อดีตลูกศิษย์รุ่นลุงแฉ "เจ้าอาวาส" บังคับร่วมเพศสมัยบวช เจ็บจนลุกเดินไม่ไหว

อดีตลูกศิษย์รุ่นลุงแฉ "เจ้าอาวาส" บังคับร่วมเพศสมัยบวช เจ็บจนลุกเดินไม่ไหว

อดีตลูกศิษย์รุ่นลุงแฉ "เจ้าอาวาส" บังคับร่วมเพศสมัยบวช เจ็บจนลุกเดินไม่ไหว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายอายุ 63 และ 52 ปี แฉเจ้าอาวาสบังคับร่วมเพศตอนที่บวชเป็นพระ เจ็บมากจนทนไม่ไหว ล่าสุดเจ้าอาวาสหนีออกจากวัดไปแล้ว

(20 มิ.ย.63) ที่วัดบ้านหนองเหล็ก หมู่ 5 ต.หนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ชาวบ้านหนองเหล็กกว่า 50 คน พร้อมด้วยนายบุญธรรม สีโย ผู้ใหญ่บ้านหนองเหล็ก นายบุญล้อม เชื้อเดิม ผู้ใหญ่บ้านหนองกุง หมู่ 14 และนายคมสันต์ ยศวิจิตรไพศาล นายก อบต.หนองเหล็ก ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อสอบถามพฤติการณ์ของ พระมหาฉลาด เจ้าอาวาส หลังจากมี นายแพง อายุ 52 ปี และนายสอน อายุ 63 ปี ชาวบ้านหนองเหล็ก ออกมาเปิดโปงถึงพฤติการณ์ ของพระมหาฉลาด ว่าถูกเจ้าอาวาสชอบให้อมอวัยวะเพศ ให้ร่วมเพศทางทวารหนัก และทำมานานนับหลายปี จนกระทั่งต้องลาสึกจากพระ และต้องออกจากวัดเพราะทนรับพฤติการณ์ทางเพศไม่ไหว ขณะที่นายสอน อายุ 63 ปี สุขภาพร่างกายถึงกับทรุดผอมโทรม ลุกเดินไม่ไหวและกินข้าวกินน้ำแทบไม่ได้

โดยมีพระครูสุนันทวรคุณ เจ้าคณะตำบลหนองเหล็ก พร้อมพระเลขาธิการ เจ้าคณะตำบลหนองเหล็ก เดินทางมารับฟัง โดยไม่มีพระมหาฉลาดอยู่ด้วยแต่อย่างใด และไม่มีใครทราบว่าหายไปไหน ซึ่งข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ที่ต้องการให้ทางฝ่ายสงฆ์ดำเนินการจับสึกหรือลาสิกขา เนื่องจากประพฤติผิดถึงขั้นปาราชิก เพราะต้องการให้มีการเรียกคืนศรัทธากับญาติโยม ไม่ให้เสื่อมเสีย เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

