พันธมิตรฯจวกรัฐบาลปล่อยเสื้อแดงถวายฎีกา

พันธมิตรฯ แถลงจวกรัฐบาลปล่อยเสื้อแดงก้าวล่วงถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้กลุ่มอื่นในสังคมออกมาเรียกร้องรัฐบาล

ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวระบุหน่วยงานความมั่นคงล้มเหลวละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยแกนนำคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคุกคามสถาบันหวั่นบ้านเมืองแตกแยก

นายสุริยะใส กล่าวว่า บทบาทของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้ ถือเป็นวิกฤตความมั่นคงของประเทศตั้งแต่ผู้รับผิดชอบโดยตรง ในระดับนโยบายตั้งแต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาถึงผู้นำเหล่าทัพ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และเหล่าทัพต่างๆ ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงทั้งหมด สถานการณ์วันนี้ต้องถือว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและผู้รับผิดชอบทั้งหมดในระดับนโยบายและในระดับปฏิบัติการไร้ประสิทธิภาพ

" บทบาทของผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทาง 5 แกนนำต้องการให้ทบทวนพิจารณาบทบาทของผบ.ทบ. เราเคลือบแคลงสงสัยผบ.ทบ.ไม่ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นหน้าที่สำคัญของเหล่าทัพของทหาร ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญทหารต้องพิทักษ์สถาบันเบื้องสูง วิกฤตการณ์ของประเทศ 3 ปีที่ผ่านมา กระทบความมั่นคงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน แต่ ผบ.ทบ.ท่านนี้กลับนิ่งเงียบ เพิกเฉยต่อสถานการณ์"นายสุริยะใส กล่าวและว่า ในฐานะ ผบ.ทบ. การเข้าชื่อถวายฎีกาของกลุ่ม นปช.และกลุ่มเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีส่วนร่วมกับขบวนการเข้าชื่อถวายฎีกา ทำให้สังคมผิดหวังกับท่าทีของ ผบ.ทบ.ที่บอกว่า ไม่มีความเห็น เพราะท่าทีแบบนี้เป็นการส่งสัญญาณในทางลบต่อข้าราชการ ต่อหน่วยงานที่ขึ้นตรง ถ้าระดับผู้บังคับบัญชาไม่มีความเห็นทำให้กลไก หน่วยงานที่เป็นแขนขา ไม่ทำงานไปด้วย

นายสุริยะใส กล่าว ขบวนการล่ารายชื่อขยายตัวไปอย่างน่าเกรงขาม 5 แกนนำประมวลสถานการณ์สรุปว่า วิกฤตการณ์ความมั่นคงในขณะนี้เกิดขึ้นจากภัยคุกคามต่อสถาบันเบื้องสูง ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ และขบวนการเสื้อแดง เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ เป็นวิกฤตความมั่นคง เป็นการคุกคามสถาบันที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในยุคพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาเป็นผบ.ทบ. ถือเป็นยุคที่มีปัญหาการคุกคามสถาบันมากที่สุดยุคหนึ่งในส่วนของพันธมิตรคงไม่นำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง แต่จะสนับสนุนให้ใช้กระบวนการทางกฎหมายแทน

ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า การดำเนินการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการออกมาท้วงติงมีข้อมูลเพียบพร้อม เพราะเห็นว่า บ้านเมืองจะเสียหายทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น และเกาะติดสถานการณ์มาเป็นลำดับมา ดังนั้นรัฐบาลอย่าได้วางเฉยต่อการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาลอย่าวางเฉยต่อการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่รัฐบาลยังไม่ทำอะไร หรือทำไปก็นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง เป็นที่น่าดีใจที่ครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้รวมตัวกันแล้วออกแถลงการณ์คัดค้านการถวายฎีกา ซึ่งการคัดค้านการถวายฎีกานั้น เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งต่อการจะช่วยกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อยากให้องค์กรอื่นๆ ออกมาบ้าง เพราะว่าเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ทุกองค์กร ไม่ใช่มีเฉพาะไม่กี่องค์กรเท่านั้นเอง ถ้าเราออกมาเรียกร้องกันมากๆ คิดว่า รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ ถ้ารัฐบาลอยู่ได้ก็เก่งเกินไปแล้ว ในเมื่อรัฐบาลต้องพึ่ง อาศัยคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทุกหมู่

ดังนั้นวันนี้ เมื่อครบ 8 เดือนไปแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ก็เลยได้ประชุมกันเมื่อเช้านี้ และเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า สมควรแล้วที่จะแถลงผ่านสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง ดังที่ อ.ปานเทพ ได้บอกไปแล้ว ยืนยันอีกทีนะครับ อยากจะเรียกร้องให้หลายๆ กลุ่มออกมา เพราะว่าลำพังเพียงไม่กี่กลุ่มนั้นรัฐบาลอาจจะยังไม่ฟังแต่ถ้าออกมามากๆเข้ารัฐบาลต้องฟังอยู่ดีครับ

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่ลิ่วล้อของทักษิณกำลังดำเนินการเรื่องถวายฎีกา ซึ่งประชาชนออกมาเกือบหมดแล้ว พันธมิตรฯ แถลงไว้ตั้งแต่เดือน มี.ค. เดือน เม.ย. แต่วันนี้รัฐบาลก็ไม่ทำอะไร พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งไปแจ้ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลไม่ต้องไปแจ้งร้องทุกข์ต่อตำรวจ นายกเป็นหัวหน้าใหญ่ของตำรวจ เป็นประธาน ก.ต.ช. นายสุเทพเป็นประธาน ก.ตร. ไม่รู้แบ่งอำนาจกันยังไง ชาวบ้านก็งง ซึ่งความจริงแล้วเป็นความผิดซึ่งหน้า คุณสุวัตร ทนายความของพันธมิตรฯ ได้พูดไปแล้วว่า การกระทำดังกล่าวผิดมาตรา 189 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เจตนาชัดเจนต้องการจะช่วยนักโทษชายหนีคำพิพากษาของศาลให้พ้นผิด ก็ต้องมีความผิดตามกฎหมายอาญาไปด้วย อันนี้ยังปล่อยปละละเลย

" ขอยืนยัน เวลามีข่าวจะบอกว่า เสื้อเหลืองเสื้อแดงทะเลาะกัน หยุดทะเลาะกัน ยืนยันว่า สิ่งที่พันธมิตรฯนำเสนอนั้น จุดยืนของเราคือ ผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ไปทะเลาะกันเรื่องส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น เราทำหน้าที่ของเราในฐานะเป็นพลเมืองประเทศไทย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทั่วประเทศ ที่ยังยืนยันจงรักภักดีต่อประเทศชาติช่วยกัน เพราะรัฐบาลก็วางเฉย ไม่ได้กระทำอะไร นี่ก็เป็นความเห็นของผม " นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนพิภพ ธงไชย กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯยืนยันว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศการที่รัฐบาลหรือกองทัพ มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เข้มงวดกว่าที่ทำอยู่ เพราะถือเป็นยุคสมัยยิ่งกว่ายุคใด ที่มีการละเมิด หรือทำให้เกิดความสั่นคลอนของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะนำไปสู่ความสั่นคลอนของความมั่นคงของชาติ

" การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คณะราษฎรได้ยืนยันที่จะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ จึงใช้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ได้ถือกำเนิดขึ้นมาวันที่ 6 เมษายนหรือวันจักรี นายกรัฐมนตรีต้องดูประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องในการที่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อคงให้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทำให้มีความมั่นคง ในขณะที่พรรคไทยรักไทยได้ประกาศตั้งพรรคการเมืองในวันที่ 14 กรกฎาคมเป็นที่ทราบกันดีว่า ตรงกับวันปฏิวัติฝรั่งเศส ดังนั้นอยากจะเตือนเรื่องนี้กับท่านนายกรัฐมนตรีความพยายามของฝ่ายใดๆ ที่จะสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมจะไปสั่นคลอนเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ และความรู้สึกของประชาชนโดยรวมด้วย"

"พันธมิตรฯ จะเตือนรัฐบาล เตือนผู้บัญชาการทหารบก ในการที่ปล่อยปละละเลย หรือมีท่าทีวางเฉยเกี่ยวกับการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าไม่กระทำการใดๆ รัฐบาลจะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ผู้บัญชาการทหารบกจะหมดความชอบธรรม ในการที่จะเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพต่อไป ตรงนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่อยากจะย้ำในเชิงประวัติศาสตร์ที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน" แกนนำพันธมิตร ระบุ