สงสัยฝีมือ "ลูกเทพในตำนาน" หลังรถเก๋งครูถูกทุบกระจกพังยับที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

สงสัยฝีมือ "ลูกเทพในตำนาน" หลังรถเก๋งครูถูกทุบกระจกพังยับที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

สงสัยฝีมือ "ลูกเทพในตำนาน" หลังรถเก๋งครูถูกทุบกระจกพังยับที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รถครูถูกทุบกระจกหลังพังยับที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ผู้เห็นเหตุการณ์เผยคนร้ายเป็นชายร่างอ้วน ขี่บิ๊กไบค์มาก่อเหตุ คาดเป็นฝีมือลูกเทพในตำนาน

(16 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุรถเก๋งถูกคนร้ายใช้ก้อนหินทุบกระจกรถด้านหลังได้รับความเสียหาย ภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุ พบ รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน ของ นางพรประภา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กระจกด้านหลังด้านหลังรถแตกละเอียด และพบก้อนเศษอิฐบล็อก ขนาดกว้าง ประมาณ 2 นิ้ว ยาว ประมาณ 10 นิ้ว ตกอยู่ข้างรถเก๋งที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าเป็นเศษอิฐบล็อก ที่คนร้ายขว้างใส่กระจกรถเก๋ง

จากการสอบถาม น.ส.อัมพร ครูคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนยืนอยู่ที่หน้าห้องประชุม ได้เห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อก รูปร่างอ้วน ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบบิ๊กไบค์ มาจอดที่ด้านหลังของรถคันดังกล่าว จากนั้นตนได้ยินเสียงดังตูม และได้เห็นชายคนดังกล่าวรีบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หนีออกไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบวิ่งไปแจ้งนางพรประภา เจ้าของรถให้รีบมาดูรถ

สำหรับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 เคยเกิดเหตุการณ์รถถูกทุบกระจกมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2559 มีลูกชายของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานแห่งนี้ ได้รับฉายาว่า ลูกเทพ มาขอเงินแม่จำนวนหลายแสนบาท แล้วแม่ไม่ยอมให้ จึงได้ใช้ก้อนหินทุบกระจกรถ รวมทั้งจุดไฟเผารถข้าราชการในสำนักงานและข้าราชการที่มาติดต่อราชการ โดยมีการทุบรถไปแล้วกว่า 13 คัน และทุกครั้งที่มีการทุบรถแม่จะไปเจรจาค่าเสียหายกับเจ้าของรถทุกคัน ทำให้ลูกชายไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา มีพฤติกรรมใช้ก้อนหินทุบรถเก๋งครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ที่มาเข้ารับการอบรม ทำให้กระจกรถเก๋งด้านหลังเหตุเกิดที่บริเวณจุดเดียวกันนี้ แต่ว่าแม่ของคนร้ายได้ไปชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถเก๋งที่ได้รับความเสียหาย จึงไม่เป็นคดีความแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวัน พร้อมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมจะได้ตรวจเช็คจากกล้องวงปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook