เสนาะ เทียนทอง (7) ตอน ...กับคนชื่อ''ทักษิณ''

เสนาะ เทียนทอง (7) ตอน ...กับคนชื่อ''ทักษิณ''

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หนึ่งในนายกรัฐมนตรี ที่ ป๋าเหนาะ ปั้นมากับมือ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และก็เป็น ทักษิณ คนเดียวกัน ที่ซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่กำลังเป็นข่าวขุดคุ้ยกันใหม่ว่ามีการฮุบที่ธรณีสงฆ์หรือไม่

และก็เป็น ทักษิณ คนเดียวกับที่ป๋าเหนาะประกาศไม่นับญาติ

กับคนที่เคยรักและเคยแค้น คนนี้ ป๋าเหนาะ เล่าเบื้องหลังความสัมพันธ์ ว่า

ที่ผมต้องเข้าไทยรักไทย เรื่องของเรื่องคือ ผมรู้จักกับทักษิณ ตั้งแต่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทักษิณเขาหิ้วกระเป๋าตาม สุรพันธ์ ชินวัตร (มีศักดิ์เป็นอา ) ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เจอกันบ่อย เพราะกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงคมนาคม อยู่ตรงข้ามกัน ก็เริ่มรู้จักกันตั้งแต่ตรงนั้น

คบกับทักษิณ เรื่อยมาจนพี่บรรหาร ได้เป็นนายกฯ ทักษิณ ก็อาสาเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ตอนนั้นผมกับทักษิณ ยังร่วมรัฐบาลกันอยู่

จนกระทั่งทักษิณ ตั้งพรรคไทยรักไทย มีวันหนึ่งตรงกับวันเกิดผม วันที่ 1 เมษายน 2543 คนมามืดฟ้ามัวดิน โต๊ะจีนเป็นพันโต๊ะ ช่วงนั้นผมลาออกจากพรรคความหวังใหม่ และลาออกจากส.ส. จึงไปจับมือกับ ทักษิณ และเข้าพรรคไทยรักไทย

วันนั้น ผมชูมือทักษิณ บอกต่อหน้าคนนับหมื่นที่ไปร่วมงานวันเกิดผมว่า นายกฯคนต่อไปคือคนนี้นะ พี่น้อง ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร

หลังจากนั้นมาผมก็ลุยเรื่องเลือกตั้งให้ทักษิณ ผมทำให้ทักษิณ ถ้าผมเป็นคนชั่ว หรือถ้าผมเป็นคนเหลาะแหละ จะส่งเสริมให้คนเป็นนายกฯมา 3-4 คนหรือ เพราะผมไปพูดอะไรกับประชาชน เขาเชื่อ เขาฟัง เอาด้วย

ถ้าผมเป็นคนชั่ว เป็นนักเลงโต ผมจะทำอย่างนี้ได้หรือ ผมจะไปไหนก็ได้ ไปใต้คนก็ยอมรับ ผมไปใต้ก็เอาทักษิณไปด้วย รวมทั้งวาระแห่งชาติ เรื่องปราบยาเสพติด ผมเป็นประธานที่ปรึกษาปราบยาเสพติด เท่ากับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลิขิตให้ผมมาทำอะไรให้บ้านให้เมือง

หลังสนับสนุนให้ทักษิณ ขึ้นสู่ดวงดาว เสนาะ ประกาศไม่รับตำแหน่งทางการเมือง

บนถนนการเมือง ผมลงมานานแล้ว ตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ ตอนนั้นจะเอาชื่อผมเป็นรัฐมนตรี ผมก็ชิงแถลงข่าว ประกาศไม่รับตำแหน่งใดๆ ผมขอระวังบทบาทของผมเองดีกว่า ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนเดี๋ยวนี้ ผมก็ไม่รับตำแหน่งใดๆ

ตอนที่ผมประกาศไม่รับตำแหน่งเท่านั้นแหละ ทักษิณ วิ่งมาหาผม บอก พี่เหนาะๆ ไปแถลงข่าวอย่างนั้นได้อย่างไร แล้วจะเอาใคร มาเป็นรัฐมนตรี มหาดไทย มาให้ผมล่ะ ใครจะมีบารมีและใครจะมาช่วยผมล่ะ

ป๋าเหนาะ ทวนคำพูดในอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อคราวที่ขอร้องให้เป็น มท. 1 ซึ่งต่อมา เสนาะ ได้ร่วมเสนอชื่อ ร.ต.อ.ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแทน

หลังร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ได้ระยะหนึ่ง เสนาะถูกลดบทบาทในพรรคลง จนกระทั่งในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการสรรหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2548

โดยป๋าเหนาะอภิปรายว่า ถูกบังคับให้ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับระบายความอัดอั้นตันใจว่า พร้อมที่จะถูกขับออกจากพรรค หากโหวตสวนมติพรรคไทยรักไทย เพราะรอประกาศเลิกทาส มานานถึง 7 ปีแล้ว

ต่อมา เสนาะ ลาออกจากพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศยุบสภา

และตั้งพรรคการเมืองใหม่ภายใต้ชื่อ พรรคประชาราช ในช่วงแรกของการตั้งพรรคประชาราช นโยบายหลักของพรรคที่ประกาศไว้คือ เพื่อปฏิรูปการเมือง และล้มล้างระบอบทักษิณ

ผมคบกับทักษิณ ผมไม่เคยได้อะไรจากทักษิณ แต่ตรงข้าม ผมแทบหมดตัว ผมดูแลส.ส.เป็นร้อยคน คุณทักษิณ ไม่เคยเอาสตางค์มาให้ ผมก็ไม่เคยแบมือเลย นี่คือ เสนาะ ทุกวันนี้ผมคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรก็ได้ขอให้บ้านเมืองสงบสุข

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook