โพลชี้คนไทยสับสนตัวอักษร ฎ-ฏ แถมใช้ภาษาผิดเพียบ

โพลชี้คนไทยสับสนตัวอักษร ฎ-ฏ แถมใช้ภาษาผิดเพียบ

โพลชี้คนไทยสับสนตัวอักษร ฎ-ฏ แถมใช้ภาษาผิดเพียบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอแบคโพล สำรวจหัวข้อวันภาษาไทย เผยผลสำรวจคนไทยไม่รู้และเข้าใจในภาษาไทยสูงถึง 84.9% ไม่ทราบว่ามีกี่สระ สับสนตัวอักษร ฎ กับ ฏ มีปัญหาเขียนภาษาไทยผิดถึง 65.9% กลุ่มที่มีปัญหามากที่สุด เป็นวัยรุ่นถึงร้อยละ 80.6 ส่วนใหญ่เป็นนักร้อง-นักแสดง

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจภาคสนาม เรื่อง วันภาษาไทยแห่งชาติ กับสิ่งที่คนไทยต้องการรักษาไว้ในสังคมไทย: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 2,277 ตัวอย่าง ซึ่งดำเนินโครงการสำรวจในระหว่างวันที่ 17 - 20 กรกฎาคม 2552 พบประเด็นแรกที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.3 ไม่ทราบว่า วันภาษาไทยแห่งชาติตรงกับวันใด มีเพียงร้อยละ 14.7 ที่ทราบและตอบถูกว่า วันภาษาไทยแห่งชาติตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี

เมื่อสอบถามความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญของภาษาไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.9 ไม่ทราบว่าภาษาไทยมีสระกี่รูป ร้อยละ 81.2 ไม่ทราบความหมายของร้อยกรอง ร้อยละ 75.0 ไม่ทราบความหมายของร้อยแก้ว ร้อยละ 64.2 ไม่ทราบวรรณยุกต์ในภาษาไทยว่ามีกี่รูป และร้อยละ 11.7 ไม่ทราบว่าพยัญชนะไทยมีกี่ตัว

เมื่อถามถึงพยัญชนะภาษาไทยที่สับสนในการใช้มากที่สุด พบว่า ร้อยละ 26.1 ระบุเป็นตัว "ฎ" รองลงมาคือ ร้อยละ 13.6 ระบุเป็น "ฏ" ร้อยละ 9.8 ระบุเป็น "ร" ร้อยละ 5.8 ระบุเป็น "ฑ" ร้อยละ 4.5 ระบุเป็น "ณ" และร้อยละ 4.5 เท่ากัน ระบุเป็น "ฐ" ตามลำดับ

นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.9 มีปัญหาเรื่องเขียนภาษาไทยผิด ร้อยละ 31.9 จับใจความผิด ร้อยละ 29.6 พูดผิด ร้อยละ 27.5 อ่านผิด ร้อยละ 18.6 ฟังผิด เป็นต้น

ส่วนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาในการใช้ภาษาไทย ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.6 ระบุ คือ กลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 46.0 ระบุเป็นกลุ่มนักร้อง ร้อยละ 44.8 ระบุเป็นกลุ่มดารานักแสดง ร้อยละ 18.1 ระบุผู้ดำเนินรายการวิทยุ ร้อยละ 17.2 ระบุเป็นนักการเมือง ร้อยละ 17.2 ระบุเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ ร้อยละ 15.8 ระบุเป็นผู้ประกาศข่าว และร้อยละ 8.9 ระบุเป็นครูอาจารย์ ตามลำดับ

ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.5 ระบุต้องเร่งแก้ไขอนุรักษ์ฟื้นฟูการใช้ภาษาไทยในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เพียงร้อยละ 7.5 ระบุว่าไม่ต้องเร่งแก้ไข

เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่ต้องรักษาไว้ในสังคมไทย ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.2 ระบุเป็นศิลปวัฒนธรรม รองลงมา คือ ร้อยละ 68.5 ระบุภาษาไทย ร้อยละ 68.1 ระบุเป็นการช่วยเหลือ มีน้ำใจต่อกัน ร้อยละ 60.1 ระบุความกตัญญู รู้จักตอบแทนบุญคุณ ร้อยละ 59.5 ระบุการเคารพผู้อาวุโส ร้อยละ 59.0 ระบุความสามัคคี ร้อยละ 56.9 ระบุความรักชาติ ร้อยละ 54.1 ระบุการให้อภัย และร้อยละ 46.9 ระบุความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษและกฎแห่งกรรม ตามลำดับ

ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวว่า น่า เป็นห่วงว่าคนไทยยังมีความรู้ความเข้าใจในภาษาไทยไม่เพียงพอ โดยไม่ทราบจำนวนวรรณยุกต์ จำนวนสระว่ามีกี่รูป และไม่ทราบความหมายของร้อยแก้วร้อยกรองที่ถูกต้อง และที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน คือ ประชาชนไม่ถึงครึ่งที่คิดว่าความเชื่อเรื่องบาปบุญและกฎแห่งกรรม เป็นเรื่องที่ต้องรักษาไว้ในสังคมไทย จึงเสนอแนะให้ผู้ใหญ่ในสังคมเร่งทำอะไรบางอย่างที่จะช่วยเสริมสร้างความ ตระหนักในกลุ่มประชาชนคนไทยในการรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นคนไทย มุ่งเน้น "มิติทางสังคม" ในท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป ไม่มุ่งเน้นแต่เรื่องการพัฒนาทางเศรษฐกิจและวัตถุนิยมเพียงอย่างเดียว เสนอให้มีการเปิด คลีนิกภาษา ทั้งระดับชาติและท้องถิ่นไว้บริการประชาชน และควรทำกิจกรรมด้านภาษาไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีไม่รอการรณรงค์กันเฉพาะ ช่วงวันภาษาไทยแห่งชาติเท่านั้น

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่างประชาชนทั่วไปพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 54.2 ระบุเป็นหญิง ในขณะที่ร้อยละ 45.8 ระบุเป็นชาย ตัวอย่างร้อยละ 8.5 ระบุอายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 22.9 ระบุอายุระหว่าง 20-29 ปี ร้อยละ 27.6 ระบุอายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 20.7 ระบุอายุระหว่าง 40-49 ปี และร้อยละ 20.3 ระบุอายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 73.3 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ร้อยละ 24.0 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 2.7 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 35.6 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 17.9 ระบุเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 6.5 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 20.5 ระบุอาชีพรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป และร้อยละ 13.6 เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ได้แก่ แม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ เกษตรกร รวมถึงผู้ว่างงาน มีอยู่รวมกันร้อยละ 5.9

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook