สองโจ๋ขี่ จยย.ชนเสาไฟ คนขี่กลับบ้านนอน ไม่สนคนซ้อนหายไป สุดท้ายพบจมน้ำดับ

สองโจ๋ขี่ จยย.ชนเสาไฟ คนขี่กลับบ้านนอน ไม่สนคนซ้อนหายไป สุดท้ายพบจมน้ำดับ

สองโจ๋ขี่ จยย.ชนเสาไฟ คนขี่กลับบ้านนอน ไม่สนคนซ้อนหายไป สุดท้ายพบจมน้ำดับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 63 มีชาวบ้านพบศพนายณัฐพล อายุ 19 ปี ชาว ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตในร่องน้ำข้างทาง ในสภาพคว่ำหน้า จนกระทั่งตำรวจสืบทราบว่า ผู้เสียชีวิตไปเที่ยวกับเพื่อนในตัวเมือง ขากลับเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกข้างทาง

โดยนายทักษ์ดนัย อายุ 19 ปี เพื่อนของผู้ตายและเป็นคนขี่จักรยานยนต์ โดยมีผู้ตายซ้อนท้ายมาในตอนเกิดเหตุ ให้การกับตำรวจว่า หลังประสบอุบัติเหตุ ตนขี่รถกลับบ้านเพราะหาเพื่อนไม่เจอ ประกอบกับตนเองง่วงนอน และไม่คิดว่าเพื่อนจะเป็นอันตรายขนาดนั้น เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 12 พ.ย.บริเวณหลัก กม.ที่ 121-122 ถนนสายบุรีรัมย์-สตึก

ร.ต.อ. ถนอมจิตร กันยายน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปพิสูจน์แล้ว เพื่อตรวจหาสารเสพติด ส่วน นายทักษ์ดนัย คนขี่รถ ตำรวจได้ทำการเจาะเลือดหาสารเสพติด ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้หากพบหลักฐานการกระทำความผิดอื่น ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก

ด้านนายหวัน ไสยลา อายุ 50 ปี พ่อผู้ตายกล่าวว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจและเสียใจมาก โดยเฉพาะเพื่อนที่ไปด้วยกันทิ้งให้ลูกชายตนเสียชีวิตคนเดียว ทั้งที่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือได้ สิ่งที่สงสัยและติดใจมากกว่านั้นคือสภาพศพ ที่พบบาดแผลบนหน้าลูกชายเป็นแผลฉกรรจ์คล้ายถูกของมีคม ส่วนหนึ่งตนไม่เชื่อว่าจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง มาพิสูจน์ให้หายสงสัย

ขณะนายณัฐพล ศิริสาขา อายุ 20 ปี เพื่อนรุ่นพี่ที่ไปเที่ยวด้วยกันในคืนเกิดเหตุ เล่าว่า ตนกลับไปถึงบ้านก่อน ต่อมาได้มีนายทักษ์ดนัย ส่งภาพอุบัติเหตุมาทางไลน์ส่วนตัว พร้อมกับแจ้งว่ารถล้ม ให้มาช่วยยกรถกลับบ้านหน่อยเพราะไม่ไหวแล้ว ตนจึงขับรถมาช่วย เห็นนายทักษ์ดนัย นั่งอยู่คนเดียว จึงเข้าไปช่วยยกรถขึ้น โดยมีชาวบ้านบริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์มาช่วยอีกแรง เพื่อให้นายทักษ์ดนัยขับรถกลับบ้าน แต่นายทักษ์ดนัยไม่ได้บอกว่า มีนายณัฐพลหายไป เหตุการณ์ครั้งนี้ส่วนตัวก็งง ถ้ารู้คงจะแจ้งตำรวจให้มาช่วยค้นหา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook