สวช.เตรียมขึ้นทะเบียนมวยไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หวังป้องกันต่างชาติฮุบ
วานนี้ (28 ก.ย.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่วธ. ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นครั้งแรก ของประเทศไทย 2 สาขา ได้แก่ สาขาศิลปะการแสดง 12 รายการ และสาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม 13 รายการนั้น ขณะนี้ยังเหลือ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อีก 4 สาขา คือ สาขามุขปาฐะและภาษา สาขาขนบธรรมเนียมประเพณี พิธีกรรมและความเชื่อ สาขาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล และสาขากีฬา การละเล่นพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว
ทั้งนี้ โดยเฉพาะสาขากีฬา การละเล่นพื้นบ้าน ฯ ตนได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.) ไปศึกษาจัดทำรายละเอียด ศิลปการแสดงแม่ไม้มวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นเอกลักษณ์ของชาติตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เพื่อนำมาขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการด้วย
นายธีระ กล่าวว่า ปัจจุบันในหลายประเทศได้นำศิลปะการแสดงต้นแบบและภูมิปัญญาดั้งเดิมของท้องถิ่นในประเทศนั้น ไปประยุกต์ใช้แล้วจดทะเบียนเป็นของตนเอง ซึ่งตนเชื่อว่า การจดทะเบียนนี้จะทำให้นานาชาติได้รับทราบเป็นมรดกภูมิปัญญาของไทยและ ช่วยมุ่งส่งเสริมคุณค่า ยกย่ององค์ความรู้และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ เพื่ออนุรักษ์ไว้มิให้สูญหายและนำต่อยอดในการพัฒนามูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทางกีฬา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า และกัมพูชา มีศิลปะแม่ไม้มวยประจำชาติของตนเอง ขณะที่ของไทยก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในต่างประเทศ เห็นได้จากที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในงานการแสดงทางวัฒนธรรม และมาเรียนรู้ศิลปะแขนงนี้ตามค่ายมวยต่างๆ ในประเทศไทย
ดังนั้น วธ.จึงจำเป็นต้องหามาตรการป้องกันศิลปะดั้งเดิมแขนงต่างๆ ด้วยการจดทะเบียน อย่างมวยไทยที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ครั้งสยามประเทศ ที่เรารู้จักชื่อนักมวยกันดีคือนายขนมต้ม แล้วยังมีตำรามวยไทยโบราณ แสดงลีลาลูกไม้มวย อาทิ ท่ารำมวยเกี้ยว ปักลูกหอย บิดหางนาคา หักงวงไอยรา วิรุฬหกกลับ เถรกวาดลาน เป็นต้น