้มชาวบ้านเจ็บ17 ราย เด็ก-ผู้หญิงสาหัส โจรนราฯดักยิงชาวสวนยางดับอีก2ศพ ผบ.ฉก.31ค้นบ้านเป้าหมาย5จุด รวบ"สุกรี ยูโซ๊ะ"แกนนำอาร์เคเคพร้อมอุปกรณ์ระเบิด

คนร้ายยังก่อเหตุสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุระเบิด ริมถนนสายเพชรเกษม ตรงข้ามสภ.โคกโพธิ์ และห่างจากจุดจัดงานประเพณีชักพระ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ ในเขตเทศบาลโคกโพธิ์ เพียง 100 เมตรเท่านั้น จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.จีระศักดิ์ ชมประสพ ผบ.ฉก.ปัตตานี และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พบเจ้าหน้าที่และชาวบ้านกำลังช่วยลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จำนวน 17 ราย นอกจากนี้ยังพบซากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ของคนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้ และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ แรงระเบิดยังทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวและอาคารร้านค้าละแวกใกล้เคียงเสียหายด้วย

สอบสวนทราบว่าขณะที่ประชาชนจำนวนมากมาเที่ยวงานประเพณีชักพระ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยรอบๆ บริเวณงาน ได้มีคนร้าย 1 คนขับรถจักรยานยนต์ที่ซุกระเบิดไว้ น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือมาจอดไว้หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากกำลังนั่งกินอยู่ในร้าน จากนั้นคนร้ายเดินหายไป ก่อนที่จะกดชนวนระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ประชาชนต่างวิ่งหนีกันอลมาน และมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว เชื่อว่าเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์

สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 17 ราย ประกอบด้วย ด.ช.อรรถพล จันทร์ชุม อายุ 13 ปี ด.ช.ณัฐนนท์ ใจเย็น อายุ 8 ปี น.ส.อัญชรี ใจเย็น ทั้ง 3 คนบาดเจ็บสาหัสถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลปัตตานี ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นทราบชื่อ คือ นายธวัชชัย ก้องเกียรติชัย นางมาลี ดวงจิตร นางเอิ้น ลิ่มประเสริฐ นางณัฐยา ชัยมณี นายปราโมทย์ ศรีไหม นายสุเมธ ลิ่มประเสริฐ นายธวัชชัย กาหรี่ นายเจษราภร แป้นศิริ น.ส.ศุภรัฐ แบ่งโยธา นางกชมร นำอุทิศ ด.ญ.กุลยา เกลี้ยงบุตร นายณัฐวุฒิ ยอดพุทธ นายจวน ประสิทธินุ้ย และนายกนิฐา อุไรกุล

ก่อนหน้านี้ เวลา 06.50 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายเจ๊ะมะแอ บาโต อายุ 34 ปี ชาวสวนยางพารา ขับรถจักรยานยนต์โดยมีนางลาดีปะห์ บาโด ภรรยาวัย 31 ปี นั่งซ้อนท้ายออกจากบ้านพักเลขที่ 117 บ้านกาเต๊าะ หมู่ 6 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส มุ่งหน้าไปสวนยางพาราซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 500 เมตร ถูกคนร้าย 3 คน ซุ่มอยู่ในสวนยางพารา ใช้ปืนเอ็ม 16 และปืนอาก้ายิงใส่หลายนัด ถูกนายเจ๊ะมะแอเสียชีวิต ส่วนนางลาดีปะห์รอดหวุดหวิด พ.ต.อ.จิรวุฒิ ทิศเสถียร ผกก.สภ.จะแนะ เข้าตรวจที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบ อย่างไรก็ตาม กลางดึกที่ผ่านมานายสุไลมาน สาอะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 บ้านโล๊ะสะ หมู่ 8 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตขณะนั่งดื่มน้ำชาอยู่กับเพื่อน 5 คน ในร้านขายน้ำชา ในหมู่บ้านโล๊ะสะ โดยคนร้าย 1 คน แต่งกายชุดดำใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าเดินเข้ามาในร้านแล้วใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่นายสุไลมานเสียชีวิตทันที

เวลา 13.30 น. พ.ท.ยุทธนา สายประเสิรฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ชุดช่วยราชการ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นำกำลังทหาร 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 5 จุด ที่บ้านบือราแง หมู่ 9 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จับกุม นายสุกรี ยูโซ๊ะ อายุ 36 ปี แกนนำกลุ่มโจรอาร์เคเค. ยึดระเบิดเอ็ม.26 จำนวน 1 ลูก เปลสนาม อุปกรณ์เดินป่า 3 ชุด และอุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ นำเสนอบทวิเคราะห์สถานการณ์ทางภาคใต้ของไทยที่ยังยืดเยื้อต่อเนื่องในขณะนี้ ตอนหนึ่งใจความว่า กำลังก่อให้เกิดความกังวลในหลายรูปแบบในมาเลเซีย ตั้งแต่ความวิตกว่าอาจจะมีชาวมาเลเซียเข้าร่วม เรื่อยไปจนถึงความหวั่นเกรงที่ว่า เหตุก่อความไม่สงบยืดเยื้อดังกล่าวจะดึงเอากลุ่มก่อการร้ายนานาชาติเข้ามาร่วมด้วย แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่พบว่าเป็นความจริงก็ตาม

ทั้งนี้นายฟาตาห์ ฮารุน ส.ส.เขตรันตูปันจัง รัฐกลันตัน เชื่อว่า ความเสี่ยงที่สูงที่สุดที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีนี้น่าจะเป็นเรื่องของการที่เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ของไทยสร้างแรงจูงใจให้ชาวมาเลเซียเข้าร่วมในแนวทางดังกล่าวด้วย ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในของมาเลเซียแล้วยังอาจส่งผลสะเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซียอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook