ตะลึงหลินฮุ่ยนั่งก้มหัวต่อหน้าเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

ตะลึงหลินฮุ่ยนั่งก้มหัวต่อหน้าเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

ตะลึงหลินฮุ่ยนั่งก้มหัวต่อหน้าเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตะลึง หลินฮุ่ย นั่งก้มหัวต่อหน้าเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ที่เข้าเยี่ยมถึงในคอกกัก และวันนี้ได้ให้นมลูกกินถี่ขึ้น วันละ 3-4 ครั้ง ด้าน "หลินปิง"เลิกเอาแต่นอน มุ่งมั่นฝึกเดิน

เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 2 ก.ย.52 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้เดินทางมาพร้อมด้วยพระสงฆ์ 10 รูปมายังสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อมาดูพื้นที่ของโบราณสถานวัดกู่ดินขาว ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,000 ปี เพื่อเตรียมจัดสร้างหลังคาคลุมโบราณสถานดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พร้อมคณะสงฆ์ได้แวะเข้าไปเยี่ยมเยือนหลินฮุ่ย และลูก โดยนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัย และจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย สพญ.กรรณิการ์ บุญตระกูลพูนทวี สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้า พร้อมทีมวิจัยได้กราบนมัสการนิมนต์เจ้าคณะใหญ่หนเหนือเข้าไปเยี่ยมแพนด้าแม่ลูกอย่างใกล้ชิดภายในคอกกัก

ทันทีที่เจ้าคณะใหญ่หนเหนือเดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากรง ปรากฏว่า หลินฮุ่ย ซึ่งปกติจะไม่ไว้วางใจคนแปลกหน้า ครั้งนี้กลับลุกเดินทิ้งลูกให้นอนกับพื้นและตรงเข้ามา และหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ โดยที่พี่เลี้ยงแพนด้าไม่ต้องออกคำสั่งส่งเสียงเรียก หรือนำใบไผ่หรือนำอาหารมาหลอกล่อ ขณะเดียวกันได้นั่งก้มหัวลงต่อหน้าเจ้าคณะใหญ่หนเหนืออยู่นานเกือบ 10 นาทีอย่างสงบนิ่ง ก่อนที่เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ จะเดินออกจากคอกกักไป ทำให้พี่เลี้ยงแพนด้าและทีมวิจัยที่อยู่ร่วมเหตุการณ์พากันแปลกใจและคิดว่าหลินฮุ่ยน่าจะรับรู้ได้ถึงความมีเมตตาและเนื้อนาบุญของพระสงฆ์ที่ปฏิบัติชอบอย่างเจ้าคณะใหญ่หนเหนือที่มาเยือน

หลินปิงเลิกเอาแต่นอนหันมาฝึกเดิน

นายประเสริฐศักดิ์ เปิดเผยถึงพัฒนาการแพนด้าน้อยหลินปิง ซึ่งวันนี้มีอายุได้ 98 วันว่าจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของพี่เลี้ยงตลอดกลางคืนจนถึงเช้านี้ พบว่าขณะนี้หลินปิงกำลังขะมักเขม่นอยู่กับการฝึกที่จะเดินมากขึ้น มีการยกตัวสูงขึ้นด้วยขาทั้ง 4 เพื่อจะก้าวเดินบ่อยครั้งขึ้นและใช้เวลานอนน้อยลง แต่หันมาฝึกเดินภายในคอกกักจนสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขึ้น

แต่เนื่องจากพื้นคอกกักซึ่งลื่นเเพราะว่าเป็นพื้นปูนจึงทำให้ขาของหลินปิงแฉลบออกไปบ้าง แต่คาดว่าจะยืนได้ดีกว่าหากได้ยืนอยู่นพรมหรือบนเตียงนอนระหว่างตรวจสุขภาพครั้งหน้าก็น่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านการทรงตัวเดินที่ดีและเป็นที่น่าพอใจของพี่เลี้ยง

นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแม่ลูกแพนด้าที่น่าพอใจอีกอย่าง คือ หลินฮุ่ยได้กลับมาให้นมลูกกินในจำนวนที่ถี่ขึ้นคือวันละ 3-4 ครั้งแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีหลินปิงจึงได้กินนมมากเต็มที่ คงจะไม่มีผลต่อการเติบโตเพราะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้พี่เลี้ยงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสริมน้ำนมชงให้อีก

