ลูกสาว "ผอ.สุวรรณภูมิ" แฉเละ ปมพ่อลาออก ทั้งเรื่องผีน้อย-หน้ากากอนามัย

ลูกสาว "ผอ.สุวรรณภูมิ" แฉเละ ปมพ่อลาออก ทั้งเรื่องผีน้อย-หน้ากากอนามัย

ลูกสาว "ผอ.สุวรรณภูมิ" แฉเละ ปมพ่อลาออก ทั้งเรื่องผีน้อย-หน้ากากอนามัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลายเป็นกระแสตามมาในช่วงข้ามคืน หลังจากที่ น.ท.สุธีวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ ยื่นลาออกจากตำแหน่ง พร้อมเหตุผลที่ว่าบริหารจัดการไม่ดีในสถานการณ์โควิด-19 ไวรัสร้ายที่แพร่ระบาดในขณะนี้ รวมไปถึงกรณีที่ปล่อยให้แรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หรือกลุ่มผีน้อยเข้าประเทศทำให้เกิดความกังวลต่อการแพร่ระบาด

>> เปิดปม "ผอ.สุวรรณภูมิ" ยื่นใบลาออก ท้อใจไม่ได้รับความร่วมมือยับยั้งไวรัสโควิด-19

หลังข่าวนี้แพร่ออกไป ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งระบุตัวตนว่าเป็นบุตรสาวของน.ท.สุธีวัฒน์ เขียนข้อความระบายถึงประเด็นที่พ่อของตนเองลาออก แต่เหตุผลหลักมีการกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นในการช่วยกันป้องกันการเดินทางเข้ามาของกลุ่มแรงงานไทยผิดกฎหมาย

"เนื่องจากเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกทางการเมืองเท่าไหร่ แต่รอบนี้ไม่ไหวจริง

1.พ่อจะลาออกจริง

2.ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นจริง ในเมื่อขอความร่วมมือการท่าปฏิบัติทุกอย่าง แต่เมื่ออยากขอรวามร่วมมือบ้าง อาทิเช่นเรื่องเด็ดเลย กักตัวผีน้อย ดันบอก “ตัวเองไม่มีหน้าที่กักคนไทย กฎหมายไม่ได้ระบุไว้เลยไม่ทำ” อยากด่าแทนพ่อสั้นๆว่า อห. ที่ไม่ได้หมายความว่าโอ้โห

3.เรื่องหน้ากาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามบินสัมผัสทั้งทางตรงกับทางอ้อมของผู้โดยสารที่เข้า-ออกประเทศเป็นประจำทุกวัน การท่าทำเรื่องเพื่อขอซื้อ แต่ไม่ได้รับโควต้า เนื่องจากถูกรัฐบาลแย่งเอาไป ประเด็นคือถ้าเอาไปให้หมอหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ขาดแคลนจะไม่ว่า แต่นี่เอาไป... (คิดเอาเอง)

4.ยังมีอีกหลายเรื่องรวมกัน สรุปได้สั้นๆ เหตุเกิดมาจาก #รัฐบาล...

สุดท้ายลงท้ายด้วยคำพูดของพ่อ:

 “ในเมื่อทุกคนไม่ได้มีแนวคิดว่าขณะนี้เรามีวิกฤตของประเทศถ้าข้าราชการทุกหน่วยที่ต้องมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างคนต่างตั้งคอก ไม่คิดจับมือประสานงานไม่สามัคคี ต่างหน่วยต่างเกี่ยงให้ สธ.ต้องรับผิดชอบ และเผอิญคนที่ สธ.ส่งมาไม่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ เหตุการณ์เลยร้ายแรงกว่าที่ท่านทราบกันครับ”

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุุว่ายอมรับว่าก่อนหน้านี้โพสต์ข้อความไปด้วยอารมณ์ ทำให้อาจจะดูรุนแรงเกินไปบ้าง ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เกิดความแตกแยก เพียงแต่อยากเป็นกระบอกเสียงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ข้อความระบุว่า

"ก่อนอื่นหนูต้องขอโทษที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายในโพสต์ก่อนหน้านี้นะคะ อยากขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งมาให้คุณพ่อและครอบครัว

โดยสรุป: จริงๆแล้วไม่ได้ต้องการอะไรมากแค่อยากออกมาเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้คนที่มีอำนาจจริงๆได้คิด หาทางแก้ปัญหา และทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และขอเป็นกำลังใจให้กับบุคคลที่ทำงานทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังในทุกๆฝ่าย คนที่ทำดี อยากให้ทำดีต่อไป เชื่อเถอะค่ะมีคนเห็นความดีของคุณแน่นอน อย่างน้อยก็คนในครอบครัวของคุณ ที่เขาเป็นกำลังใจให้คุณเสมอมา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ทุกคนให้ปลอดภัยและผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ

เต็มๆ:

โพสต์ที่เขียนไปก่อนหน้านี้ยอมรับว่าใช้อารมณ์ และไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความแตกแยก แต่!!!
แต่ขณะเดียวกันก็พยายามอยากจะสื่อเพื่อให้หลายๆคนได้รู้ ”ความจริง” และเป็นบทเรียนต่อๆไป

ต้นตอจริงๆของเรื่องนี้ถ้ามองดีๆแล้วคือ ถ้าต่างคนทำหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายอย่างถูกต้องและซื่อตรง ถ้าคนเบื้องหน้าทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ถ้าทุกคนร่วมมือกันสามัคคีกันในช่วงเวลาวิกฤต ปัญหานี้จะไม่เกิดเลย จริงไหม?

สิ่งที่ออกมาในวันนี้ทำเพื่ออยากออกมาปกป้องคนที่ตั้งใจทำงาน คนที่ทุ่มเทเพื่อคนอื่นอยู่เบื้องหน้า ปกป้องคุณพ่อ ในเมื่อคุณพ่อเป็นคนที่เป็นแบบอย่างที่ดีเสมอมา เป็นคนดีตั้งใจทำงานและปลูกฝังให้เห็นคุณค่าของการทำความดีมาตลอด และ

“เราควรจะช่วยส่งเสริมคนที่ทำดีและควบคุมคนที่ทำไม่ดี ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อนและสังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้ไม่ใช่หรือ”

เอาจริงๆหนูก็เป็นแค่คนคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยากดังอะไร เป็นเพียงแค่นักศึกษาที่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ ปกติก็จะชอบอยู่แค่ในมุมของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองไป เพราะไม่ได้มีความรู้ไม่ได้รู้ลึกในเรื่องทางการเมืองหรืออื่นๆจริงๆ เลยไม่อยากตีความให้เสียหาย ไม่ได้รู้และสนใจเหตุการณ์บ้านเมืองเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าตอนนี้ต้องทำหน้าที่ของลูกและนักเรียนทุนที่ได้รับโอกาสให้ดีที่สุด เพื่อโตไปจะได้เอาความรู้ที่มีถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง และทำประโยชน์เพื่อสังคมได้บ้างไม่มากก็น้อย

สุดท้ายหนูอาจจะพูดไม่เก่งและสื่อความหมายต้องขอโทษด้วยนะคะ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook