Sanook คลุกข่าวเช้า 11 เม.ย. 63 นายกฯ แถลงย้ำ "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

Sanook คลุกข่าวเช้า 11 เม.ย. 63 นายกฯ แถลงย้ำ "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

Sanook คลุกข่าวเช้า 11 เม.ย. 63 นายกฯ แถลงย้ำ "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัปเดตข่าวสารยามเช้า ประจำวันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2563 ติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ล่าสุด ประยุทธ์ แถลงย้ำสัญญา "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ขอคนไทยสู้ภัยโควิด-19 ไปด้วยกัน,ผู้ว่าฯ กทม.สั่งงดจัดงานสงกรานต์ทุกรูปแบบ,กสทช.เผย คนกดรับสิทธิ์เน็ตฟรี วันแรกพุ่งเกิน 3 ล้านเบอร์

สามารถติดตามอ่านและใช้บริการกดฟังเสียงอ่านข่าว หรือเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ Sanook โดยสังเกตสัญลักษณ์รูปลำโพง แล้วให้ระบบ AI อ่านเนื้อหาให้ฟังได้อีกด้วย อย่าลืมติดตามฟังจนจบนะคะ

  • ประยุทธ์ แถลงย้ำสัญญา "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ขอคนไทยทุกคนสู้ภัยโควิด-19 ไปด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ในเวลาหลัง 18.00 น. เมื่อเย็นวานนี้เพื่อรายงานความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ในแต่ละด้าน

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้วยมาตรการลดการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ทั้งการรณรงค์เพื่อเพิ่มระยะห่างทางสังคม ส่งเสริมการทำงานที่บ้าน รวมทั้งยังมีมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อต่างๆ เป็นต้น

ด้านป้องกันและช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการรักษาความมั่นคง ประกอบด้วยการจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัด การประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ทั้งยังมีการจัดกำลังพลกว่า 2 หมื่นนายตั้งจุดตรวจมากกว่า 1,000 แห่งเป็นต้น

ด้านการควบคุมสินค้า ที่ผ่านมา 4 เดือนสามารถจับกุมและดำเนินคดีการขายสินค้าเกินราคา นอกจากนี้ยังประกาศให้หน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งมีการจับกุมผู้ทีกระทำความผิด พร้อมยึดของกลางต่างๆ มูลค่ารวมมากกว่า 177 ล้านบาท

ด้านการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยตั้งอยู่บนหลักการ "วันนี้ต้องรอด วันข้างหน้าต้องกลับมาเข้มแข็ง" ซึ่งช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติการดูแลและเยียวยาทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยแบ่งเป็นระยะ

ด้านการต่างประเทศ ที่ผ่านมาเน้นการกักตัวผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ชะลอการเดินทางกลับของชาวไทยในต่างประเทศ เป็นต้น

ด้านการสื่อสารในสภาวะวิกฤต ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินการกับข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน

ในตอนท้ายนายกฯ ยังให้คำสัญญาว่า "เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

  • วงการแฟชั่นแห่อาลัย "ตั้ว กีรติ" เสียชีวิตในบ้านพักนานนับเดือน พบร่างเหลือแต่กระดูก

เมื่อค่ำวานนี้ ร.ต.อ.ชาตรี ขาวสะอาด รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โชคชัย รับเหตุแจ้งพบร่างชายเสียชีวิตภายในบ้านย่านลาดพร้าว จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง  ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 2 ชั้น หน้าบ้านมีรถเบนซ์จอดอยู่ ตรวจสอบภายในบ้าน ที่โถงพบศพชาย สภาพแห้งเหลือแต่โครงกระดูก ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายกีรติ ชลสิทธิ์ หรือ ตั้ว ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง และเจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง "ดวงใจบิส"  ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน

ขณะที่ญาติของผู้ตายเปิดเผยว่า ติดต่อผู้ตายไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งผิดสังเกต จึงมาหาที่บ้านพัก พบว่าประตูบ้านล็อก แต่รถเบนซ์ยังจอดอยู่จึงเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะยังอยู่ในบ้าน จึงปีนรั้้วเข้าไปส่องดู ก็พบศพอยู่บริเวณห้องโถง ผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งความดัน เบาหวาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคประจำตัวกำเริบ และได้นำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป

ขณะที่เฟซบุ๊ก Kerati Chollasit ของ ตั้ว กีรติ มีเพื่อนสนิท รวมทั้งบุคคลในวงการแฟชั่น ต่างเข้ามาเขียนข้อความไว้อาลัยกันเป็นจำนวนมาก ทั้งรู้สึกช็อกกับการจากไปของดีไซเนอร์ชื่อดัง

  • ผู้ว่าฯ กทม.สั่งงดจัดงานสงกรานต์ทุกรูปแบบ งดกลับภูมิลำเนา-รดน้ำผู้ใหญ่ เลี่ยงแพร่เชื้อ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเมื่อวานนี้ พบว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม จำนวน 19 คน ยอดผู้ป่วยสะสมรวมจำนวน 1,262 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 44 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 491 คน และผู้ป่วยระหว่างรอรายงานผลการรักษา 31 คน

ที่ผ่านมาพบว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงเทพฯ ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการทำบุญและการจัดงานตามประเพณีสงกรานต์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อจึงขอให้งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา งดเว้นการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเด็ดขาด

  • กสทช.เผย คนกดรับสิทธิ์เน็ตฟรี วันแรกพุ่งเกิน 3 ล้านเบอร์

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่าวานนี้ยอดผู้ได้รับสิทธิ์เน็ตมือถือ 10 GB ฟรี วันแรก (ข้อมูลถึงเวลา 16.23 น.) มีจำนวน 3.03 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น เลขหมายในระบบเติมเงิน หรือ Prepaid 2.01 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 66.24% และเลขหมายในระบบรายเดือน หรือ Postpaid 1.02 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 33.76%

สำนักงาน กสทช. ขอย้ำว่าประชาชนไม่ต้องรีบกดรับสิทธิ์ มีเวลากดรับสิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2563 เวลา 24.00 น. เพื่อให้ใช้งานเน็ต 10 GB นี้ให้ได้นาน 30 วันเต็ม ใครที่เพิ่งเติมเงินซื้อแพ็คเกจไป แล้วระยะเวลาการใช้งาน สิ้นสุดในช่วงเวลาการกดรับสิทธิ์ แนะนำให้ใช้เน็ตของตัวเองให้หมดก่อนแล้วจึงค่อยกด *170*ตามด้วยหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก# แล้วกดโทรออกเพื่อรับสิทธิ์ หลังจากได้รับ sms ยืนยัน สามารถใช้งาน ได้ 30 วันเต็ม

สำหรับเน็ตบ้าน กสทช. และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายจะอัพสปีดเน็ตบ้านเป็น 100 Mbps ให้ฟรี 30 วัน โดยไม่ต้องกดรับสิทธิ์ หรือลงทะเบียน จะอัพสปีดให้ตั้งแต่วันนี้ (10 เม.ย. 2563) เป็นเวลา 30 วัน โดยประชาชนจะได้รับ 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ สำหรับบ้านใดที่ใช้ ADSL หรือสายทองแดง ผู้ให้บริการจะอัพสปีดให้เต็มความสามารถของอุปกรณ์ สำหรับบ้านที่ใช้ Fiber ที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่ถึง 100 Mbps จะอัพสปีดให้เป็น 100 Mbps ทันที โดยประชาชนสามารถใช้แอปพลิเคชัน Speedtest หรือเข้าเว็บ Speedtest เช็คความเร็วหลังจากได้รับการอัพสปีดแล้วได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่โอเปอเรเตอร์ที่ใช้งานอยู่ หรือ Call Center สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 ฟรี

อย่างไรก็ตาม กสทช. คาดว่าเน็ตมือถือที่เพิ่มให้ประชาชนอีก 10 GB และการอัพสปีดเน็ตบ้านให้แรงขึ้นเป็น 100 Mbps เป็นเวลา 30 วัน จะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการโทรคมนาคมที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทำงานที่บ้าน ตามนโยบาย Work From Home ของรัฐบาล โดยไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook