Sanook คลุกข่าวเช้า 24 ก.ค. 63 สิ้น "ต่าย มนัสนันท์"- เผาซีอุย - WHO เลือกไทยถ่ายสารคดีโควิด-19

อัปเดตข่าวสารยามเช้า ประจำวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2563 ติดตามข่าวสารต่างๆ ล่าสุด"ต่าย มนัสนันท์" อดีตดาราสาว เสียชีวิตแล้ว, เจ้าอาวาสเก็บอัฐิ "ซีอุย" ในห้องพิพิธภัณฑ์ ติดวงจรปิดรอบวัด , กองถ่ายสารคดี WHO เลือกไทยถ่ายทอดความสำเร็จการรับมือโควิด-19

สามารถติดตามอ่านและใช้บริการกดฟังเสียงอ่านข่าว หรือเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ Sanook โดยสังเกตสัญลักษณ์รูปลำโพง แล้วให้ระบบ AI อ่านเนื้อหาให้ฟังได้อีกด้วย อย่าลืมติดตามฟังจนจบนะคะ

• สลด "ต่าย มนัสนันท์" อดีตดาราสาว เสียชีวิตแล้ว ในบ้านที่ไปขออาศัย

ต่าย-มนัสนันท์ ปานดี อดีตดาราตัวประกอบสาวชื่อดัง ที่เคยตกเป็นข่าวมาหลายครั้ง เสียชีวิตปริศนาในบ้านพักที่ไปขออาศัยอยู่ หลังจากเจ้าของบ้านตื่นมาหาข้าวหาน้ำให้กิน ก็พบว่าเสียชีวิตตัวแข็งแล้ว เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากโรคประจำตัวโดยไม่มีญาติมาแสดงตัว

สถานที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นมีนายจรรย์ เจ้าของบ้านยืนรอพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดเกิดเหตุ ร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงทราบชื่อภายหลังคือ "ต่าย มนัสนันท์ ปานดี" ลักษณะนอนหงายเสียชีวิตอยู่หน้าห้องนอนเจ้าของบ้าน ตัวแข็ง มือกำเกร็ง ขาเกร็ง เบื้องต้นไม่พบบาดแผลการถูกทำร้ายตามร่างกาย

โดยนายจรรย์ ผู้ให้ต่าย มนัสนันท์ พักอาศัย เปิดเผยว่า ได้พบต่าย มนัสนันท์เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ต่าย มนัสนันท์ได้กลับมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ หลังจากหายไปนานหลายเดือน แต่เมื่อกลับมาก็พบว่า แม่ของต่าย มนัสนันท์ ถูกจับติดคุกไปก่อนหน้านี้ จึงไม่มีที่อยู่อาศัย แล้วได้มาขอตนเองอาศัยด้วยโดยให้นอนอยู่หน้าห้อง มีมุ้งครอบขนาดใหญ่ให้ป้องกันยุง โดยตนเองซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้กินได้ 3 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่า ต่าย มนัสนันท์ มีอาการเดินตัวแข็ง น้ำลายยืด คุยไม่รู้เรื่อง ซึ่งในวันนี้ตนเองตื่นมาก็ปลุก ต่าย มนัสนันท์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. แต่ไม่ตื่น จึงคิดว่านอนหลับอยู่จึงไม่ได้ปลุกต่อ แต่หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. ก็ไปปลุกให้มากินข้าวอีกครั้ง ก็ไม่ตื่นอีก จึงเข้าไปเขย่าตัวพบว่านอนตัวแข็ง ร่างเกร็ง ไม่มีลมหายใจ เสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามญาติให้มารับร่างไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

• เจ้าอาวาสเก็บอัฐิ "ซีอุย" ในห้องพิพิธภัณฑ์ ติดวงจรปิดรอบวัด หวั่นมือดีย่องขโมย

เมื่อวานนี้ที่วัดบางแพรกใต้ ต.บางสวนใหญ่  อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังจากพิธีฌาปนกิจร่างนายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง เมื่อเวลา 16.00 น. จนร่างเหลือแต่เพียงเถ้ากระดูก ปิดตำนานซีอุยมนุษย์กินคน กว่า 60 ปี ในวันนี้ บรรยากาศในช่วงเย็นต่อมา พระครูศรีนนทวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้ ได้เปลี่ยนใจนำเถ้าอัฐิของซีอุยไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัดแทน หลังจากได้ปรึกษาหารือกับทางเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนนทบุรี แล้วมีความคิดเห็นตรงกันว่า  หากจะนำเถ้าอัฐิของซีอุยไปเก็บบรรจุรวมอยู่ในช่องเก็บอัฐิของทางวัด เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับเถ้าอัฐิดังกล่าวจากผู้ไม่หวังดี

ทางเจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้จึงเปลี่ยนใจนำเถ้าอัฐิของซีอุยใส่ขวดโหลพร้อมป้ายชื่อนำไปเก็บรักษาไว้ในห้องพิพิธภัณฑ์ของทางวัดแทน ซึ่งมีกล้องวงจรปิดติดรอบวัดและอยู่ในห้องมิดชิด ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าการนำไปเก็บบรรจุในช่องเก็บกระดูกของวัด

หลังเวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไปทางวัดก็จะปิดประตูทางเข้าออกทั้งหมดตามปกติด้วย ซึ่งจะเป็นการป้องกันเหตุจากผู้ไม่หวังดีที่อาจจะมาก่อเหตุลักเถ้ากระดูกซีอุยไป ซึ่งตนได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม หมุนเวียนเข้ามาตรวจตราภายในวัดแห่งนี้ทุกๆ วันอีกทาง 

• กองถ่ายสารคดีอนามัยโลก เลือกไทยถ่ายทอดความสำเร็จในการรับมือโควิด-19

นับเป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีและน่าภูมิใจของชาวไทย ที่ทั่วโลกต่างชื่นชมความสำเร็จในการรับมือการระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 กระทั่งล่าสุด ทีมงานกองถ่ายสารคดีต่างชาติ ถึงกับเลือกให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศตัวอย่าง ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จครั้งนี้ผ่านงานสารคดี

โดย นายแพทย์บัลลังก์ อุปพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

"World Health Organization (WHO) เลือกประเทศไทยและนิวซีแลนด์ ในการถ่ายทำสารคดี ความสำเร็จในการจัดการการควบคุมและป้องกัน covid-19 วันนี้มาที่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศไทย ที่ National Institute of Health"

โดย นพ.บัลลังก์ ยังได้โพสต์ตัวอย่างคำถามที่ทีมงานถามในการสัมภาษณ์ ในการถ่ายทำสารคดี ระบุว่า

How many labs are able to test for Covid-19 and why is it important to be able to have such a large capacity? ซึ่งแปลว่า ขณะนี้ไทยมีห้องแล็บที่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ทั้งหมดกี่ห้อง และการมีห้องแล็บจำนวนมากนั้นสำคัญอย่างไร

คำตอบคือ Director-General of Department of Medical Sciences has policy “one lab,one province,one day reporting” Today,there are 207 laboratories in total across country. ซึ่งแปลได้ว่า ตามนโยบายของอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรามีโครงการ “1 จังหวัด- 1 แล็บ-100 ห้องปฏิบัติการ” ทำให้วันนี้ เรามีห้องแล็บ 207 ห้อง ทั่วทั้งประเทศ