พระครูสุนันทวรคุณ เจ้าคณะตำบลหนองเหล็ก กล่าวว่า การดำเนินการต่อจากนี้ต้องมีการสืบสวน ว่ามีพยานหลักฐานอะไรบ้าง เราต้องช่วยกันค้ำชูสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาความรุนแรง ช่วยกันตักเตือนวันนี้ มีเรื่องเกิดขึ้น ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อความยั่งยืนของศาสนา ต้องหาบทสรุปร่วมกันว่า ต่อไปจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เจ้าตัวเขาไม่อยู่ ไม่สามารถสอบถามได้ เราก็รับฟังปัญหาร้องเรียน วันนี้ก็จะได้คุยกันให้ทราบปัญหา หากมีปัญหาอะไรในภายภาคหน้าจะได้ช่วยกันไม่ให้เสื่อมเสีย มันไม่ได้เสียแค่นี่แต่มันเสียทั้งหมด จึงขอให้ทางผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ช่วยกันรักษา พระพุทธศาสนา ต้องช่วยกัน ถ้าหากกล่าวตามที่โยมทั้งสองคนว่ามา ก็เรียกว่าการกระทำของเจ้าอาวาสวัดถึงขั้นปาราชิกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ทางคณะสงฆ์จะได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน นายสอน อายุ 63 ปี ซึ่งเคยรับใช้เจ้าอาวาสมานานนับสิบปี นายสอน เผยว่าตนเอง รับใช้เจ้าอาวาสวัดมา ช่วยทำทุกอย่าง ช่วยเหลือทางวัด อาหาร ที่พักสงฆ์ ซักสบง จีวร ให้เจ้าอาวาส เจ้าอาวาสมักจะมากอดเอว ขอให้อมวัยวะเพศ และร่วมเพศทางทวารหนัก ทำกับตนจนรับไม่ได้ เพราะเจ็บทวารหนักมาก ทนไม่ไหว จึงออกจากวัดมาพักอาศัยอยู่กับน้องสาว ส่วนภรรยาเสียชีวิตไปนาน สิบปีแล้ว หลังออกมาอยู่บ้านสภาพร่างกายทรุดโทรม ซูบผอมลงไปมาก ไม่สบาย กินได้น้อยเดินลำบาก ไม่ได้ไปหาหมอ เวลาถูกกระทำเจ้าอาวาสวัดจะให้เงินหนึ่งร้อยบาท ตนก็ว่าทำไมให้น้อยจัง เงินก็เยอะ แต่ตนก็ขัดขืนไม่ได้

ด้าน นายแพง อายุ 52 ปี อดีตเคยบวชรับใช้ พระมหาฉลาด บอกว่าเหตุเกิดที่กุฏิพระอาจารย์ฉลาด ท่านเรียกเข้าไปในห้องตนก็ไม่รู้ว่าอุปฐากเป็นยังไงเพราะเพิ่งบวช และตนก็ไม่กล้าบอกพระในวัด ไม่กล้าไปปรึกษาใคร ตอนแรกท่านบอกว่าช่วยพระอาจารย์หน่อย ตนก็ไม่เข้าใจว่าช่วยยังไง ตนเป็นพระผู้น้อยไม่เข้าใจเพราะเพิ่งบวชได้พรรษาเดียว ตนก็อดทนไปก่อนเรื่อยๆ จนทนไม่ไหว เลยมาปรึกษาพระที่วัด ว่าอุปฐากพระอาจารย์เป็นแบบไหน ใช่ถูกเขาร่วมเพศทางทวารหนักไหม ให้อมอวัยวะเพศไหม เขาให้อมให้ดูด พระในวัดท่านบอกว่าไม่ใช่ อุปฐากคือเอาภัตตาหารไปให้พระอาจารย์ ซักสบง กวาดกุฏิให้ นั้นคืออุปฐาก ตนเลยบอกว่าอย่างไร ถ้าอย่างนั้นมันก็ผิดสิ ท่านก็ว่าผิดแน่นอน ไม่ใช่อุปฐากแบบนั้น อย่างนั้นตนก็อยู่ไม่ได้ถ้าอยู่ตนก็ตาย ตนโดนจนนับครั้งไม่ได้ วันพระเวลาโยมมาตักบาตรกันเยอะๆ ท่านก็เรียกตนไป ตนก็ไม่ขัดขืนเพราะตนไม่รู้ ตนมาสู้ขัดขืนตอนที่ได้มาถามพระในวัด

ที่ผ่านมาที่ไม่ขัดขืนเพราะว่าอุปฐาก คิดว่าต้องดูแลแบบนั้นแบบนี้คืออุปฐาก ตอนหลังพระอาจารย์เรียกยังไงตนก็ไม่ไป โทรเรียกตนก็ไม่ไป รู้แล้วว่าทำแบบนี้มันผิด เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนคนที่โดนกระทำแบบตนนั้นไม่รู้ว่ามีกี่คน พอตนสิกขาไปก็เลยมาพูด ซึ่งตอนทำเสร็จท่านก็ไม่ได้ให้อะไรและก็ไม่ได้ขู่หรือห้ามไปบอกใคร คือถ้าทำกับตนทีไรตนก็บอกว่า คนเขารู้กันหมดแล้วนะพระอาจารย์ ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ เขารู้ก็เรื่องของเขาไม่เกี่ยว เรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง ถ้าตนพูดเท็จให้สวรรค์ลงโทษตายในสามวันเจ็ดวันเลย

ส่วน นางสุนิสา ชาวบ้านหนองเหล็ก ที่เคยเข้าวัดเป็นประจำและให้ความสนับสนุนช่วยเหลือบริจาคเงินสมทบสร้างถาวรวัตถุ อาคารต่างๆในวัดบ้านหนองเหล็ก บอกว่าตนเองศรัทธา ในเจ้าอาวาสวัดมายาวนาน โดยตนเองเข้าวัดทำบุญอย่างต่อเนื่องแต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านตนเอง ทราบเรื่องราวพฤติการณ์ เจ้าอาวาสวัดมาพอสมควร พอหลวงพี่ ญาติที่บวชอยู่ที่วัด มรณภาพลง ตนเองก็ไม่ได้เข้ามาที่วัดนี้อีกเลย เจ้าอาวาส จะเป็นคนที่พูดจาดี พูดเพราะ นิสัยคล้าย ผู้หญิงถ้าเป็นพระเอกลิเก ก็มีแม่ยกตรึมแน่นอน ตนเองอยากให้เจ้าอาวาสวัด ออกมายอมรับความจริงมาสู้ความจริง เพราะขณะนี้เจ้าอาวาสวัดหนีหายออกจากวัดไปแล้วเมื่อวาน

ขณะที่ นายคมสันต์ ยศวิจิตรไพศาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล็ก กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า หากผิดสอบไปแล้วเป็นความจริง พระปฏิบัติตัวและประพฤติตัวอย่างเช่นนี้ ก็ไม่สวมควรที่จะอยู่ในคราบของพระ อยากให้ดำเนินการกับพระรูปนี้โดยสึกจากความเป็นพระ จากนั้นจะไปที่ไหนก็ไป ส่วนเงินวัดบัญชีวัดก่อนที่จะไป มีการเบิกจ่ายอย่างไร อยากให้คณะกรรมการได้มีการตรวจสอบ  ส่วนพฤติกรรมของเจ้าอาวาสรูปนี้นั้น ระแคะระคายมาตั้งแต่ปี 56 แล้วและเคยเป็นข่าวมาก่อน แต่ไม่รุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พอทุกวันเขาได้พัฒนาวัดก็ได้ใจว่าชาวบ้านรัก เขาทำผิดชาวบ้านจะไม่กล้าทำอะไรเขาเพราะผลงานเขาดี คิดว่าจะนำมาหักล้างความประพฤติไม่ดีที่ทำไว้ แต่มันเป็นไปไม่ได้

ทั้งนี้นายคมสันต์ ได้ประสาน หน่วยกู้ชีพ อบต.หนองเหล็ก ได้เข้ามารับนายสอน ซึ่งป่วยนอนซมอยู่ที่บ้านน้องสาว เพื่อนำส่งตรวจรับการรักษา ที่โรงพยาบาลศีขรภูมิ ซึ่งแพทย์ตรวจเบื้องต้น พบเป็นโรควัณโรค และจะได้ให้ชาวบ้านใกล้เคียงทุกคน ที่อยู่ใกล้ชิดทำการตรวจร่างกาย เพื่อป้องกันการระบาดของโรคต่อไป

อย่างไรก็ตามได้มีการโพสต์ลงในเพจวัด มีข้อความว่า "อนุโมทนาขอบคุณญาติโยมบ้านหนองเหล็ก-หนองกุงที่ถวายภัตตาหารให้ฉันตลอดสิบปีที่ผ่านมา มีพบก็ต้องมีจากขอบคุณด้วยใจครับโพสต์สุดท้ายครับสถานที่เคยหลับนอนและสร้าง" ซึ่งชาวบ้านคาดว่าน่าจะเป็นพระมหาฉลาด นิปโก เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเหล็ก เป็นผู้โพสต์  และอาจจะหนีออกจากวัดไปแล้วก็เป็นได้

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook