แม่เชื่อลูกฝ่าเคอร์ฟิวบุกปล้ำสาวใหญ่ เคยข่มขืนญาติ แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะคุยกันได้

แม่เชื่อลูกฝ่าเคอร์ฟิวบุกปล้ำสาวใหญ่ เคยข่มขืนญาติ แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะคุยกันได้

แม่เชื่อลูกฝ่าเคอร์ฟิวบุกปล้ำสาวใหญ่ เคยข่มขืนญาติ แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะคุยกันได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจออกหมายเรียกหนุ่มหื่นเพิ่งพ้นโทษ ฝ่าเคอร์ฟิวบุกบ้านหญิงวัย 52 ปี พยายามข่มขืน แม่ผู้ถูกกล่าวหายอมรับลูกชายเคยก่อเหตุข่มขืนลูกสาวญาติ จึงเชื่อครั้งนี้ลูกทำจริง วอนเข้ามอบตัว ห่วงหนีไปจะไม่มีข้าวกิน

ความคืบหน้ากรณีที่ นายพงษ์เทพ อายุประมาณ 40 – 50 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาไม่นาน ได้ก่อเหตุบุกงัดหน้าต่างเข้าไปใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน นางเหลือ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้กันใน ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ  จ.บุรีรัมย์ ขณะนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เหยื่อฮึดสู้จึงข่มขืนไม่สำเร็จ  

ล่าสุด (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุเนตร อินทมนตรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชำนิ  เจ้าของคดี ก็ได้ออกหมายเรียกนายพงษ์เทพ ผู้ถูกกล่าวหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่หากไม่มา ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่สอง หากไม่มาตามหมายเรียกอีก ก็จะออกหมายจับตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านของนายพงษ์เทพ  ผู้ถูกกล่าวหา ก็พบเพียงนางเติม (นามสมมติ) อายุ 60 ปี แม่ของนายพงษ์เทพ นั่งเลี้ยงหลานอยู่หน้าบ้าน จากการสอบถาม นางเติม บอกว่า ตั้งแต่ลูกชายถูกแจ้งความก็ไม่เคยเห็นลูกกลับมาบ้านอีกเลย พยายามไปถามหาที่บ้านญาติก็ไม่มีใครเห็น

ตนจึงเดินทางไปที่โรงพักเพื่อบอกตำรวจว่าไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ พร้อมฝากให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายอย่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ หากลูกทำผิดจริงก็ให้ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย   

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อหรือไม่ว่าลูกชายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงเพื่อนบ้าน นางเติม ก็ตอบตามตรงว่าเชื่อ เพราะถ้าลูกชายดื่มเหล้าเมาแล้วนิสัยจะเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน แต่ไม่เชื่อว่าจะมีการข่มขู่พยายามเอาชีวิตผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมยอมรับว่าเมื่อหลายปีก่อนลูกชายเคยไปข่มขืนลูกสาวของญาติพี่น้องตัวเอง แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะเป็นญาติจึงพูดคุยกันได้

ถามว่าหัวอกคนเป็นพ่อแม่ก็เสียใจที่ลูกชายทำเรื่องไม่ดี แต่ถึงจะเป็นยังไงก็ยังเป็นลูก แล้วที่ลูกหนีไปแบบนี้ก็เป็นห่วงไม่รู้ว่าจะได้กินข้าวหรือไม่ จึงอยากให้ลูกชายเข้ามอบตัวเพราะหากถูกตำรวจจับเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ก็ยังมีข้าวให้กิน และหากทำผิดจริงก็คงแล้วแต่เวรแต่กรรม เพราะแม่คงทำอะไรไม่ได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook