อุตรดิตถ์พบรอยเท้าไดโนเสาร์บนเขตป่าสงวนห้วยสีเสียด

พบรอยเท้าไดโนเสาร์เขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยสีเสียด อุตรดิตถ์ ชาวบ้านเก็บหญ้าอ่อนป้อนเป็นสิริมงคล เร่งหน่วยงานเกี่ยวข้องพิสูจน์ ยกระดับพัฒนา

นายทิม ศรีพงษ์ นายเฉลี่ยว เรียนปั่น นายชัยพร คลั่งน้อย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุ่งแสนตอ หมู่ 4 ต.แสนตอ อ.เมือง อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านทุ่งแสนตอ ใช้รถจักรยานยนต์วิบากจำนวน 7 คันนำคณะสื่อมวลชนขึ้นไปยังภูเขาท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยสีเสียด ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

ซึ่งเป็นทางลาดชันบางช่วงต้องอาศัยการเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางถึงบริเวณลานหินขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่เต็มพื้นที่กลางป่าดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงชาวบ้านต่างใช้มือเด็ดใบไม้อ่อนๆ คนละ 1-2 ก้านแล้วนำไปวางบนก้อนหิน พร้อมพูดว่า "วันนี้นำหญ้าอ่อนมาให้กินแล้วนะ อย่าทำอันตรายใครหล่ะ" พร้อมจุดธูปเทียนบอกกล่าวเจ้าที่ จากนั้นชาวบ้านต่างใช้มีดที่ติดตัวไปด้วยทำการถางหญ้าที่ปกคลุมก้อนหินออก และแล้วถึงกับต้องตะลึง แทบไม่น่าเชื่อเพราะที่ก้อนหินมีร่องรอยลักษณะเหมือนเล็บเท้าของสัตว์ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก

นายทิม ศรีพงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุ่งแสนตอ กล่าวว่า ปกติชาวบ้านในละแวกดังกล่าวจะนำรถจักรยายนต์ขึ้นไปหาหน่อไม้และของป่าเพื่อมาเป็นอาหารและขายสร้างรายได้ ขณะเดินป่าจึงพากันนั่งพักบริเวณลานหินดังกล่าว ต่างสังเกตเห็นว่าก้อนหินเป็นล่องลึกมองเห็นชัดเจน หากมองสายตาลักษณะเหมือนส่วนของเล็บเท้าหรือนิ้วของสัตว์แต่มีขนาดใหญ่ บางรอยคนสามารถลงไปนอนได้ถึง 2 คน มีจำนวนกว่า 10 นิ้ว โดยมีขนาดใหญ่สุดกว้าง 1 เมตร ยาว 1.4 เมตร ลึก 45 เซนติเมตร และขนาดเล็กสุดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตรและลึก 20 เซนติเมตร

โดยนิ้วขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลาง ถัด ๆ กันไปทั้งซ้ายและขวาขนาดของนิ้วจะเล็กลงตามลำดับ ความห่างของแต่ละนิ้วประมาณ 30-40 เซนติเมตร เป็นลักษณะรอยก้าวเดินมุ่งหน้าไปยังยอดเขาสูง ซึ่งมี ถ้ำม่วงซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบรอยเท้าเข้าไปในป่าลึกอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะได้เดินทางเข้าไปสำรวจต่อถึงบริเวณปากถ้ำม่วง ซึ่งเป็นหน้าผาสูง บริเวณหน้าถ้อมีโขนหินและลานหินมากกว่าจุดที่พบรอยนิ้วขนาดใหญ่ แต่มีหญ้าปกคลุมจำนวนมาก ชาวบ้านจึงใช้มีดถากหญ้าออก บนลานหินมีล่องลึกลักษณะเหมือนรอยนิ้วเท้าของสัตว์ขนาดใหญ่เหยียบย่ำอยู่เป็นจำนวนมาก และมีขนาดต่างๆกันไป

นายเฉลี่ยว กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีเพียงจุดเดียวเท่านั้น คือบริเวณลานหินจุดแรกที่พบ ไม่น่าเชื่อว่าบริเวณหน้าถ้ำม่วงจะมีรอยนิ้วเท้าขนาดใหญ่อีกจำนวนมาก ชาวบ้านที่พบเห็นต่างเชื่อว่าน่าจะเป็นส่วนของนิ้วเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ หรือไดโนเสาร์ แต่ไม่ทราบว่าเป็นประเภทกินเนื้อหรือกินพืช เพราะไม่มีความรู้ และยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นรอยเท้าของอะไร หรืออาจเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการพิสูจน์เพื่อความกระจ่างของชาวบ้าน พร้อมกับได้มีการเก็บภาพถ่ายรอยเท้าเอาไว้ให้นักวิชาการหรือผู้รู้ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบกับสัตว์ดึกดำบรรพ์

เบื้องต้นตามความเชื่อก่อนที่ชาวบ้านจะเดินทางไปหาของป่าทุกครั้งเมื่อผ่านจุดที่พบรอยเท้าขนาดใหญ่ จะต้องหาหญ้าอ่อนจำนวนหนึ่งมาวางไว้บนรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์หรือรอยเท้าไดโนเสาร์ เนื่องจากเชื่อว่าจะได้กินหญ้าอ่อนนี้ และเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองในระหว่างหาหน่อไม้หรือของภายในป่า บ้างก็จุดธูปเทียนบูชาขอให้เจ้าป่าเข้าเขา เจ้าที่เจ้าทางช่วยคุ้มครองป้องกันไม่ให้เกิดภัยอันตรายจากสัตว์ดุร้ายภายในป่าทุกชนิด