แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ ลูกชายเจอรถชน ลากศพไกลกว่า 10 กม. ก่อนโยนทิ้งพงหญ้า
หนุ่มวัย 16 ปี ถูกรถชนเสียชีวิตสลด ศพถูกลากไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร แม่รุดดูศพร่ำไห้แทบขาดใจ หน้าตาไม่เหลือสภาพ จำได้เพียงรอยสักที่ขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ร.ต.อ.สมพิศ บุญลือ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า พบศพผู้ชายถูกทิ้งไว้ริมถนนคู่ขนาน พระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพผู้ชายทราบชื่อต่อมาคือ นายคุณานนต์ อายุ 16 ปี สภาพศพไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย และมีรอยครูดตามร่างกายเหมือนถูกลากมาตามถนนด้วยความเร็ว โดยเฉพาะส่วนใบหน้าไม่สามารถจำลักษณะรูปพรรณได้เลย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยัง นางสุรีพร อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นมารดาผู้เสียชีวิตให้มายืนยันศพ เมื่อนางสุรีพร เดินทางมาเห็นสภาพศพของลูกชายตนเองก็ทรุดลงร้องไห้แทบขาดใจ แม้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปลอบใจ แต่นางสุรีพรก็ยังคงเสียใจ และขอกอดศพลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งสร้างความหดหู่ใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ตำรวจได้รับแจ้งจากสาวโรงงานว่าพบศพถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าริมถนนพระราม 2 เมื่อตรวจสอบข้อมูลจึงพบว่ามีเคสรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ บนถนนพุทธสาคร ท้องที่ สภ.กระทุ่มแบน เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งห่างจากจุดพบศพไกลกว่า 10 กิโลเมตร แต่กรณีนั้นเจ้าหน้าที่พบเพียงรถจักรยานยนต์ แต่ไม่พบศพหรือคนเจ็บ
จึงเข้าใจว่าศพถูกลากมากับรถคู่กรณี และคงถูกนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทางริมถนนพระราม 2 ประกอบกับทางแม่ของผู้เสียชีวิตซึ่งทราบว่าลูกชายตนเองเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่พบร่าง พบเพียงรถจักรยานยนต์ ในที่เกิดเหตุ ได้ประสานติดต่อเข้ามาจึงแจ้งให้มาดูศพ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่
ด้าน นางสุรีพร แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ช่วงประมาณ 3-4 ทุ่ม ของวันที่ 29 ต.ค. ลูกชายตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยบอกเพียงว่าจะไปที่หาแฟนสาวที่บ้าน หลังจากนั้นประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค. ก็มีตำรวจโทรเข้ามาหาตนเอง แจ้งว่ารถจักรยานยนต์ที่ลูกชายขี่ออกไป ใช่ของตนเองหรือไม่ และลูกชายได้กลับเข้าบ้านหรือยัง และถามว่าลูกชายไปไหน แต่ตอนนั้นตำรวจยังไม่บอกอะไรมาก
ตนเองก็เริ่มเอะใจ จึงโทรถามไปตามโรงพยาบาลต่างๆ แต่ก็ไม่มีชื่อลูกชาย กระทั่งแฟนของลูกชายโทรถามจนทราบจากตำรวจว่าพบศพตรงจุดริมถนนพระราม 2 จึงตัดสินใจเดินทางมาดูศพ แม้หน้าตาไม่เหลือสภาพ แต่ก็จำรอยสักที่ขาลูกชายได้
ก่อนหน้านี้ตนเองก็ทราบว่าทางโรงพยาบาลวิชัยเวช ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนถนนพุทธสาคร แต่เมื่อไปถึงพบแต่รถจักรยานยนต์จอดอยู่ แต่ไม่พบคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และยังพบเศษชิ้นส่วนของรถตู้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่ได้แจ้งอะไรจนมาเจอศพตรงจุดที่ถูกนำมาทิ้ง
“ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่ลูกชาย เพราะมันลากมาไกลมากเลย มันใจดำมากเลย ถ้ามันชนและมันหยุด หรือมันทิ้งไว้อย่างนั้น ก็อาจมีคนมาเจอและพาไปโรงพยาบาล แต่นี่มันลากจนไม่เหลืออะไรเลยและยังไปทิ้งข้างเสาไฟอีก มันไม่น่าใช่คน ไม่น่าทำแบบนี้เลยค่ะ” นางสุรีพร กล่าวทั้งน้ำตา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวแม่ผู้เสียชีวิตไปยัง สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อสอบถามเพิ่มเติม และจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป