ญาติเศร้า แม่เฒ่าวัย 90 ปี ตายในท่าแปลก นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้สะพานข้ามคูน้ำ

ญาติเศร้า แม่เฒ่าวัย 90 ปี ตายในท่าแปลก นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้สะพานข้ามคูน้ำ

ญาติเศร้า แม่เฒ่าวัย 90 ปี ตายในท่าแปลก นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้สะพานข้ามคูน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ้นบุญ แม่เฒ่าวัย 90 ปี จมน้ำเสียชีวิต หลังหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าตรู่ ศีรษะลอยพ้นน้ำในท่านั่งขัดสมาธิอยู่ใต้สะพานข้ามคู 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.วรทัต เรืองฤทธิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้สูงอายุวัย 90 ปี ตกน้ำเสียชีวิตภายในบริเวณหลังบ้านพัก เลขที่ 29 ม.5 ต.บางกะไห อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเรือนไทยอยู่ภายในซอยลึกด้านฝั่งตรงข้ามกับวัดบ้านนาเทพธาราม พบว่าบรรดาญาติๆ ได้ทำการช่วยกันงมร่างของผู้เสียชีวิต คือ นางผึ่ง อายุ 90 ปี ขึ้นมาจากคูน้ำได้แล้ว และได้เตรียมการจัดตั้งพิธีสวดพระอภิธรรมศพภายในบริเวณบ้านพัก ก่อนที่จะพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นคูรับน้ำจากท่อดูดขึ้นมาจากคลองเพื่อใช้เติมลงบ่อเลี้ยงกุ้ง-ปลา กว้างประมาณ 5 เมตร ระดับน้ำลึกประมาณ 2.8 เมตร โดยคูมีลักษณะเป็นแนวยาวไกล

สอบถามบรรดาญาติๆ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมาหลังทุกคนตื่นนอนขึ้นมา แต่ไม่พบตัวของนางผึ่ง ที่ได้หายตัวไปจากบ้าน จึงได้พากันออกติดตามค้นหาและโทรศัพท์เรียกให้บรรดาญาติๆ จำนวนเกือบ 20 คน ช่วยกันระดมลงไปงมควานค้นหาตัวภายในบ่อเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา ที่อยู่ใกล้บ้านทั้ง 4 บ่อ แต่ก็ยังไม่พบ

จนกระทั่งในเวลา 08.30 น. ได้มีหลานสาวซึ่งเป็นบุตรของบุตรชายของผู้เสียชีวิต เดินมาพบตัวลอยอยู่ในคูน้ำในลักษณะที่มีเฉพาะส่วนของศีรษะ และเส้นผมสีขาวลอยขึ้นมาปริ่มน้ำ ก่อนที่จะช่วยกันลงไปงมนำตัวขึ้นมา โดยพบว่านางผึ่งเสียชีวิตในท่านั่งขัดสมาธิ จากนั้นบุตรชายของนางผึ่ง จึงได้อุ้มนำขึ้นท้ายรถยนต์กระบะขับกลับมายังบ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร จากนั้นจึงแจ้งไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ

หลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบร่างกาย และทำการพลิกศพชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ตามร่างกายไม่มีบาดแผลใดๆ จึงลงความเห็นว่านางผึ่งได้ลื่นตกลงไปจากสะพานข้ามคูจนทำให้จมน้ำเสียชีวิต โดยที่บรรดาญาติๆ ไม่มีใครติดใจในสาเหตุการตาย จึงได้มอบศพให้ญาติทำการตั้งพิธีสวดบำเพ็ญกุศลขึ้นภายในบ้านพักดังกล่าว

ขณะที่ นายสมนึก อายุ 49 ปี หลานชาย เล่าว่า ปกติผู้เป็นยายเริ่มจะหลงๆ ลืมๆ แล้ว และชอบเดินออกจากบ้านทั้งที่ขาไม่ค่อยดี แต่ส่วนใหญ่มักจะเดินอยู่ในบริเวณใกล้ๆ แค่รอบๆ บ้านเท่านั้น โดยมีเพียง 2-3 วันมานี้ ที่มักจะเดินออกไปไกลทางด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปยังบ้านของบุตรชายคนที่ 4 ของนางผึ่ง ที่มักวนเวียนเข้ามาคอยดูแลบ่อยครั้ง และนางผึ่งรักมาก

ซึ่งบ้านที่นางผึ่งจะเดินไปหานั้น อยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร โดยเป็นบ้านของทางฝ่ายภรรยาหรือน้าสะใภ้ และจะต้องเดินข้ามสะพานไม้กระดานแคบๆ เพียงแผ่นเดียว ที่ใช้ปูเป็นทางเดินข้ามคูไปมาระหว่างกัน จึงเชื่อว่าผู้เป็นยายนั้นน่าจะคิดถึงบุตรชายคนที่ 4 ของเขา จากบุตรทั้งหมด 7 คน จึงอยากที่จะเดินไปหา จนในช่วงเช้าจึงได้หายตัวไปจากที่นอน โดยที่คนในบ้านไม่มีใครรู้ และไม่ได้สงสัยเนื่องจากยังคงเห็นไม้เท้าของนางผึ่งพาดอยู่ที่ขอบเตียงใต้มุ้ง

จนกระทั่งถึงเวลา 06.00 น. ซึ่งผิดปกติที่นางผึ่งมักจะตื่นนอนในเวลาประมาณ 05.00 น. และมักจะส่งเสียงเรียกคนในบ้านทุกคน ที่เดินผ่านที่นอน เพื่อให้ช่วยเตรียมข้าวของเอาไว้ให้ใส่บาตรพระ แต่ในวันนี้กลับเงียบ จนคนในบ้านจึงเข้าใจว่านางผึ่งอาจจะตื่นสาย เพราะยังคงเห็นไม้เท้ายังอยู่กับที่นอน แต่เมื่อเดินเข้าไปเปิดมุ้งดูใกล้ๆ กลับไม่พบว่านางผึ่งนอนอยู่ที่เตียง จึงได้ออกตามหาจนพบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกตินางผึ่งเป็นคนชอบทำบุญใส่บาตรพระทุกเช้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook