ข่าวกรองยันผู้นำอีแลมไม่ได้ถูกจับในไทย
ปณิธาน วัฒนายากร ระบุ หน่วยข่าวกรองรายงานรัฐบาล ผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ไม่ได้ถูกจับในไทย ขณะที่สิงคโปร์ มาเลย์ ศรีลังกา ต่างก็ปฎิเสธเช่นกัน เว็บไซต์ลังกาศรีนิวส์ระบุถูกจับในมาเลย์และส่งตัวไปศรีลังกาแล้ว
(7ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสำนักข่าวดีพีเอรายงานโดยอ้างการแถลงของนายทหาร อูดานา นานานัคคารา กองทัพศรีลังกาที่ยืนยันว่า นายเซลวาราสา ปัทมานาทาน หรือเคพี ผู้นำคนใหม่ของกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ถูกจับตัวที่กรุงเทพฯ แต่ไม่อาจระบุรายละเอียดเพิ่มเติมได้ เวลา 10.30 น.วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวเรื่องดังกล่าวว่า"กำลังตรวจสอบอยู่"
ขณะที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าสายการบินต่างๆที่บินไปศรีลังกาต้องผ่านประเทศไทยก่อน ขณะนี้ยืนยันเบื้องต้นว่า ไม่ได้จับตัวนายเซลวาราสา ทั้งนี้ผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเคยเข้าออกประเทศไทยจริง จากที่ปรากฏในข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก ซึ่งเป็นข้อมูลเก่าและตัวผู้นำกบฏดังกล่าวอาจมีภรรยาอยู่ที่ประเทศไทยด้วย เพราะเคยมาพักอยู่ทางภาคเหนือ 2-3 ครั้ง
โดยฝ่ายความมั่นคงกำลังประชุมสรุปสถานการณ์เรื่องนี้อยู่ว่าเที่ยวบินต่างๆมีบุคคลดังกล่าวเดินทางในเที่ยวบินนั้นหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกจับตัวที่กรุงเทพฯ เข้าใจว่าถูกจับตัวที่ต่างประเทศ แล้วถูกส่งตัวไปที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งต้องผ่านประเทศไทย
ต่อมาเวลา 11.50 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า ล่าสุดสำนักข่าวกรองแห่งชาติได้รายงานให้รัฐบาลทราบว่า ไม่มีการจับกุมนายเคพีในประเทศไทย แต่ทราบจากเว็บไซต์ของกลุ่มกบฏนี้ที่เผยแพร่มาจากแคนาดาโดยข้อมูลในเว็บไซต์ระบุว่า นายเคพีอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อวันที่ 5 ส.ค.และหายตัวไปเมื่อวันที่ 6 ส.ค. โดยมีการพบบุคคลต้องสงสัยโดนถุงคลุมหน้าที่สนามบินกรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา หลายฝ่ายคาดว่านายเคพีโดนจับกุมที่มาเลเซียและกำลังถูกส่งตัวไปที่ศรีลังกา และอาจมีการถ่ายโอนผู้โดยสารที่กทม. จากการติดต่อสำนักข่าวกรองแห่งชาติไปยังสำนักข่าวกรองของสิงคโปร์ มาเลเซีย และศรีลังกา ไม่มีฝ่ายใดยอมรับว่านายเคพีถูกจับกุมที่ประเทศใด
เว็บไซต์ลังกาศรีนิวส์ระบุถูกจับในมาเลย์และส่งตัวไปศรีลังกาแล้ว
เวบไซต์ลังกาศรีนิวส์ของศรีลังกา รายงานวันนี้โดยอ้างแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่า นาย เซลวาราสา ปัทมานาทาน หรือที่รู้จักกันในชื่อเคพี ผู้นำคนใหม่ของกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม หรือ LTTE ถูกจับตัวได้ที่โรงแรมทูน โฮเต็ล ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อบ่ายวันพุธ ระหว่างที่เขาไปพบปะกับพี่ชายและ
ลูกชายของนายบี นาเดซาน ผู้นำทางการเมืองของกลุ่ม LTTE
แหล่งข่าวเล่าว่า นายปัทมานาทานได้รับโทรศัพท์ช่วงเกือบบ่ายสองโมงตามเวลาท้องถิ่น และขอตัวออกไปคุยนอกห้องพัก หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย เชื่อว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของศรีลังกาจับตัวไป โดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพหรือหน่วยข่าวกรองของมาเลเซีย และเชื่อว่าเขาได้ถูกส่งตัวไปยังกรุงโคลัมโบของศรีลังกาแล้ว
กลุ่มชาวทมิฬบอกว่า การจับกุมครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของประเทศอื่นๆอีก และการที่กองทัพศรีลังกาออกมาเปิดเผยเมื่อวานว่านายปัทมานาทานถูกจับกุมในประเทศไทยนั้น เป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องที่มาเลเซียและอีกประเทศหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการจับตัว
ทั้งนี้นายเคพีเดินทางเข้าออกหลายประเทศ และก่อนหน้านี้ยอมรับว่า นายเคพีเคยมีภรรยาในไทย และอาจยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้าอาวุธ แต่จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จับกุมอาวุธสงครามในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ตหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ขณะนี้ประเทศไทยได้ผลักดันบุคคลต้องห้ามของประเทศต่างๆที่เข้ามาใช้ไทยเป็นสถานที่พำนักให้ออกไป และพร้อมจับกุมตัวให้หากมีบางประเทศประสานมา โดยเริ่มตั้งแต่การจับกุมนายฮัมบาลี แกนนำเจไอไปให้สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2545
เผยประวัติมีเมียไทย-ร่วมฆ่า"ราจีฟ คานธี"
รายงานข่าวจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า กรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยทำการจับกุมตัว ผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมป์คนใหม่ คือ นาย เค ปัทมานาธาน (K .Padmanthan) ได้ที่กรุงเทพฯนั้น จากการตรวจสอบจากสำนักงานตำรวจสากลของไทย พบว่ามีการจับกุม นาย เค จริง โดยผู้จับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นของประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 01.00 น.ของคืนวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา
สำหรับนายเค เป็นผู้ก่อการร้ายที่เป็นต้องการตัวของหลายประเทศ เนื่องจากมีข้อหาร้ายแรงจำนวนมาก ทั้งการค้าอาวุธ การส่งอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย รวมทั้งเป็นหนึ่งในทีมสังหาร นายราจีฟ คานธี อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย จนเสียชีวิต ซึ่งในประเทศไทย นายเค เข้ามาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยมีประวัติตามที่หน่วยข่าวกรองของไทยระบุคืออายุ 57 ปี สัญชาติศรีลังกา มีภรรยาเป็นคนไทยอาชีพพยาบาล อยู่ที่ จ.ลำพูน พื้นที่ปฏิบัติการ สิงคโปร์ สวิสเซอร์แลนด์ มาเลเซีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ไซปรัส สหรัฐอเมริกา และไทย
พฤติการณ์และความเคลื่อนไหวในประเทศไทย วันที่ 21 พฤษภาคม 2534 หลังจากสังหาร นายราจีฟ คานธี ได้หลบหนีเข้าประเทศไทย เข้าพักที่ ร.ร.มาเลเซีย ต่อมาได้ทำการติดต่อซื้ออาวุธ วัตถุระเบิด จากบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางรัก วันที่ 1 กรกฎาคม 2534 ปรากฏตัวที่ อ.อรัญประเทศ เพื่อติดต่อซื้ออาวุธจากกลุ่ม KPNLF วันที่ 6 พฤศจิกายน 2534 ทางการอินเดียจับกุมเรือทองนาวา พบอาวุธในเรือที่ลักลอบนำไปส่งให้กับกลุ่มกบฏ โดยอาวุธทั้งหมดมาจากประเทศไทย
ต่อมาทราบว่ามีการปลอมลายมือชื่อซื้ออาวุธปืนจากกองทะเบียน สตช. จนมีการตั้งกรรมการสอบสวน ปัจจุบัน นายตำรวจที่ถูกสอบสวนขึ้นเป็นนายพลตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สอบสวนมีมติให้ออกจากราชการ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเก็บเรื่องไว้อยู่ เนื่องจาก นายพลคนดังกล่าวจะเกษียณอายุราชการในปี2552นี้
