เจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1662/8312398/sanook_thumbnail_1200x720-2.jpgเจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง

    เจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง

    2020-12-09T06:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    กรณีเหตุการณ์บุกชิงทอง จากกล้องวงจรปิดในร้านทองซีกวง สาขานาหลวง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วานนี้ คนร้ายได้เข้ามาในร้านในชุดเสื้อเชิ้ต คอปก สีขาว สวมผ้ากันเปื้อนและหมวก สวมหน้ากากอนามัย เข้าทำทีขอดูทองรูปพรรณ และเมื่อพนักงานนำสร้อยคอทองคำรูปพรรณ 2 เส้นน้ำหนักรวม 4 บาทให้ดู คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาแล้วเล็งเข้าใส่พนักงานที่กำลังตกใจและวิ่งหลบหนี ก่อนที่จะยิงเข้าใส่พนักงานแล้วชิงทองหลบหนีเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

    ความคืบหน้าวานนี้ 8 ธันวาคม 2563 เจ้าของและผู้บริหารร้านทองซีกวงกรุ๊ป ตัดสินใจปิดให้บริการร้านที่เกิดเหตุชั่วคราวเนื่องจากพนักงานร้านอยู่ในสภาพหวาดผวา โดยพนักงานสองคนที่อยู่ในร้านขณะเกิดเหตุ คือ น.ส.รัตติกาล และ น.ส.ระวิวรรณ ได้บาดเจ็บเล็กน้อย จากการล้มระหว่างวิ่งหนีกระสุนปืน โดย น.ส.ระวิวรรณ ได้มาทำงานอยู่ที่สาขาโรบินสันโอเชียน ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ชั่วคราว ส่วน น.ส.รัตติกาล ซึ่งได้รับบาดเจ็บและต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากที่ปัสสาวะเป็นเลือด เนื่องจากความเครียดและตระหนกสุดขีดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ขณะเดียวกันการเร่งสืบสวน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ส่งกำลังชุดสืบสวนลงติดตามสืบสวนข้อมูลคนร้ายอย่างเร่งด่วนเนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ

    โดยการขยายผลรูปพรรณลักษณะคนร้ายพบว่า มีหน้าตาดี ผิวค่อนข้างขาว สวมใส่นาฬิกาคาสิโอ จีช็อค และอาวุธปืนที่ใช้เป็นยี่ห้อชื่อดัง ชุบทองมีราคาแพง ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนอยู่ในสารบบ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ไม่ละเลยในการสืบสวนขยายผลลักษณะการใช้ผ้ากันเปื้อนและหมวกผ้ายี่ห้อไก่ย่างชื่อดัง ซึ่งพบว่าข้อมูลว่าผู้ที่ได้ของใช้เหล่านี้จะเป็นผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ มาเท่านั้น แต่ยังไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ประกอบการซื้อแฟรนไชส์รายใดรายหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวน ทั้งยังเร่งขยายผลไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย โดยมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้หลายตัว

     นางสาวณัฐกานต์ รัษฐปานะ เจ้าของและผู้บริหารร้านทองซีกวงกรุ๊ป เปิดเผยว่ามูลค่าทรัพย์สินที่สูญเสียไปนั้น เฉพาะทองคำ 4 บาท ประมาณ 110,000 บาท และกระจกบานประตู ตู้โชว์ทองรวมแล้วน่าจะอีกหลายหมื่นบาท โดยนางสาวรัฐกานต์ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ใช้อาวุธปืนยิงใส่พนักงาน ซึ่งโชคดีที่กระสุนไม่โดน และอยู่ในระหว่างการพิจารณาลดเวลาทำงานลง เพื่อความปลอดภัย ลดจำนวนทองในตู้ และอาจต้องให้ลูกค้าถอดแมส ถอดหมวกก่อนเข้าร้าน เพื่อแสดงเจตนาว่าไม่ใช่คนร้าย โดยให้พนักงานเป็นฝ่ายสวมถุงมือ และสวมแมส ระมัดระวังเรื่องโควิด-19 ด้วยตัวเอง

    ขณะที่นางสาวระวิวรรณ พนักงานร้านที่ถูกคนร้ายยิงไล่หลังไปนั้น เปิดเผยว่าผิดสังเกตตั้งแต่บอกให้ถอนหมวกและเปิดแมส และผิดสังเกตที่คนร้ายถือถุงผ้าที่ไม่มีอะไรมาในนั้นเลยและเมื่อหยิบอาวุธปืนออกมา จึงบอกให้เพื่อนอีกคนวิ่งแล้วหลบเข้าหลังร้าน ขณะที่คนร้ายยิงตามมากระสุนทะลุตู้ไปตกหลังร้าน นางสาวระวิวรรณ ยังบอกด้วยว่าจนถึงขณะนี้ยังผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับคนร้ายนั้นสวมผ้ากันเปื้อนยี่ห้อไก่ย่างแต่ไม่มีกลิ่นอาหารใดๆติดตัวมาเลย

    สำหรับร้านทองซีกวงกรุ๊ป เคยถูกคนร้ายก่อเหตุบุกจี้ชิงทองคำ ที่สาขาหมู่บ้านเมืองทอง มาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ได้ทองคำไปกว่า 100 บาท เมื่อ 5 ปีก่อนแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมได้ ครั้งนั้นมีประกันภัย แต่ครั้งนี้ร้านได้ลดค่าใช้จ่ายประกันเห็นว่าร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านที่เล็กที่สุดในเครือเก็บทองคำไว้น้อยที่สุด ทั้งยังไม่ได้ประกันภัยไว้แต่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี แต่ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซึ่งลูกกรงสแตนเลสเป็นสิ่งกีดขวางทำให้คนร้ายไม่ได้ทองไปเป็นจำนวนมาก