สำหรับนางหูไห่ผิง ผู้เชี่ยวชาญจีนซึ่งเดินทางมาเป็นพี่เลี้ยงและร่วมดูแลแพนด้าน้อยที่ประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 1 เดือนเศษแล้ว ขณะนี้มีกำหนดที่จะเดินทางกลับไปยังศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าเมืองหยาอัน ประเทศจีนแล้ว โดยจะเดินทางออกจาก จ.เชียงใหม่ในวันที่ 5 ก.ย.และออกจากไทยในวันที่ 9 ก.ย.โดยจะอยู่ร่วมงานฉลองเติบโตก้าวเข้าสู่วันที่ 101 ของหลินปิงในวันที่ 4 ก.ย.หลังจากประเมินแล้วว่าหลินปิงมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงไม่น่าเป็นห่วงอะไร และหลังจากนี้ประเทศจีนอาจเว้นช่วงในการส่งผู้เชี่ยวชาญจีนมายังประเทศไทยไว้ก่อน รอให้ถึงช่วงสำคัญเช่นเมื่อหลินปิงเดินได้คล่องและจำเป็นต้องมีการย้ายที่อยู่ใหม่ถึงตอนนั้นผู้เชี่ยวชาญจีนอาจจะส่งคนมาร่วมแนะนำอีกครั้ง

นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการนำผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลการโหวตชื่อหลินปิงให้กับแพนด้าน้อยร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าเมืองหยาอันและแหล่งท่องเที่ยวประเทศจีนช่วงปลายเดือนกันยายนนี้เป็นระยะเวลา 3 คืน 4 วันนั้น จุดเด่นที่สำคัญของทริปนี้ คือ การนำผู้โชคดีไปดูการเลี้ยงดูและสัมผัสความน่ารักของเหล่าแพนด้าที่แหล่งใหญ่ในประเทศจีน

เบื้องต้นทราบว่าคณะคนไทยที่จะร่วมเดินทางไปครั้งนี้และประสงค์จะอุ้มแพนด้าน่าจะได้รับสิทธิพิเศษในการอุ้มลูกแพนด้าที่ศูนย์อนุบาลซึ่งอาจต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติมเองแต่จะจ่ายในราคาพิเศษเพียงกึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายจริง ซึ่งระดับราคานั้นขึ้นอยู่กับอายุของลูกแพนด้าที่จะอุ้ม ยิ่งลูกแพนด้าที่อายุน้อยอัตราค่าอุ้มก็จะสูงขึ้น เช่นหากต้องการอุ้มลูกแพนด้าที่อายุตั้งแต่ 6-7 เดือนไปจนถึง 1 ขวบซึ่งกำลังซนเดินไปคล่องอาจต้องจ่ายเงินค่าอุ้มที่ 500 หยวนคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500 บาทจากราคาเต็มที่ต้องจ่าย ที่ 1,000 หยวน หรือ 5,000 บาท ไทย แต่หากเป็นแพนด้าโตทางจีนได้กำหนดอัตราค่าอุ้มไว้ที่ 200 หยวน หรือคิดเป็น 1,000 บาทไทย

"ส่วนผมงและทีมวิจัยแพนด้าไทยนั้น มีกำหนดจะเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการเพาะขยายพันธุ์แพนด้"ที่ประเทศจีนประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในเวทีประชุมครั้งนี้ทีมวิจัยไทยจะมุ่งนำเสนอในหัวข้อเรื่องความสำเร็จที่มีแพนด้าน้อยเกิดขึ้นตัวแรกของประเทศ ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบการผสมพันธุ์ที่สำเร็จกับไม่สำเร็จของไทยในช่วงที่ผ่านมา พร้อมนำเสนอองค์ความรู้ใหม่และการประยุกต์ใช้อุปกรณ์และเทคนิคต่างๆในการทำการผสมเทียมที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศที่เลี้ยงแพนด้านอกประเทศจีน" นายประเสริฐศักดิ์กล่าว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน นายชวลิต ประสิทธิ์ผล กรรมการผู้จัดการ บริษัทซูม เทคโนโลยี จำกัด ตัวแทนจำหน่ายพีดีเอโฟน ยี่ห้อ htc ของภาคเหนือ ได้นำผ้าคล้องคอไหมจีนสีแดงจำนวน 250 ผืนมามอบให้หัวหน้าโครงการวิจัยแพนด้า เพื่อมอบให้กับกงสุลใหญ่และตัวแทน 40 องค์กรจีนพร้อมทีมวิจัยไทยที่จะมาร่วมงานฉลองเติบโตก้าวเข้าสู่วันที่ 101 ของหลินปิงในวันที่ 4 ก.ย.นี้ ในบรรยากาศการแต่งกายแบบจีนเพื่อแสดงถึงการให้ความสำคัญกับสัมพันธไมตรีระหว่างไทย - จีน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook