ปาบึ้มใส่เสื้อเหลืองขณะทำบุญที่เชียงใหม่

ผบ.ทบ.ไปร่วมประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ที่ประเทศญี่ปุ่น เชื่อกลุ่มเสื้อแดงชุมนุม 30 สิงหาคมนี้ไม่มีความรุนแรง ตำรวจดูแลได้ อภิสิทธิ์เตือนเสื้อแดงสร้างความวุ่นวายทุกฝ่ายเสีย

(23ส.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยก่อนเดินทางไปร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ว่า ไม่ได้สั่งการใดๆเป็นพิเศษ ทุกอย่างปกติเหมือนที่เคยดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทหารเป็นเพียงผู้สนับสนุน ซึ่งได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการทหารดูแลแทนแล้ว แต่เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรง

ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงนัดหมายแต่งดำในวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 89 ปีของ พล.อ.เปรม ติณณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ควรไปถามคนเสื้อแดงเอง ส่วนตัวได้เข้าไปอวยพรที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์แล้ว ซึ่งพล.อ.เปรม ไม่ได้ฝากฝังอะไรเป็นพิเศษ

อภิสิทธิ์เตือนเสื้อแดงสร้างความวุ่นวายทุกฝ่ายเสีย

เมื่อเวลา 13 . 00 น. วันที่ 23 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำในวันคล้ายวันเกิดของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า อยากให้แต่ละคนดูถึงความเหมาะสมของสิ่งต่างๆ ขณะนี้เราอยากให้บ้านเมืองมีความสงบ การแสดงจุดยืนทางการเมืองถ้าอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมก็จะดีที่สุด อย่าไปทำอะไรที่ไปทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมา เพราะฝ่ายหนึ่งทำอีกฝ่ายก็ต้องรู้สึก จากนั้นก็จะทำให้บ้านเมืองมีปัญหา ซึ่งไม่มีฝ่ายไหนได้ประโยชน์ทุกฝ่ายเสียประโยชน์ทั้งหมด ประชาชนเดือดร้อนจากสภาพความวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันคล้ายวันเกิดของพล.อ.เปรม ในปีนี้จะเข้าอวยพรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยปกติในอดีตไม่มีโอกาส แต่ครั้งนี้กำลังจะดูเวลา เพราะวันที่ 24 ส.ค.ตนจะต้องนำนายกรัฐมนตรีบาเรนห์เข้าเฝ้าฯ

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าหลังถวายฎีกาแล้วจะหยุดเคลื่อนไหว แต่กลับมีการเคลื่อนไหวอยู่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันติดตาม ใครพูดอะไรไว้ ได้ทำบ้างหรือเปล่า แต่ตนก็ไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะหยุดแต่เราก็อยากให้ทุกอย่างสงบ และไปหาคำตอบตามกระบวนการที่มีอยู่

เมื่อถามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเคลื่อนไหวมาชุมนุมที่ทำเนียบฯในวันที่ 30 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังให้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมแผนอยู่ ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าเป็นห่วงทุกครั้งเพราะไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายและอยากเดินหน้าแก้ปัญหามากกว่า แต่เมื่อมีคนบอกว่าต้องการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเราไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ถ้าเกินเลยก็ต้องจัดการเพราะถือเป็นปัญหาสำหรับบ้านเมือง ตนอยากบอกให้ประชาชนทราบว่าถ้าเป็นเจตนาที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองก็เท่ากับเขากำลังทำร้ายประชาชนส่วนใหญ่ แต่รัฐบาลก็พยายามประคับประคองในด้านต่างๆรวมทั้งเศรษฐกิจ เพราะมาตรการทุกอย่างก็เดินหน้าแม้ตนจะมีข้อขัดข้องบ้างในเรื่องการทำงาน เรื่องตำรวจและเรื่องอื่นๆ แต่ไม่ได้แปลว่าตนจะหยุดทำงานในเรื่องอื่น ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อรวมทั้งเรื่องตำรวจด้วย เพราะต้องการผลักดันในสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองในขณะนี้ก็ต้องทำต่อไป

ปาระเบิดใส่เสื้อเหลืองขณะทำบุญที่เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่หน้าสำนักงานเครือข่ายเฮาฮักฯ ถนนกองทราย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลหมอวงศ์ ได้มีรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอน์เงิน ติดฟิล์มดำ จำนวน 2 คัน ภายในรถมีคนจำนวน 20 คนใส่หมวกกันน็อค พร้อมกระบองครบมือ ได้ลงมาที่หน้าสำนักงาน ซึ่งในช่วงเช้าเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ได้มีการทำบุญ

ปรากฎว่าได้มีเสียงคล้ายระเบิดทำให้เกิดการชุลมุน ภายหลังสิ้นเสียงระเบิด พบว่ากระจกหน้าสำนักงานมีรอยแตก รถยนต์เสียหาย 2 คัน และมีหญิงอายุประมาณ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บขาหัก 1 ข้าง

นายศรุต กาญจนกามล ผู้ช่วยผู้จัดกการ โรงพยาบาลหมอวงศ์ กล่าวว่า ในช่วงเช้ากลุ่มเครือข่ายเฮาฮัก ได้ทำบุญฯกันตามปกติ กระทั่งเวลา 14.00 น. ได้มีกลุ่มคนเข้าใจว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ได้เข้ามาสร้างความปั่นป่วน โดยการปาระเบิด แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดไหน ทำให้ประชาชนตกใจและวิ่งหนีจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน

"ปธ.วุฒิ"วอนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวให้รอรบ.แก้ปัญหาเก่าให้ได้ก่อน

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภากล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อถวายฎีกาเสร็จแล้ว กลุ่มเสื้อแดงน่าจะหยุด ไม่ควรดำเนินการอะไรในตอนนี้ อยากให้รอรัฐบาลปรับปรุงและแก้ปัญหาที่กลุ่มเสื้อแดงเสนอไปให้เรียบร้อยก่อน

"ปธ.วุฒิสภา"เชื่อไม่มียุบสภาแน่

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภากล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวยุบสภาว่า ในช่วงนี้ไม่น่าจะมียุบสภาแน่นอน เพราะไม่เห็นมีเหตุอะไรให้ยุบสภาได้เลย ในสัปดาห์หน้าก็จะมีการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ แต่ถ้าหากไม่ไหวนายกฯจะลาออกให้คนอื่นขึ้นมาทำงานแทนก็ได้ แต่ตนคิดว่าน่ายกฯคงไม่ทำ

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่ากระแสข่าวยุบสภา ผลจะมาจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯเสนอ พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร.นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย และยังไม่เห็นว่านายกฯจะเสียหน้าตรงไหน เพราะในที่ประชุมเห็นควรจะเสนอใครเป็นผบ.ตร.ก็ขึ้นกับมติของคณะกรรมการก.ต.ช. ถือเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคณะกรรมการไม่เห็นด้วยกับชื่อที่นายกฯเสนอก็ไม่เสียหายอะไร ครั้งหน้าก็ประชุมกันใหม่ ส่วนจะเสนอใครก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหา ชื่อคนที่เป็นแคนดิเดตตั้งหลายคน เลือกใครก็ได้ถ้าไม่เอา พล.ต.อ.ประทีป

"พท."แนะ"นายกฯ"ลาออก เปิดทาง"ชวน"ยูเทิร์น

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขณะนี้นายกฯกำลังประสบภาวะวิกฤตผู้นำ หลังจากโหวตแพ้ในที่ประชุมก.ต.ช. ในการเสนอชื่อผบ.ตร.คนใหม่ และตลอด 7 เดือนที่ผ่านมานายกฯ มีวุฒิภาวะแค่ไหนประชาชนก็เห็นกันหมดแล้ว ดังนั้นพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องไปยังนายกฯ 4 ข้อคือ 1.นายกฯต้องหยุดแทรกแซงกิจการภายในของสตช. และหันมาแก้ปัญหาความยากจน ปากท้อง น้ำมันแพง ไข้หวัด 2009 และปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ มากกว่าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องโผตำรวจ ทั้งนี้แม้ว่านายกฯจะมีอำนาจเสนอรายชื่อผบ.ตร. แต่ก.ต.ช.ก็มีอำนาจในการตัดสินใจ 2.เมื่อเกิดภาวะวิกฤตผู้นำ นายกฯควรแก้ปัญหาโดยการปรับครม.ที่โลกลืมชุดใหญ่เพื่อเรียกความมั่นใจประชาชนกลับคืนมา 3.นายอภิสิทธิ์ ควรเสียสละเพื่อชาติและประชาชน ควรลาออกเปิดทางให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นนายกฯแทน ในภาวะที่เกิดวิกฤตความเป็นผู้นำและเกิดการทุจริตชุมชนพอเพียง คิดว่านายชวนน่าจะทำได้ดีกว่านายอภิสิทธิ์ และ 4.หากนายกฯไม่ทำตามข้อเสนอทั้งสามข้อ ก็ขอเรียกร้องให้ยุบสภา อย่าบริหารบ้านเมืองเหมือนเหยียบตาปลา ควรยุบสภาฯคืนอำนาจให้ประชาชนทำการเลือกตั้งใหม่ อย่ายื้อเวลาโดยเปล่าประโยชน์

นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายกฯระบุว่ายังไม่สามารถแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ได้ เพราะต้องรอดูข้อมูลรอบด้านนั้น อยากให้นายกฯไปดูข้อมูลในสมัยพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นรักษาการผบ.ตร.ว่า มีการใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทของสตช.เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ สำหรับกรณีที่นายกฯพูดคุยกับนายชวรัตน์ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นานกว่า 20 นาทีนั้น เชื่อว่าน่าจะมีนัยการเมืองอย่างแน่นอน เห็นได้จากนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการงบประมาณ เรียกประชุมเป็นการด่วนในวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา ทั้งที่วาระการพิจารณาดังกล่าวปิดไปแล้ว เป็นการเพิ่มงบประมาณให้ใครหรือไม่ ขณะเดียวกันนัย 20 นาที น่าจะพูดคุยเพื่อต่อรองอะไรบางอย่างเพื่อให้รัฐบาลเดินไปได้ โดยทั้งนายกฯและพรรคภูมิใจไทย อาจยอมเสียและยอมเสียอะไรบางอย่าง เพื่อให้นายกฯพ้นวิกฤตความเป็นผู้นำ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องการเสนอชื่อผบ.ตร.ใหม่ ก็เป็นได้ เพราะถึงอย่างไรแล้วทั้งสองพรรคคงไม่อยากยุบสภาฯในช่วงนี้แน่นอน เพราะถึงเลือกตั้งใหม่ไปก็แพ้ วันนี้คงอยู่ทู่ซี้กันไปก่อน