"ประยุทธ์" ตัดพ้อ อยู่นานผิดตรงไหน "ยังไม่เห็นว่าผมทำอะไรผิดสักอย่าง"

"ประยุทธ์" ตัดพ้อ อยู่นานผิดตรงไหน "ยังไม่เห็นว่าผมทำอะไรผิดสักอย่าง"

"ประยุทธ์" ตัดพ้อ อยู่นานผิดตรงไหน "ยังไม่เห็นว่าผมทำอะไรผิดสักอย่าง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ประยุทธ์" เจ็บปวดหัวใจเห็นสมุยวันนี้เปลี่ยนไปธุรกิจเงียบเหงา ยันเดินหน้าฟื้นท่องเที่ยวภาคใต้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ย้ำผ่อนคลายปลดล็อคระยะแรกก่อน หวั่นปล่อยทีเดียวมีโอกาสซุปเปอร์สเปรดเดอร์

ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่กล่าวระหว่างพบปะประชาชน ตอนหนึ่งว่า นายกฯไปที่ไหนก็นึกแต่ประชาชน เพราะคือคนไทยด้วยกันทั้งประเทศ จึงขอส่งความห่วงใยไปยังจังหวัดอื่นๆด้วย วันนี้มารับฟังความเห็นและปัญหาเพื่อนำไปขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยที่ผ่านมาเราพยายามดำเนินการหลายอย่างมาก่อนมีโควิด-19 ที่รัฐบาลทำหลายอย่างเพื่อวางพื้นฐานทุกจังหวัด แต่วันนี้ไม่สบายใจเพราะครั้งที่แล้วมากับวันนี้เปลี่ยนไปเยอะ ความเงียบเหงาธุรกิจร้านค้าต่างๆ ทำให้ตนเจ็บปวดหัวใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องมาพัฒนาเพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ไม่ต้องการรวบอำนาจ ผ่าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าตน และครม.มีความห่วงใยทุกเรื่องทั้งเรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ที่ระยะแรกจำเป็นต้องล็อคดาวน์อะไรบ้าง ซึ่งทำให้การแก้โควิดของเราเป็นอันดับแรกๆ ของโลก ดังนั้นการที่รัฐบาลจำเป็นต้องมีประกาศออกมา ทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือพ.ร.บ.ควบคุมโรค ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อตนแต่เอาอำนาจให้เจ้าหน้าที่เพื่อบูรณาการให้ทุกส่วนทำงาน วันนี้หลายประเทศก็รอว่าเมื่อไหร่เราจะเปิดประเทศ แต่ถ้าเปิดอิสระเสรีคนมากันตรึม ยืนยันว่าวันนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับควบคุมได้ มีการติดเชื้อที่ตรวจสอบได้ในพื้นที่กักกัน ทั้งหมดเป็นผลจากการทำงานของรัฐบาล ร่วมมือกันกับส่วนกลางและส่วนทั้องถิ่น 

"หากปล่อยทีเดียวทั้งหมดมีโอกาสซุปเปอร์สเปรดเดอร์ จึงต้องดูขีดความสามารถในการรับมือด้านสาธารณสุขของเรา วันนี้เรามีความพร้อมหมดแล้ว วางแผนทั้งหมด มีมาตรการรองรับถ้ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในแบบที่ไม่จำเป็น โดยการไม่ระมัดระวัง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เข้าพื้นที่ชุมนุมขนาดใหญ่" นายกฯ กล่าว

"ผมก็ยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง"

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอให้ลองทบทวนที่ผ่านมา 4-6 ปี มีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง มองภาพรวมเหมือนต่างประเทศที่ให้มองไกลตัวด้วย แต่ส่วนใหญ่มักมองใกล้ตัว โดยต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้เพื่อลูกหลานของเราวันหน้า ทั้งนี้ทุกคนมีความคิดที่แตกต่าง ดังนั้นการปรับเปลี่ยนต่างๆ ไม่ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ แต่ถ้าเรารวมใจไทยสร้างชาติไม่ว่าใครทำอะไรถ้าดีสนับสนุน โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง 

"บางคนบอกนายกฯ มีปัญหานู่นนี่ร่ำรวย ทุจริต เขาวัดกันด้วยอะไร เขาวัดกันด้วยการดำเนินคดีการตัดสินของศาล และผมก็ยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง บางคนบอกผมผิดเพราะผมอยู่นานเกินไป เบื่อขี้หน้า ผมไม่รู้เหมือนกันอยู่ในกติกาข้อไหนของการเมืองไทย แต่ผมก็ไม่ว่า หลายคนบอกผมผิดนู้นผิดนี่ ผมไม่ว่าอะไร ผมฟังเฉพาะศาล" นายกฯ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook