กองทัพเรือเปิดไทม์ไลน์ "พลทหารก็อต" ก่อนดับปริศนา วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป

กองทัพเรือเปิดไทม์ไลน์ "พลทหารก็อต" ก่อนดับปริศนา วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป

กองทัพเรือเปิดไทม์ไลน์ "พลทหารก็อต" ก่อนดับปริศนา วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี พลทหาร เจษฏากร หรือ ก็อต อายุ 21 ปี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิตในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยทางญาติๆ ต่างคาใจในสาเหตุของการเสียชีวิต

ล่าสุด (3 พ.ค.) พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในนามกองทัพเรือ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลทหาร เจษฎากร ซึ่งเป็นลูกหลานของประชาชนที่เข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกองทัพเรือ พร้อมกันนี้ในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการด่วน ตั้งแต่รับทราบเหตุการณ์ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ ที่ยังรอผลยืนยันการตรวจตามมาตรฐานแพทย์นิติเวช จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่นำเสนอข่าว อย่าเพิ่งละเมิดสิทธิของผู้ป่วย

ส่วนข้อจำกัดของหน่วยที่ไม่ได้ไปร่วมฟังสวดที่จังหวัดพิษณุโลก ใน 29 เม.ย. - 1 พ.ค. 63 แต่ก็ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการเป็นฝ่ายดำเนินการจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพ ไปส่งยังจังหวัดพิษณุโลกแล้ว พร้อมแสดงความตั้งใจจะร่วมเดินทางไปในวันฌาปนกิจเดิมใน 2 พ.ค.63 นั้น ก็สืบเนื่องจากมีข้อจำกัดการเดินทางไปต่างพื้นที่ในห้วงสถานการณ์ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ซึ่งก็อาจทำให้ส่งผลกระทบกับความรู้สึกของครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ตามที่ปรากฏในข่าว

สำหรับรายละเอียดเหตุการณ์ วันเกิดเหตุ (27 เม.ย.) มีดังนี้

  • เวลา 22.30 น. - พลทหาร เจษฎากร ได้กลับเข้ากรมกอง ภายหลังเสร็จภารกิจการ เข้าเวรจุดตรวจ
  • เวลา 00.30 น. - พลทหาร เจษฎากร เข้านอน หลังจากรับประทานอาหารในช่วงดึก
  • เวลา 01.50 น. - เพื่อนนอนเตียงติดกันได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ และพบว่า พลทหาร เจษฎา น้ำลายฟูมปาก จึงได้แจ้งนายเวรรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
  • เวลา 02.24 น. - ทีมแพทย์ได้พยายามช่วย อย่างเต็มความสามารถ แต่ พลทหาร เจษฎา เสียชีวิต จึงได้รีบแจ้งให้ทางบ้านของพลทหารได้รับทราบ

ในการนี้กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้สรุปเหตุการณ์เบื้องต้นรายงานด่วนถึงกองทัพเรือ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงในทันที ในส่วนของการช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้ รวบรวมเงินช่วยเหลือ และจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาที่จังหวัด พิษณุโลก พร้อมจัดพวงหรีดในนามหน่วย

ทั้งนี้ ในเรื่องที่เป็นข่าวว่าไม่มีผู้บังคับบัญชา หรือ ตัวแทนหน่วยไปร่วมงานฟังสวดศพเลยนั้น หน่วยชี้แจงว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ซึ่งได้มีการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเรื่องการเดินทางข้ามพื้นที่

อีกทั้งเป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ทำให้หน่วยงานต้นสังกัดของพลทหารเจษฎา คือกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 พิจารณาว่าจะจัดกำลังพลไปร่วมในพิธีฌาปนกิจศพ โดยต้องมีการทำหนังสือรับรองการกักกันตัวในหน่วย คัดเลือกกำลังพล เพื่อเดินทางไปร่วมงานของพลทหาร เจษฎา

ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนของการตรวจโรค เพื่อรับใบรับรองแพทย์ รวมทั้งต้องเสนอหนังสือขออนุญาตถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ในการไปราชการจำเป็นเป็นกรณีพิเศษ ในการเดินทางข้ามจังหวัดและผ่านช่วงเวลาเคอร์ฟิว

ในส่วนข้อมูลเรื่องสารพิษที่มีการนำเสนอว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของ พลทหาร เจษฎา นั้น จากผลการชันสูตรในเบื้องต้นทราบว่า ผลปัสสาวะไม่มีสารเสพติด , ผลเลือดและผลน้ำในกระเพาะอยู่ระหว่างการส่งไปตรวจแล็บภายนอก ต้องรอคอยเวลาแจ้งผลกลับมาไม่เกิน 1 สัปดาห์

ซึ่งขัดแย้งกับข่าวที่นำเสนอออกมาเรื่องสารฆ่าแมลงที่ทราบผลแล้ว จึงขอให้มีความชัดเจนในเรื่องผลการชันสูตรอีกครั้งหนึ่ง และหากผลตรวจพบว่ามีการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ หรือความผิดไปจากปกติแต่ประการใด ทางกองทัพเรือจะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสาเหตุ และแจ้งข่าวให้ทราบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook