"หมอฟอซี" เตือนสภาฯ โควิด-19 ระบาดซ้ำจนคุมไม่ได้แน่ ถ้าปลดล็อกเร็วเกินไป

นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพของวุฒิสภาสหรัฐฯ เตือนว่าหากรัฐต่างๆ เร่งปลดล็อกเศรษฐกิจเร็วเกินไปโรคโควิด-19 อาจกลับมาระบาดซ้ำจนไม่สามารถควบคุมได้ นายแพทย์ฟอซีแถลงให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพของวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งจัดการประชุมแบบทางไกลด้วยว่าค่อนข้างแน่ใจได้ว่าผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างแท้จริงในสหรัฐฯ นั้นมีจำนวนมากกว่าตัวเลขที่รายงานในขณะนี้คือกว่า 80,000 คนอย่างแน่นอนเนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตที่บ้านและไม่ได้ถูกนับรวมอยู่ในตัวเลขอย่างเป็นทางการนี้ด้วย อย่างไรก็ตามนายแพทย์ฟอซีไม่อยากคาดเดาว่าตัวเลขที่แท้จริงนั้นคือเท่าใด

ในการแถลงข้อมูลระหว่างการกักตนเองเป็นเวลา 14 วันครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงจากคนอเมริกันยังเตือนว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่โรคโควิด-19 จะกลับมาระบาดอย่างร้ายแรงอีกครั้งในช่วงปลายปีคือระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนแต่ก็หวังว่าเมื่อถึงขณะนั้นทางการจะมีความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดีกว่าเท่าที่ผ่านมา และที่สำคัญที่สุดนายแพทย์ฟอซีเตือนว่าขณะนี้หลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ได้ และการเร่งปลดล๊อกการควบคุมในรัฐต่างๆ เร็วเกินไปจะทำให้เกิดการระบาดครั้งใหม่ โดยนายแพทย์ฟอซีระบุว่ามีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะเกิดการระบาดครั้งใหม่ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้หากรัฐต่างๆ ไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำของรัฐบาลกลางที่ให้รอดูการลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นเวลาสองสัปดาห์ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ เป็นขั้นตอน

โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ผู้นี้ใช้คำพูดว่าผลของเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายและน่ากลัวเพราะนอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มแล้วยังจะส่งผลเสียต่อความพยายามทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอีกด้วย

สำหรับคำถามที่ว่านักเรียนและนักศึกษาควรจะรู้สึกปลอดภัยหรือไม่หากกลับเข้าชั้นเรียนเมื่อเริ่มภาคการศึกษาใหม่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายนนั้นนายแพทย์ฟอซีตอบว่าการคาดหวังว่าจะมีวัคซีนหรือยาที่สามารถใช้บำบัดโรคโควิด-19 อย่างได้ผลในช่วงดังกล่าวอาจจะยังเร็วหรือเป็นที่คาดหวังมากเกินไป และในช่วงหนึ่งของการแถลงข้อมูล นายแพทย์แอนโทนี ฟอซีได้โต้ตอบกับวุฒิสมาชิก แรนด์ พอล จากรัฐเคนตั๊กกี้ ซึ่งเคยเป็นจักษุแพทย์ก่อนจะมาเป็นนักการเมืองที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขมักจะคาดการณ์ผิดและไม่ควรทำตัวเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด โดยนายแพทย์ฟอซีตอบว่ายังมีเรื่องต่างๆ ที่เรายังไม่รู้ไม่เข้าใจเกี่ยวกับไวรัสนี้อยู่อีกมากและเตือนว่าเราไม่ควรทนงตนหรือชะล่าใจว่าเด็กจะปลอดภัยจากโรคโควิด-19 เพราะมีหลักฐานข้อมูลใหม่ที่แสดงว่ามีเด็กหลายคนติดโรคนี้และเสียชีวิตโดยมีอาการคล้ายกับโรคคาวาซากิ เป็นต้น

และในส่วนของวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ กล่าวว่าหากการทดลองวัคซีนเป็นผลสำเร็จเราคงจะได้ทราบเรื่องนี้ในช่วงปลายปี แต่ก็ย้ำว่ายังไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าวัคซีนจะใช้ได้ผล อย่างไรก็ตามอย่างน้อยถ้าเรามีวัคซีนซึ่งสามารถใช้ได้ผลในระดับหนึ่งเรื่องนี้ก็จะช่วยสร้างภูมิต้านทานหมู่ขึ้นได้ในกลุ่มประชากรและว่าจนกว่าเราจะมีวัคซีนที่พร้อมใช้งานก็ยังจำเป็นจะต้องใช้ความพยายามเพื่อชะลอและควบคุมการระบาดของโรคนี้อยู่ต่อไป