ตุ๊กตา-ชฎาพร ร้องกองปราบรวบคดีสาวหล่อ

ตุ๊กตา-ชฎาพร ร้องกองปราบรวบคดีสาวหล่อ

ตุ๊กตา-ชฎาพร ร้องกองปราบรวบคดีสาวหล่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด และ ชฎาพร รัตนากร  อดีตดาราสาวชื่อดัง ร้องกองปราบรวบคดีสาวหล่อ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่กองปราบปราม น.ส.ชฎาพร รัตนากร อายุ 39 ปี อดีตดาราสาวชื่อดัง และน.ส.อุบลวรรณ บุญรอด หรือ "ตุ๊กตา อุบลวรรณ" อายุ 30 ปี ดาราสาว และดีเจชื่อดัง เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอให้พนักงานสอบสวนขอกองปราบปราม ช่วยรวมคดีที่มี น.ส.ภัสมาภูฏิณฑ์ อัครวงศ์ตระกูล หรือ เจมส์ หรือ น.ส.ต้นน้ำ หรือ อริสา เจริญพล เป็นผู้ต้องหา มาให้กองปราบปรามดำเนินคดีเพียงหน่วยเดียว เนื่องจากขณะนี้คดีต่างๆกระจัดกระจายอยู่ในหลายท้องที่ทำให้การดำเนินคดีล่า ช้า นอกจากนี้ยังเชื่อว่าแต่ละคดีนั้นน่าจะมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดในลักษณะเป็น ขบวนการ จึงอยากให้มีการตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมด

น.ส.ชฎาพร เปิดเผยว่าที่ผ่านมาในคดีต่างๆที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ภัสมาภูฏิณฑ์ ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นคดีการนำเอกสารของผู้เสียหายไปเช่าซื้อรถยนต์ จากบริษัทเอกชน 3 แห่ง พบว่ามีผู้เสียหายทั้งหมด 14 ราย รถยนต์ 30 คัน ติดตามกลับคืนมาได้แล้ว 9 คัน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องการยืมเงินของผู้เสียหายแต่ละรายไปอีกรวมแล้วกว่า 25.4 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายที่พบทั้งหมดประมาณ 61.6 ล้านบาท โดยผู้เสียหายแต่ละรายได้มีการแจ้งความไว้แล้วตามท้องที่ต่างๆทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี เชียงใหม่ นครนายก และชลบุรี ถือเป็นคดีที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในหลายพื้นที่ ดังนั้นจึงอยากขอให้กองปราบปราม ช่วยรวมคดีต่างๆมาดำเนินการเพียงหน่วยเดียว เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และเป็นระบ

"เชื่อว่าในแต่ละคดีที่เกิดขึ้นนั้นมีการกระทำผิดเป็นขบวนการตั้งแต่การนำ เอกสารไปเช่าซื้อรถ การเซ็นค้ำประกัน และการจัดส่งรถ ทราบว่ารถยนต์บางคันก็ถูกนำไปจำนำหรือปล่อยให้กับบุคคลอื่น เบื้องต้นเราพบว่าผู้ที่ครอบครองรถอยู่นั้นมีทั้ง นายทหารและนายตำรวจมาเกี่ยวข้อง ก็เลยอยากให้ทางกองปราบปรามรวมคดีทั้งหมดมาดำเนินการพียงหน่วยเดียว เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหามีการกระทำเป็นขบวนการ และมีกลุ่มอิทธิพลหนุนหลัง" น.ส.ชฎาพร กล่าว

เบื้องต้นพ.ต.อ.พรศักดิ์ ได้สั่งการให้พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป. สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน เพื่อทำเรื่องเสนอไปยังผู้บังคับบัญชา พิจารณาขออนุมัติโอนสำนวนคดีในแต่ละท้องที่มาดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook