รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังจับตาเฝ้าระวังสถานที่ทางศาสนาหลายแห่งในเมืองควังจู ทางใต้ของประเทศ และเมืองแทจอน ตอนกลางของประเทศ หลังจากพบว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กำลังแพร่ระบาดในสถานที่เหล่านี้ จนอาจกลายเป็นแหล่งระบาด (คลัสเตอร์) แหล่งใหม่
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคเกาหลี เผยวันนี้ (9 ก.ค.) ว่าพบผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าวรายใหม่ในเมืองควังจู 15 ราย โดยสืบพบว่าติดเชื้อจากงานอีเวนต์ส่งเสริมการขายงานหนึ่ง ก่อนผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้จะนำโรคไปแพร่ต่อในบ้านพักคนชรา โบสถ์ และซาวนา
นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6 รายในเมืองแทจอน 4 รายในกรุงโซล 2 รายใน จ.อินชอน และ 1 รายใน จ.คยองกี รวมทั้งสิ้น 22 ราย ไม่รวมผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 28 ราย
ที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบการติดเชื้อจากการรวมกลุ่มนมัสการพระเจ้าเป็นระยะๆ เหตุนี้ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการห้ามทำกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) และถ้าหากสมาชิกโบสถ์คนไหนจะเข้าโบสถ์ก็ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดก่อนเข้าด้วย
หลังจากคำสั่งนี้ออกมา กลุ่มศาสนาหลายกลุ่มในเกาหลีใต้ก็แสดงความไม่เห็นด้วย และเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการดังกล่าว อย่างเช่น คริสตจักรคริสเตียนสามัคคีเกาหลี ซึ่งเป็นสมาคมศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ที่ใหญ่ที่สุดสมาคมหนึ่ง ที่มองว่าแทนที่เจ้าหน้าที่จะสั่งห้ามการรวมกลุ่มนมัสการพระเจ้า แต่ควรเน้นให้ประชาชนทำตามมาตรการกักกันโรคมากกว่า
ด้านกลุ่มศาสนาชื่อ ความเชื่อแห่งคริสตจักรในเกาหลี ก็ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวของรัฐบาล และอ้างว่าที่ผ่านมาคริสตจักรก็ทำตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอยู่แล้ว จึงไม่ควรสั่งห้ามให้รวมกลุ่มนมัสการพระเจ้าอีก
ทั้งนี้ จำนวนสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในเกาหลีใต้ จนถึงวันนี้ (9 ก.ค.) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 13,293 ราย และมีผู้เสียชีวิต 287 ราย