"ไพบูลย์" ชู "ประวิตร" อยู่สูงกว่าหัวหน้าพรรค แต่จำเป็นต้องลงมาเพื่อแก้ปัญหาภายใน

"ไพบูลย์" ชู "ประวิตร" อยู่สูงกว่าหัวหน้าพรรค แต่จำเป็นต้องลงมาเพื่อแก้ปัญหาภายใน

"ไพบูลย์" ชู "ประวิตร" อยู่สูงกว่าหัวหน้าพรรค แต่จำเป็นต้องลงมาเพื่อแก้ปัญหาภายใน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 27 มิ.ย. 2563 ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม เมืองทองธานี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐวันนี้ว่า ภายหลังการเปิดประชุมจะมีการเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค จากนั้นก็จะมีการออกเสียงเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จากนั้นจะเป็นการลงคะแนนเสียงซึ่งจะเป็นการลงคะแนนลับ เมื่อผลการลงคะแนนเสียงออกมาก็ถือว่ามีผลในการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคมีมติ

หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคจะทำการแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคไม่เกิน 5 คนและตามด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประจำพรรค

ทั้งนี้ การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เพื่อที่จะให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีความเป็นเอกภาพ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความสามัคคีเพื่อที่จะช่วยให้การบริหารงานของพรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นไปด้วยความมั่นคงแล้วก็เติบโต เพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. รวมทั้งสนับสนุนการทำหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ส่วนการที่ไปเชิญให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นการไปขอร้องให้ท่านมาเป็น ท่านไม่ได้อยากเป็น สมาชิกพรรคขอร้องให้ท่านลงมา ท่านอยู่สูงกว่าการเป็นหัวหน้าพรรค แต่อยากให้ท่านลงมาเป็นเสาหลักในฐานะเป็นที่รักและเคารพของทุกคน

ส่วน พล.อ.ประวิตรจะเดินทางมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วยตนเองหรือไม่นั้น ก่อนหน้านี้ต้องเดินทางมาด้วยตัวเองแต่ทางพรรคได้มีการยกเลิกข้อบังคับพรรคนี้ไป และ พล.อ.ประวิตรต้องการให้การประชุมพรรคในวันนี้ สมาชิกมีอิสระและใช้ดุลพินิจของตัวเองอย่างเต็มที่ ในการเลือกหัวหน้าพรรคและเนื่องจากท่านไม่ได้ต้องการเป็นหัวหน้าพรรคจึงไม่ประสงค์ที่จะเดินทางมาร่วมการประชุมพรรคในวันนี้ ทางท่านก็ไม่ได้อยากรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่แรกจึงไม่ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์

สำหรับกรณีที่มีการไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตรลงมาเป็นหัวหน้าพรรค ในสถานที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดนั้น วันที่เดินทางไปก็เป็นการไปเทียบเชิญเพื่อให้ท่านมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ตามกระบวนการก็ต้องมีการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่าไปตกลงอะไรกันที่ไหนแล้วจะได้เป็นหัวหน้าพรรค ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค พร้อมย้ำว่าพลเอกประวิตรไม่ได้อยากมาเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะถูกเชิญจาก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook