"ปารีณา" บุกกรมป่าไม้ ทวงถามความคืบหน้าคดี "แม่ธนาธร" รุกป่า ชี้ใครผิดก็ต้องโดน

"ปารีณา" บุกกรมป่าไม้ ทวงถามความคืบหน้าคดี "แม่ธนาธร" รุกป่า ชี้ใครผิดก็ต้องโดน

"ปารีณา" บุกกรมป่าไม้ ทวงถามความคืบหน้าคดี "แม่ธนาธร" รุกป่า ชี้ใครผิดก็ต้องโดน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.จังหวัดราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ขอให้ตรวจสอบการครอบครองที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ 3,000 ไร่เศษ ในจังหวัดราชบุรีว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบหรือไม่ หลังร้องเรียนไปแล้วกว่า 2 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้า

จึงมาทวงถามและให้ตรวจสอบเพิ่มอีกหลายประเด็น อาทิ กรณีที่กรมป่าไม้ชี้แจงว่าที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์จะดำเนินคดีไม่ได้ จึงเกิดข้อสงสัยว่า นางสมพร ออกเอกสารสิทธิ์ในที่ป่าไม้ถาวร ในที่ป่าสงวนแห่งชาติได้ถูกต้องจริงหรือไม่ ถึงแม้กรมป่าไม้จะมีบอกว่า มีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อปี 2547 ส่วนเอกสารเสร็จออกเมื่อปี 2521 แต่ก่อนจะมีเอกสารสิทธิ์นั้น มันมีแนวเขตป่าไม้ถาวรมันจะออกเป็นเอกสิทธิ์ได้อย่างไร พร้อมขอให้ตรวจสอบ ประเด็นที่ แม่นายธนาธรได้มีการยึดที่ดินใบจองหรือ นส.2 จำนวน 350 ไร่ ซึ่งถือเป็นการครอบครองโดยมิชอบ เพราะที่ดินลักษณะดังกล่าว ส่งต่อได้เฉพาะทายาท เท่านั้น ดังนั้น ควรถูกดำเนินคดี และเพิกถอนคืนให้ทายาทของเจ้าของที่จริง อีกหนึ่งประเด็น คือ หลังจากการร้องเรียนเมื่อปีที่ผ่านมาว่า แม่ธนาธร ครอบครอง ภบท.5 แต่ปรากฏว่า ป่าไม้จังหวัดราชบุรี กลับแก้ไขทำบันทึกใหม่ ว่า แม่ธนาธร ไม่มีพื้นที่ ภบท.5 ซึ่งตนมีทั้งคลิปหลักฐานแสดงชัดเจน ว่า นายอำเภอพูดเอง ว่า มีพื้นที่ภบท.5 จึงขอให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยด่วน และประเด็นสุดท้าย แม่นายธนาธร ได้คืนพื้นที่ป่า 500 ไร่ ให้กับชาวบ้านเพื่อทำป่าชุมชน แต่เธอว่าการกระทำผิดสำเร็จแล้ว คำถามคือ หากคืนแล้วจบมัน ก็จะไม่ใช่มาตรฐานเดียวกันตนใช่หรือไม่ และยังไม่ยอมคืนอีก 3,000 ไร่ กลับไม่ไม่ถูกดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น

นอกจากนี้ นางสาวปารีณา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีของตนเองที่ถูกกรมป่าไม้ฟ้องร้องว่า อยู่ระหว่างการส่งตัวให้อัยการ แต่ตอนนี้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองอยู่ เพื่อให้เวลาทนายความรวบรวมพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีมากขึ้น ซึ่งคาดว่า น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน และทันทีที่ปิดสมัยประชุม ตนเองก็จะไปมอบตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook