ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากโพสต์วิจารณ์ ผู้กองเบนซ์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจที่มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ต หลังจากมีผู้นำคลิปที่นักพูดรายนี้กล่าวว่า ตนเลิกเรียนคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพราะเกรงว่าจะทำให้ตนลื่นไหลทางเพศ
ผู้กองเบนซ์ กล่าวในคลิปดังกล่าวว่า หลังจากได้เข้าเรียนที่คณะดังกล่าว ตนพบว่าเพื่อนร่วมคณะที่เป็นเพศชาย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ และมีผู้ชายเพียงไม่กี่คน ซึ่งตนเกรงว่าหากอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ตนอาจมีลักษณะตุ้งติ้ง
"ผมเกือบเป็นตุ๊ดนะเว่ย ผมเกือบเป็นกะเทยเชื่อปะ เพราะว่าอะไร เพราะผมเข้าไปเรียนที่มหา'ลัยศิลปากร คณะอักษรศาสตร์ แล้วคณะนี้นะ เพื่อนแม่_ 800 คน แม่_มีผู้ชายแค่ 80 คน ชิ_หายกูเกือบแบบ... 'อีเบนซ์' เลยอะ คือจะเป็นอีเบนซ์ได้เลย เพราะอะไร เพื่อนในกลุ่มที่สนิทๆ กันมีอยู่ 30 คน 2 คนจ้า เป็นผู้ชาย 2 คนเท่านั้นจ้า แล้วอีกคนนึงเป็นแค่เพศชายจ้า กูชายแท้ นะ คุณอาจจะเห็นผมชอบทำมือทำไม้ คือบอกได้เลยแม่_เป็นจิตใต้สำนึก ติดมาตั้งแต่อักษรศิลปากรจ้า คือเกือบเป็นอีเบนซ์แล้ว ณ เวลาเนี้ย เอ๊ย! ณ เวลานั้น" ผู้กองเบนซ์ พูด
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโจมตีว่า การจะเป็นคนหลากหลายทางเพศได้ เกิดจากการติดจากเพื่อนตอนเรียนหนังสือได้อย่างนั้นหรือ คำพูดของผู้กองเบนซ์จึงสะท้อนถึงความคิดที่ไม่เปิดรับคนกลุ่มนี้นัก และมองว่าสามารถติดกันได้ราวกับเป็นโรคระบาด
ขณะเดียวกันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางคนก็ตั้งคำถามว่า ผู้กองเบนซ์สอบถามคนกลุ่ม LGBTQ ก่อนหรือยังว่าอยากเป็นเพื่อนหรือสุงสิงกับผู้กองเบนซ์หรือไม่
นอกจากนี้ หลายคนก็ยังนำเรื่องราวที่ผู้กองเบนซ์เคยเผชิญการถูกโซเชียลมีเดียโจมตีในอดีตมาพูดถึงมากมาย อย่างเช่น ที่พูดโจมตีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดธุรกิจของรัฐบาลจากโรคโควิด-19 ว่ากระจอก เมื่อไม่นานมานี้ หรือแม้แต่พูดถึงรากศัพท์ของคำว่าเดรัจฉาน โดยขาดความเข้าใจที่แท้จริง
ด้านชมรมนะจ๊ะ ซึ่งเป็นกลุ่มรวมตัวของนักศึกษา LGBTQ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกากร แถลงตอบโต้คำพูดของผู้กองเบนซ์ว่าไม่เหมาะสม และยิ่งทำให้สังคมเข้าใจความหลากหลายทางเพศผิดในหลายประเด็น ได้แก่